ReadyPlanet.com


ค่าตอบแทน vs เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย


ที่เราได้เรียกว่าค่าตอบแทนสามารถเบิกเบี้ยเลี้ยง(ถ้าไปอบรม,ดูงาน)ได้ใช่หรือไม่    ซึ่งต่างกับของแพทย์ที่เป็นเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายที่ไม่สามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงอีกจ้ะ ขอคอนเฟิร์มให้ด้วย


ผู้ตั้งกระทู้ ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง :: วันที่ลงประกาศ 2009-03-19 15:55:24


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2964689)
ไม่ถูกต้องครับ เบี้ยประชุม 210 บาทนั้น จ่ายให้กับบุคลากรออกไปปฏิบัิติงานอื่นๆ เช่น อบรม ประชุม ดูงาน นอกพื้นที่ปฏิบัติงานจริง ส่วนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย จ่ายเพื่อให้ไปทำงานในพื้นที่นั้นๆ ดังนั้น บุคลากรที่รับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย จึงยังมีสิทธิในการเบิกเบี้ยประชุมหลังจากที่กลับจากการปฏิบัติงานนอกพื้นที่มาแล้วครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น หมอฟัน วันที่ตอบ 2009-03-19 18:17:21


ความคิดเห็นที่ 2 (2964695)

ความเห็นที่1ถูกต้องค่ะ การเบิกค่าตอบแทนคนละจุดประสงคื จึงสามารถเบิกได้ทั้ง 2อย่าง

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัดเจน วันที่ตอบ 2009-03-19 18:46:25


ความคิดเห็นที่ 3 (2964827)
พี่ครับ  ทำไม่ลูกจ้างถึงไม่ได้เงิน 1200 หรือ 1800 ละครับ  ในเมื่อทำงานที่ รพ. รพช เหมือนกัน  ขนาดลูกจ้างนักเรียนทุน อุสากลับมาทำงานที่บ้านเกิน กับไม่มีสิทธ์อะไรเลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ลูกจ้างไม่มีคุณค่า (tttt-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-20 00:23:28


ความคิดเห็นที่ 4 (2964895)
   งงอ่ะกับคำตอบที่ 1 และ2 เมื่อก่อนเราอยู่ในพื้นที่กันดารระดับ 2 ได้เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเดือนละ 2000 บาท แล้วเบิกเบี้ยเลี้ยงที่ไปประชุมไม่ได้เลยค่ะ เบิกได้เฉพาะค่าที่พัก พาหนะ ลงทะเบียน แต่เบี้ยเลี้ยงไม่ได้นะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ซาร่า (kavisa_19-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-03-20 07:28:22


ความคิดเห็นที่ 5 (2964934)

เคยถามนิติกรที่สสจ.เขาบอกว่าถ้าเป็นเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย(ระเบียบค่าตอบแทนข้อ6) จะเบิกเบี้ยเลี้ยงอีกไม่ได้ ส่วนที่พยาบาลพื้นที่ปกติได้จะเป็นค่าตอบแทนซึ่งเพิ่มเป็นข้อ9ในระเบียบจึงไม่ใช่เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายและสามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงได้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จขกท. วันที่ตอบ 2009-03-20 08:37:18


ความคิดเห็นที่ 6 (2965385)

เมื่อก่อนรพเรา ก็ปฏิบัติเหมือนคห 4และ5 ซึ่งไม่ถูกต้อง การจ่ายคนละจุดประสงค์ มีคนตั้งกระทู้ถามในที่ประชุมที่อุดรเมื่อ 12 -13 มีนาคม โฆษกกระทรวงสาธารณสุข นพ สุพรรณ ได้ตอบชัดเจน สามารถได้ หากรพไม่จ่ายให้ ก็สายตรงคุยกับนพ สุพรรณเลย ความจริงหัวหน้าบริหารน่าจะชัดเจน เพราะรับทราบความเข้าใจหม่แล้ว ก็ขอเอาใจช่วยนะกระทรวงเดียวกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น ชัดเจน วันที่ตอบ 2009-03-20 18:18:10


ความคิดเห็นที่ 7 (2965467)

ตกลงพยาบาลพื้นที่ปกติจะเบิกเบี้ยเลี้ยงอบรมได้หรือไม่คะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลพื้นที่ปกติ วันที่ตอบ 2009-03-20 21:34:42


ความคิดเห็นที่ 8 (2966658)
ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า
แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น.....
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง

ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น…… จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว
จงแสวงหา การหยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…

จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…….

กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า! …….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย
เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ ้นสุดลง
…..และเวลานี้….
ผู้แสดงความคิดเห็น nurse วันที่ตอบ 2009-03-22 21:00:07


ความคิดเห็นที่ 9 (2966823)
ฉันจะไปบวชชี
ผู้แสดงความคิดเห็น จขกท.(ล้อเล่น) วันที่ตอบ 2009-03-23 09:09:27


ความคิดเห็นที่ 10 (2967127)

เท่าที่ทราบถ้าเราได้เบี้ยเลี้ยงเดือน 1800 นี้แล้ว ผอ.บอกถ้าไปประชุมก็จะไม่สามารถเบิกเบี้ยเลี้ยงได้ จะเบิกแต่ค่าที่พักและค่าเดินทางเท่านั้น  ไม่ทราบว่าที่อื่นเป็นอย่างไรบ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น คนไม่เข้าใจ วันที่ตอบ 2009-03-23 13:38:26


ความคิดเห็นที่ 11 (2967168)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายสำหรับแพทย์ ทันตแพทย์
                   เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน พ.ศ. 2541
-------------------------------------------------

     เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานในชนบทสามารถให้การดูแลผู้มารับบริการได้อย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพยิ่งขึ้น เห็นควร กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายสำหรับแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนตามสภาพพื้นที่ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
     ฉะนั้น เพื่ออนุวัติตามมติคณะรัฐมนตรี ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0205/4507 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2540 ที่ นร 0205/5787 ลงวันที่ 25 เมษายน 2540 และที่ นร 0205/12211 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2540 ประกอบด้วยหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0514/3/987 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2531 และหนังสือ สำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร 0413/11790 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2540 และบันทึกกระทรวง- สาธารณสุข ที่ สธ 0215/22/124 ลงวันที่ 21 เมษายน 2540 กระทรวงสาธารณสุขจึงกำหนดหลักเกณฑ์ การจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ดังนี้

           ข้อ 1 ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพที่มีสิทธิได้ รับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
                 (1) ต้องปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน ที่มีจำนวนเตียงไม่เกิน 60 เตียง และมีแพทย์ประจำ ไม่เกิน 6 คน ในพื้นที่ปกติ สำหรับแพทย์ ทันตแพทย์และเภสัชกร หรือ
                 (2) ต้องปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน ในพื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลนตามที่ คณะกรรมการที่กระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้กำหนด
                 (3) ต้องปฏิบัติราชการเป็นการประจำที่โรงพยาบาลชุมชนแห่งนั้นไม่น้อยกว่า 5 เดือน ในปีงบประมาณที่เบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย
                 (4) ในปีหนึ่ง ต้องไม่ลาศึกษาหรืออบรมเกิน 4 สัปดาห์ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
                 (5) ไม่เป็นผู้ถูกลงโทษพักใช้ใบอนุญาต หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพ เพราะการประพฤติผิดจริยธรรม

           ข้อ 2 ให้แบ่งระดับโรงพยาบาลชุมชนตามสภาพพื้นที่ ดังนี้
                 (1) พื้นที่ปกติ
                 (2) พื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ระดับ 1
                 (3) พื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ระดับ 2

           ข้อ 3 การกำหนดรายชื่อโรงพยาบาลชุมชน ตามสภาพพื้นที่ตามข้อ 2 ให้เป็นไปตามรายชื่อ แนบท้ายประกาศนี้

           ข้อ 4 ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีปรับปรุงพื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ให้เหมาะสม ทุก ๆ 2 ปี

           ข้อ 5 ให้เบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ดังนี้
                 (1) พื้นที่ปกติ
                         แพทย์และทันตแพทย์    ปฏิบัติงานปีแรกได้รับคนละ        2,000 บาท/เดือน
                                                                    ปฏิบัติงานปีต่อ ๆ ไป ได้รับคนละ 2,200 บาท/เดือน
                         เภสัชกร                            ปฏิบัติงานปีแรกได้รับคนละ           1,700 บาท/เดือน
                                                                    ปฏิบัติงานปีต่อ ๆ ไป ได้รับคนละ 1,900 บาท/เดือน

                 (2) พื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ระดับ 1
                         แพทย์และทันตแพทย์   ได้รับคนละได้รับคนละ       10,000 บาท/เดือน
                         เภสัชกร                           ได้รับคนละได้รับคนละ       5,000 บาท/เดือน
                         พยาบาลวิชาชีพ              ได้รับคนละได้รับคนละ       1,000 บาท/เดือน

                 (3) พื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ระดับ 2
                         แพทย์และทันตแพทย์   ได้รับคนละได้รับคนละ       20,000 บาท/เดือน
                         เภสัชกร                           ได้รับคนละได้รับคนละ       10,000 บาท/เดือน
                         พยาบาลวิชาชีพ              ได้รับคนละได้รับคนละ       2,000 บาท/เดือน

           ข้อ 6 แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพที่เบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ตามข้อ 5 แล้ว จะใช้สิ*ธิเพื่อเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงในลักษณะอื่นอีกไม่ได้

           ข้อ 7 ให้หน่วยบริการจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายจากเงินงบประมาณ หมวดเงินอุดหนุนที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรให้

           ข้อ 8 ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ควบคุมการเบิกจ่าย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตามประกาศนี้

                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป

                                                               ประกาศ ณ วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2541

                                                       
ผู้แสดงความคิดเห็น จขกท.ดูข้อ 6 วันที่ตอบ 2009-03-23 14:24:02


ความคิดเห็นที่ 12 (2967198)

ดูข้อ 6 ค่ะ

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายสำหรับแพทย์ ทันตแพทย์
                   เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน พ.ศ. 2541
-------------------------------------------------

     เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานในชนบทสามารถให้การดูแลผู้มารับบริการได้อย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพยิ่งขึ้น เห็นควร กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายสำหรับแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนตามสภาพพื้นที่ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
     ฉะนั้น เพื่ออนุวัติตามมติคณะรัฐมนตรี ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0205/4507 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2540 ที่ นร 0205/5787 ลงวันที่ 25 เมษายน 2540 และที่ นร 0205/12211 ลงวันที่ 20 สิงหาคม 2540 ประกอบด้วยหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0514/3/987 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2531 และหนังสือ สำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร 0413/11790 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2540 และบันทึกกระทรวง- สาธารณสุข ที่ สธ 0215/22/124 ลงวันที่ 21 เมษายน 2540 กระทรวงสาธารณสุขจึงกำหนดหลักเกณฑ์ การจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ดังนี้

           ข้อ 1 ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพที่มีสิทธิได้ รับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
                 (1) ต้องปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน ที่มีจำนวนเตียงไม่เกิน 60 เตียง และมีแพทย์ประจำ ไม่เกิน 6 คน ในพื้นที่ปกติ สำหรับแพทย์ ทันตแพทย์และเภสัชกร หรือ
                 (2) ต้องปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน ในพื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลนตามที่ คณะกรรมการที่กระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้กำหนด
                 (3) ต้องปฏิบัติราชการเป็นการประจำที่โรงพยาบาลชุมชนแห่งนั้นไม่น้อยกว่า 5 เดือน ในปีงบประมาณที่เบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย
                 (4) ในปีหนึ่ง ต้องไม่ลาศึกษาหรืออบรมเกิน 4 สัปดาห์ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
                 (5) ไม่เป็นผู้ถูกลงโทษพักใช้ใบอนุญาต หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบ วิชาชีพ เพราะการประพฤติผิดจริยธรรม

           ข้อ 2 ให้แบ่งระดับโรงพยาบาลชุมชนตามสภาพพื้นที่ ดังนี้
                 (1) พื้นที่ปกติ
                 (2) พื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ระดับ 1
                 (3) พื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ระดับ 2

           ข้อ 3 การกำหนดรายชื่อโรงพยาบาลชุมชน ตามสภาพพื้นที่ตามข้อ 2 ให้เป็นไปตามรายชื่อ แนบท้ายประกาศนี้

           ข้อ 4 ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีปรับปรุงพื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ให้เหมาะสม ทุก ๆ 2 ปี

           ข้อ 5 ให้เบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ดังนี้
                 (1) พื้นที่ปกติ
                         แพทย์และทันตแพทย์    ปฏิบัติงานปีแรกได้รับคนละ        2,000 บาท/เดือน
                                                                    ปฏิบัติงานปีต่อ ๆ ไป ได้รับคนละ 2,200 บาท/เดือน
                         เภสัชกร                            ปฏิบัติงานปีแรกได้รับคนละ           1,700 บาท/เดือน
                                                                    ปฏิบัติงานปีต่อ ๆ ไป ได้รับคนละ 1,900 บาท/เดือน

                 (2) พื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ระดับ 1
                         แพทย์และทันตแพทย์   ได้รับคนละได้รับคนละ       10,000 บาท/เดือน
                         เภสัชกร                           ได้รับคนละได้รับคนละ       5,000 บาท/เดือน
                         พยาบาลวิชาชีพ              ได้รับคนละได้รับคนละ       1,000 บาท/เดือน

                 (3) พื้นที่ทุรกันดารและขาดแคลน ระดับ 2
                         แพทย์และทันตแพทย์   ได้รับคนละได้รับคนละ       20,000 บาท/เดือน
                         เภสัชกร                           ได้รับคนละได้รับคนละ       10,000 บาท/เดือน
                         พยาบาลวิชาชีพ              ได้รับคนละได้รับคนละ       2,000 บาท/เดือน

           ข้อ 6 แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลวิชาชีพที่เบิกค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ตามข้อ 5 แล้ว จะใช้สิ*ธิเพื่อเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงในลักษณะอื่นอีกไม่ได้

           ข้อ 7 ให้หน่วยบริการจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายจากเงินงบประมาณ หมวดเงินอุดหนุนที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้จัดสรรให้

           ข้อ 8 ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ควบคุมการเบิกจ่าย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตามประกาศนี้

                    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป

                                                               ประกาศ ณ วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2541

                                                       
ผู้แสดงความคิดเห็น จขกท. วันที่ตอบ 2009-03-23 15:07:46


ความคิดเห็นที่ 13 (2967822)

ประชุมที่อุดรธานี  วันที่ 12 - 13  มีนาคม 52  วิทยากรบนเวที   ที่มาจากกระทรวงสาธารณสุข และ  กพ.   บอกว่า  "เบิกได้" เพราะคนละส่วนกัน  

ถามไปที่   สสจ.   ก็ได้ค่ะ    มีไปประชุมด้วยกันตั้งเยอะ   พวกเรายังได้คุยกันเลยว่า   ที่ผ่านมาเข้าใจผิดมาตลอดว่าเบิกไม่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น งง วันที่ตอบ 2009-03-24 11:42:52


ความคิดเห็นที่ 14 (2968126)
เบิกมานานแล้วค่ะคนละส่วนกันค่ะ คห13 เข้าใจถูกต้อง คห12 ระเบียบเก่าจ้า ระเบียบใหม่ให้ถามที่จังหวัดนะคะ กระทรวงเดียวกันก็ต้องได้เหมือนกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น ชัดเจน วันที่ตอบ 2009-03-24 17:51:52


ความคิดเห็นที่ 15 (3069626)
ทำไมค่าตอบแทนเงินต่างๆของพยาบาลถึงได้น้อยกว่า  แพทย์ เภสัด มาก แพทย์ได้มากชั้นเข้าใจเพราะรับผิดชอบชีวิตคน โดนฟ้องร้อง  แต่เภสัดถ้าเทียบกับพยาบาลแล้วเนื้องานพยาบาลรับผิดชอบเเยอะกว่า มากกว่า ทำงานเสี่ยงกว่า แต่ค่าตอบแทนเหลื่อมลำกันมาก อย่าอ้างนะว่าพยาบาลคนจำนวนเยอะเลยต้องจ่ายแค่นี้ เพราะได้ยินบ่อย หรือญาติๆไม่ได้เป็นพยาบาล เป็นแต่หมอ เภสัด ยังไงสภาพยาบาลก็ช่วยทำอะไร เพื่อให้พยาบาลได้รับความยุติธรรมบ้าง เห็นไม่มีเจ้าหน้าlab ห้องยา หมอไม่มี การเงินไม่มี เวชระเบียนไม่มีก็ให้แต่พยาบาลคนเดียวเลยทำแทนหมด เภสัดเคยออกมาจากห้องยาไหม  สรุปพยาบาลโดนเรียกทำงานได้แทนคนอื่น  แต่ค่าตอบแทนไม่สมกับงานที่โยนให้ทำเลยอ้างแต่คนไม่พอ ขอบอกเหลื่อมล้ำมากด้วย เมื่อไหร่จะเจอผู้บริหารที่เข้าใจชีวิตพยาบาลบาง
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาล วันที่ตอบ 2009-08-20 16:19:54


ความคิดเห็นที่ 16 (3072038)

คห.11 และ 12 คุณเป็นคนที่ตอบคำถาม หรืออ้างอิงคำพูดได้ดีมาก ๆ สมกับที่ได้รับราชการ และปฏิบัติงานบนพื้นฐานของความเป็นจริงตามกฎระเบียบ ยอดเยี่ยมมาก ยกให้ ยกให้ ส่วนผู้ที่อ้างถึงบุคคลที่โดยไม่มีสิ่งยืนยัน และนำไปปฏิบัตินั้น โปรดทบทวนหน่อยนะครับ อย่าลืมว่าผู้ตรวจสอบเขาตรวจสอบตามหนังสือ ตามเอกสาร หลักฐาน พึงระวังและทบทวนด้วย

            ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ในระดับกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กรุณาออกหนังสือแจ้งเวียนให้ความกระจ่างชัดเจนด่วน อย่ามัวเบ่งกล้ามศักดิ์ศรีใส่กัน ยอม ๆ กันหน่อย นะคุณข้าราชการทั้งหลายเพื่อความสงบในสายสาธารณสุข

ผู้แสดงความคิดเห็น bljts วันที่ตอบ 2009-08-24 09:20:55


ความคิดเห็นที่ 17 (3209927)

ขอแสดงความคิดเห็นเพื่อชี้แจ้งความเห็นที่ 12,13,14,15  ซึ่งตอนนี้เชื่อว่า คงจะเข้าใจกันถูกต้องตรงกันแล้วนะคะ เพราะว่ามีระเบียบค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายออกมาเพิ่มเติม คือฉบับที่ 4 ซึ่งจ่ายสำหรับแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลวิชาชีพ(ในรพ.ชุมชนและสถานีอนามัย)  ,ฉบับที่ 6 ซึ่งจ่ายสำหรับเจ้าหน้าที่อื่นๆในรพ.ชุมขนและสถานีอนามัย   ซึ่งต้องมีตำแหน่งตามที่ กพ. กำหนด  ซึ่งแม้เป็นลูกจ้างชั่วคราวก็สามารถเบิกจ่ายตามระเบียบฉบับที่ 6  ได้หากได้จัดจ้างไว้ตรงตำแหน่งตามที่ กพ.กำหนด  และฉบับที่ 7 สำหรับ รพ.ศูนย์และรพ.ทั่วไป   โดยตอนนี้ได้มีหนังสือเวียนของกระทรวงสาธารณสุขที่ สธ 0205.02.4/197  ลงวันที่  12  กุมภาพันธ์  2553  ให้เบิกค่าตอบแทนดังกล่าวได้จากเงินงบประมาณสำหรับข้าราชการ พนักงานราชการ ส่วนลูกจ้างชั่วคราวที่จ้างจากเงินบำรุงให้เบิกจากเงินบำรุงของสถานบริการเอง  ส่วนคำถามที่ว่าถ้าเบิกเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายตามระเบียบฉบับที่ 4 ฉบับที่ 6 และฉบับที่ 7 แล้ว ยังใช้สิทธิเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงในการเดินทางไปราชการ เพื่อเข้าร่วมฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ได้อีกหรือไม่  ขอตอบว่า "เบิกได้"   เพราะว่า การเบิกเบี้ยเลี้ยงในการเดินทางไปราชการ ใช้ระเบียบพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และแก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 2 พ.ศ. 2549 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. 2549  ซึ่งเป็นคนละระเบียบคนละวาระกัน  ทั้งนี้ขอให้กลับไปดูระเบียบ ข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  พ.ศ. 2544  ในข้อ 6.  ความว่า  "การได้รับเงินค่าตอบแทนตามข้อบังคับนี้ ไม่กระทบกระเทีอนสิทธิของเจ้าหน้าที่ที่จะได้รับเงินอื่นใดที่พึงจ่ายในทำนองเดียวกันตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหลักเกณฑ์อื่น"  สรุปได้ว่า ข้อนี้จึงเป็นข้อยกเว้นว่า ทำไมจึงจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถเบิกจ่ายค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายได้ เพราะว่าการจ่ายค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข จะไม่กระทบสิทธิกับสิทธิการเบิกเบี้ยเลี้ยงในการเดินทางไปราชการตามระเบียบที่อ้างถึงข้างต้น   ซึ่งระเบียบค่าตอบแทนฯ พ.ศ. 2544  เป็นระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขใช้ในปัจจุบัน  ดังนั้นระเบียบนี้คือกฏระเบียบการจ่ายค่าตอบแทนของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นหลักเกณฑ์สำคัญ  หากเปรียบเทียบคือ ถือเป็นกฎหมายแม่ในการจ่ายค่าตอบแทน ส่วนกฏระเบียบอื่นที่ตามออกมาไม่ว่าจะเป็นฉบับที่ 4 ฉบับที่ 5 ฉบับที่ 6 และฉบับที่ 7  ถือเป็นกฎหมายลูก  เพื่อความเข้าใจยังงัยขอให้กลับไปอ่านระเบียบและหลักเกณฑ์การจ่ายแนบท้ายระเบียบให้เข้าใจด้วยนะคะ  หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อที่ส่วนกลาง สำนักบริหารกลาง กระทรวงสาธารณสุข จะได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดค่ะ   และหากมีข้อสงสัยในการเบิกจ่ายของแต่ละแห่ง ขอให้ทำเรื่องเข้าใจในแต่ละหน่วยงานก่อนค่ะ เพราะระเบียบบางข้อยังให้อยู่ในดุลพินิจการจ่ายตามสถานการเงินบำรุงของแต่ละแห่ง  และยังขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนของแต่ละจังหวัดด้วยนะคะ  เพราะงั้นควรมีการพูดคุยกันให้เข้าใจตรงกันก่อนนะคะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น kaew วันที่ตอบ 2010-04-08 10:01:26


ความคิดเห็นที่ 18 (3224486)

เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายกับเบี้ยกันดารต่างกันอย่างไรครับ

ถ้าได้เบี้ยกันดารจะได้เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายหรือเปล่า

 

ผู้แสดงความคิดเห็น tum วันที่ตอบ 2010-06-13 01:21:29


ความคิดเห็นที่ 19 (3226411)

 สงสัยมากเลย  ไปอบรมตามนโยบาย14 วัน(ตามหลักสูตร)  กลับมาการเงินทวงเงิน  1800 บาท  งง มากเลยอบรมเชิงนโยบายมันถือเป็นวันราชการไม่ใช่เหรอคะ  ใครทราบตอบด่วนจ้า

ผู้แสดงความคิดเห็น สุมา (sumawee-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-21 22:54:32


ความคิดเห็นที่ 20 (3231508)
เราเป็นหมออนามัยตำแหน่งนวก.สาธารณสุขปฏิบัติงานในพื้นที่ห่างไกลและโดยปล่อยให้อยู่ สอ.คนเดียวบ่อยๆ ตามระเบียบเขาว่ารักษาพยาบาลไม่ได้แต่ต้องทำหมดรักษาฉีดวัคซีนรับฝากครรภ์ออกนามัยโรงเรียนออกควบคุมโรคเงินค่าตอบแทน 1800 บาทก็ได้บ้างไม่หัวหน้าว่าเงินบำรุงไม่ค่อยพอเบิกไปสสจ.ก็ขัดข้องตามระเบียบใหม่ไม่อยากคิดมาก ไม่อยากเรียกร้องเพคนชายขอบอยู่รากหญ้า..แต่ดีใจที่ประชาชนเรียกหมอทุกคำทุกคนเรามั่นใจว่าเราทำงานเพื่อประชาชนจริง ๆเวลาทำงานก็อยู่ในชุมชนไม่ชอบอ้างว่าทำเพื่อประชาชนแต่ประชาชนไม่เคยได้รับสิ่งที่ดีๆ ได้รับการกล่าวถึงเห็นที่พูดกัน เถียงกัน มันก็เรื่องตัวเองทั้งนั้น...ขอระบายแค่นี้ละ..จากหมออนามัย...จังหวัดชายแดนใต้
ผู้แสดงความคิดเห็น หมออนามัยชายแดน วันที่ตอบ 2010-07-16 13:40:09


ความคิดเห็นที่ 21 (3241961)
flat ugg classic mini boots ugg boot many potholes and ruts lying in wait that said the local riders expertly maintain the trail most of trail is a beginner trail but includes uggs for sale ugg boots for sale
ผู้แสดงความคิดเห็น invicta watches วันที่ตอบ 2010-08-25 18:02:45


ความคิดเห็นที่ 22 (3242518)
reliable women"s bags one of these things are the handbag men"s gucci timepieces paris catherine the family the popularity of the replica louis vuitton women"s bag replica louis vuitton handba
ผู้แสดงความคิดเห็น replica rolex วันที่ตอบ 2010-08-25 20:45:11


ความคิดเห็นที่ 23 (3249702)

โรงพยาบาลพระจอมเกล้าไม่ให้เงินเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายแล้ว  ควรทำอย่างไรดี

ผู้แสดงความคิดเห็น น้อยใจ วันที่ตอบ 2010-09-21 15:34:20


ความคิดเห็นที่ 24 (3250477)
boots boots ug boots ug boots discount ugg boots discount ugg boots ugg ladies boots ugg ladies boots
ผู้แสดงความคิดเห็น rolex replica วันที่ตอบ 2010-09-22 01:54:41


ความคิดเห็นที่ 25 (3348700)
ความเห็นที่15คะเภสัชเสียเปรียบกว่าทุกอาชีพคะตามหลักการจ่ายยาเภสัชมีหน้าcheckและตรวจสอบหมอคะเภสัชจะต้องใช้ความรู้ทั้งหมดทั้งมวล6ปี...ที่มีมาคำนวณโดสยา.....เช็คปฏิกิริยาระหว่างยา...ปรับขนาดยาตามการทำงานตับไต...ตรวจสอบการใช้ยาตามguidlineของแพทย์เลือกยาให้เหมาะสมสำหรับแต่ละพื้นที่รู้จักเชื้อดื้อยาไหมคะดูยาที่หมอเลือกตรงกับโรคไหม....ยาที่หมอใช้ในกลุ่มเดียวกันตัวไหนออกฤทธิดีสุดที่ต่อบริเวณทีทำการรักษา....คำนวณยาฉีด...ตรวจสอบขนาดยาพร้อมกับคำนวณค่าINRพร้อมหาสาเหตุ...คำนวณยาเดกคนแก่....เทคนิกการให้ยาพิเศษยาพ่นยาฉีด.....คิดค่าelectrolyteเสนอแนวทางแก้ไขใ้หแพทย์..ติดตามแลบ.....การประเมิณการแพ้ยาข้ามกลุ่มในกลุ่มและใช้ตัวไหนแทน..ให้ข้อมูลสารสนเทศทางยา...คลีนิกวัณโรค..คลีนิกโรคเอดส์...งานเคมีบำบัด....งานฝ่ายผลิต..."งานคลังยา..งานคุ้มครองผู้บริโภค..ยังมีอีกมากนะคะเล่าสามวันกอไม่จบเชิญเรียนเองเลยคะจะได้รู้ที่พยาบาลอย่างคุณไม่รู้คือเงินแค่นีเภสัชทำได้มากกว่าอีกคะถ้าอยู่เอกชน...จะมาเทียบกับเภสัชไม่ได้หรอกคะเราคนละงานกันเภสัชกรกอคือกรรมกรทางสมองพยาบาลต้องเองกอควรให้เกียรกันบางไม่ควรก้าวล่วงอาชีพเภสัชให้บ่อยนะคะคลีนิกพวกคุณเขาให่จ่ายยาตามคู่มือสภา14ตัว...บางแห่งทำตัวเปนร้า่นยาเองจ่ายทุกตัวแถมขายเองอีกทั้งทีเค้าให้ตรวจก่อน....เก่งนะคะเภสัชเรียนตั้ง6ปีคัดเอาเดกเก่งๆเรียนด้วยนะคะยังต้องใช้เวลา6ปีแถมเงินได้น้อยกว่าแพทย์ทันตะอีกคุนคิดว่าเภสัชเสียเปรียบไหม...คะแนนสอบเข้านี้พอๆกับหมอทันตะเลยนะคะลงทุนสูงมากไปไหมแต่บางคนไม่ได้ขยันเลยกอเรียกร้องเกินกรอบอาชีพของตนทำตนเปนหมอ+เภสัชในคนๆเดียวกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น ิืื่้กฟอ วันที่ตอบ 2012-11-18 00:49:27


ความคิดเห็นที่ 26 (3478524)
รบกวนสอบถามค่ะพอดีทำงานตำแหน่งนักวิการสาธารณสุข(ลูกจ้างรายวัน)ทำมา2ปี6เดือนมีสิทธิได้รับค่าตอบแทน1800มั้ยค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น จอย วันที่ตอบ 2016-06-03 21:10:35


ความคิดเห็นที่ 27 (4199003)

 กรณี พยาบาลวิชาชีพไปอบรมเวชปฏิบัติฯ เป็นเวลา 4 เดือน สามารถเบิกค่าตอบแทน ฉ.11 ได้หรือไม่  ไม่ได้ปฏิบัติงานที่ รพ.สต. เลยในช่วงเวลาที่ไปอบรมฯ (คือปฏิบัติงานที่หน่วยงานต้นฯ ไม่ครบ 15 วันทำการ)

ผู้แสดงความคิดเห็น สสอ.โนนสูง วันที่ตอบ 2020-06-08 09:44:08



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.