|
นัดวันที่ 9 มค นี้ โปรดพิจารณา | ||||
| ||||
ผู้ตั้งกระทู้ rural :: วันที่ลงประกาศ 2008-12-28 16:09:38 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1399465) | |
ไม่ได้เกี่ยวกับหมอ ไม่เกี่ยวกับใคร ได้ก็ได้ไป เพียงแต่ขอความเป็นธรรมบ้าง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลแสนซนคนสวย วันที่ตอบ 2008-12-28 16:25:54 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1399474) | |
เห็นด้วยค่ะกับกระทู้ เราต้องมีเหตุมีผลที่ดี หมอบางคนไม่รู้เรื่อง รู้แต่หมอที่ไปประชุม หมอที่เอาผลประโยชน์เข้าตัวเองผลตามมาคือ วิชาชีพต้องมาทะเลาะกัน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลจาวเหนือสวยที่สุด วันที่ตอบ 2008-12-28 18:40:59 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1399480) | |
การไปวันที่ 9 มกราคมนี้ ไม่ได้ไปเรียกร้องว่าต้องได้เท่านั้นเท่านี้ ไม่ได้ว่าหมอนะคะ ไม่ได้ต้องการทะเลาะ ต้องการให้ผู้ใหญ่เห็นว่าที่ผ่านมาควรมีเหตุผลในการตอบคำถามที่ชัดเจนกว่านี้ ไม่ใช่บอกว่าพยาบาลมีคนจำนวนมาก พยาบาลมีคนจำนวนมาก ขึ้นค่าตอบแทนไม่ได้ ขึ้นค่าตอบแทนไม่ได้อยู่นั่นแหละ แล้วผู้ใหญ่รู้ไหมล่ะภาระงานหลังจากเวลา 16.00 น. คือพยาบาลเป็นผู้ที่ทำหน้าที่แทนแพทย์และเภสัชกร อาจมีบางแห่งที่มีเจ้าหน้าที่ห้องยา(ไม่ใช่เภสัชกรทั้งหมดนะ) มาขึ้นเวรตอนเย็น หมองานมากและเหนื่อแล้ว แต่ผ่องถ่ายให้พยาบาลรับช่วงต่อในตอนเย็น ก็ไม่ควรตีเหมารวมว่าเป็นค่างานของหมอทั้งหมด มองเห็นบ้างว่านั่นคือค่าของงานที่พยาบาลได้แบ่งเบาภาระให้เพื่อนร่วมงาน ตลอดเวลาที่ผ่านมาและคิดว่าต่อๆไปด้วยซ้ำ นอกจากว่าพวกเราพยาบาลจะเลิกทำหน้าที่แทนทุกหน้าที่ ที่ไม่ใช่ภาระหน้าที่ของพยาบาล ดีหรือไม่ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ขอให้พวกเราพิจารณาเช่นกัน วันที่ตอบ 2008-12-28 19:28:35 |
ความคิดเห็นที่ 4 (1399514) | |
เงิน เป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ในการทำงานแต่ละสาขายังได้รับไม่เท่ากันอย่าลืมหันมองงานจ่ายกลางด้วยที่ไม่เคยได้รับเงินเพิ่มด้วยเหตุผลไม่ได้ทำการพยาบาล ถ้าอยากได้ก็ไปทำงานOPD,LR,ORเป็นบางช่วงเวลาอนิจจาผู้บริหารการพยาบาลประเทศไทย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลแก่ วันที่ตอบ 2008-12-28 21:32:30 |
ความคิดเห็นที่ 5 (1399621) | |
อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้ท่านผู้ใหญ่ในกระทรวงทราบว่าในการทำงานดูแลคนไข้ ยังมีวิชาชีพอื่นอีกมากมาย ที่ท่านมองข้ามไม่เห็นความสำคัญ ในการพิจารณาค่าตอบแทนต่าง ๆ ท่านมองเห็นเพียงบุคลากรบางกลุ่ม อยากวิงวอนท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เป็นตัวแทนของชมรมแพทย์ชนบท ให้หันมามองเบื้องหลังความสำเร็จทั้งหลายแหล่ มาจากไหนบ้าง ถ้าไม่มีพวกเขาเหล่านั้นท่านก็ไม่สามารถดูแลคนไข้ได้สำเร็จหรอก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น บุคลากรสาธารณสุขอื่น วันที่ตอบ 2008-12-29 09:16:17 |
ความคิดเห็นที่ 6 (1399645) | |
เห็นด้วยอย่างแรง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลไม่แก่ วันที่ตอบ 2008-12-29 09:58:21 |
ความคิดเห็นที่ 7 (1399891) | |
จริงด้วยแฮะ ฐานรากของโบสถ์ที่แข็งแรงมั่นคงและหนักอึ้ง แต่ก็ส่งให้ตัวโบสถ์และยอดแหลมโดดเด่นขึ้นและก็ทำให้มีคนมองเห็นชัดเจนที่สุด ส่วนฐานล่างและพื้นเป็นที่รองรับผู้คนให้ชื่นชมความสวยงาม แต่ถ้าดูแลให้ดูดีและสวยงามทุกชั้นก็จะทำให้ผู้คนมองว่า โอ้ ทำไมดูแลดีขนาดนี้ แม้แต่บริเวณรอบข้างก็ดูสวยงามเหลือเกิน ไม่เปล่งประกายแสงเฉพาะส่วนที่อยู่สูงเท่านั้น ผู้มีอำนาจในกระทรวง ดูแลทั่วๆหน่อยนะ อย่าให้ฐานรากเศร้าหมองอยู่เลย เดี๋ยวไม่มีคนมาชื่นชมความสวยงามและมีคุณค่านะ เพราะฐานรากผุพังโอบปูนตัวตึกแค่ไหน ตัวยอดสวยแค่ไหนก็อยู่ไม่ได้ คงพังลงมาสักวัน และจะเข้าไปชื่นชมภายในได้ต้องเดินผ่านลานกว้างและบันไดทางขึ้นก่อนนะ ดูแลหน่อยๆๆๆๆๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อยากคนสาสุขรักกันเหมือนเดิม วันที่ตอบ 2008-12-30 07:02:00 |
ความคิดเห็นที่ 8 (1399991) | |
เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายจ่ายในกรณีวิชาชีพขาดแคลนหรือพื้นที่ทุรกันดารซึ่งพยาบาลที่เขดพื้นที่ทุรกันดารก็ได้ค่าตอบแทนเช่นกันแต่ก็น่าเห็นใจวิชาชีพคุณอยู่ก็ควรได้ทุกคนนั่นแหละแต่ต้องดูเขตพื้นที่ทุรกันดารด้วยก็ควรได้มากกว่าเพราะเค้าเสียสละอยู่ที่เสี่ยงภัยหรือบ้านนอกแล้วแต่แค่อย่าให้เกิดความเหลื่อมล้ำในแต่ละวิชาชีพก็พอ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น Ps วันที่ตอบ 2008-12-30 13:34:49 |
ความคิดเห็นที่ 9 (1399992) | |
เห็นด้วยกับความเห็นที่ 8 คะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาล วันที่ตอบ 2008-12-30 13:36:27 |
ความคิดเห็นที่ 10 (1400021) | |
เป็นหัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนมาตั้งแต่เปิดโรงพยาบาล 2526 เป็นโรงพยาบาลที่รับผิดชอบประชากร ประมาณ 70000 คนได้ประสบการณ์มาพอสมควร ได้ร่วมทำงานบุคลากรวิชาชีพแพทย์ เภสัชฯ พยาบาล มาทุกวิชาชีพ ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี อยู่ร่วมในองค์กร การที่ผู้มีอำนาจมองเห็นปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งระบบราชการก็ทราบดีว่าค่าตอบแทนน้อย ทำให้เกิดวิกฤติสมองไหล ไม่ว่า แพทย์ พยาบาล ก็ไมเข้าระบบราชการ จากการที่ผู้บริหารแพทย์ชนบท ได้นำเรื่องนี้เข้าไปชี้แจ้งและหาวิธีการแก้ปัญหา โดยการเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่แพทย์ เภสัชฯ และพยาบาล แต่รายละเอียดนั้น มองลึกลงไปพบว่า คนที่คิดนั้นก็ยังเป็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัว จากการวิเคราะห์ ขอใช้คำว่ากระหื่นกระหือรือ บ่งบอกพฤติกรรมผู้บริหารกลุ่มแพทย์ชนบท ได้อย่างแท้จริง เพราะการแก้ปัญหาที่ต้องการเพิ่มค่าตอบแทนให้กับแพทย์ อาชีพเดี่ยว ก็กลัวเค้าว่าเห็นแก่ตัว ก็เอาวิชาชีพเภสัชฯเข้าไปด้วย เพื่อจะได้ดูดี แต่หากจะเอาพยาบาลเข้าไปด้วยอีกก็กลัวจะไม่ได้ค่าตอบแทน เพราะพยาบาลมีจำนวนมากกว่าเภสัชฯ จึงได้ทำระเบียบออกมาต่อรองเพราะความเป็นไปได้สูง งบประมาณก็ไม่สูงเกินไป หากมีพยาบาลพ่วงเข้าไปด้วย งบประมาณ ก็จะมากเกินไป กลัวไม่ผ่านสภา (คิดได้งัย คิดเอาแต่ได้) คนที่คิดนะคิดดีแต่ปฏิบัติไม่เข้าท่า ในฐานะพยาบาลวิชาชีพ มีใจเป็นธรรมและมีคุณธรรมพอ คุณบอกว่า วัตถุประสงค์ต้องการแก้ปัญหาแพทย์สมองไหล คุณก็ควรพิจารณาแพทย์ และแก้ปัญหาด้วยเพิ่มค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ให้กับแพทย์ ตามอายุงาน เราเป็นพยาบาล รับได้แต่ต้องลงรายละเอียดและชี้แจ้งมากว่านี้ควรจะมีระยะเวลา ในการจัดสรรงบประมาณ ทดลอง 2 ปีก่อนและสรุปผล และรายละเอียดควรจะเป็นแพทย์ที่เสียสละอย่างเต็มเวลา(ไม่เปิดคลินิคหรือเปิดคลินิคเฉพาะหลังเลิกงาน 16.30 น เป็นต้นไป ไม่เปิด เช้า -กลางวัน) หรือให้ค่าตอบแพทย์ / เภสัชกร/พยาบาล ที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภายใต้ จนกว่าสถานะแดนใต้สงบ (ให้กับบุคคลกลุ่มนี้ ค่าตอบแทน 3 เท่าไปเลย ชีวิตเค้าเสี่ยงสูง) ฉะนั้น ระเบียบค่าตอบแทนเหมาจ่ายในการปฏิบัติครั้งนี้ ขอให้ทบทวนดูใหม่อีกครั้ง อย่าได้แสดงความกระหืนกระหือรือออกมาให้เห็นชัดกว่านี้เลย ถ้าจะได้ค่าตอบแทนที่แตกต่างตามความสำคัญของวิชาชขีพ ก็ควรทบทวนดูอีกครั้ง เพราะการทำงานทุกงานสำคัญหมด แพทย์-เภสัชฯ-พยาบาล ช่วยดูแลกรณีเภสัชกร มีพื้นที่ปกติ ได้รับค่าเบี้ยเลี้ยเหมาจ่าย แต่พยาบาลไม่มีพื้นที่ปกติ (มีแต่พื้นที่กันดาร) ดิฉันหัวหน้าพยาบาลทำงานมาตั้งแต่ปี 2526 เป็นเวลา 25 ปี อยู่ในพื้นที่ปกติตั้งแต่บรรจุ(ไม่พิขารณาค่าตอบแทน) แต่เภสัชกรมาทำงาน ได้ 1 ปี ได้ค่าตอบแทน ตั้งแต่ 3000.-บาทขึ้นไป จึงร้องเรียนให้พิจารณาด้วย ในการที่คิดจะทำอะไร ก็ให้คิดเป็นระบบ ยึดความถูกต้องมีคุณธรรม เพราะการทำงาน 3 วิชาชีพนี้ต้องประสานกันเป็นฟั่นเฟื่อง ควรพิจารณาทบทวนด้วย ค่ะท่านผู้บริหาร | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ww วันที่ตอบ 2008-12-30 14:56:40 |
ความคิดเห็นที่ 11 (1400034) | |
เห็นด้วยนะคะที่จะไปเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องค่าตอบแทนกัน......แต่ก็อยากให้ มองดูการทำงานขอพวกเราเองกันด้วย เพราะปัจจุบันพบว่าบางแห่งก็หย่อนๆคุณภาพมากอยู่เหมือนกันนะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลอีสาน วันที่ตอบ 2008-12-30 15:32:32 |
ความคิดเห็นที่ 12 (1400211) | |
พยาบาลวิชาชีพอยู่สถานีอนามัยรับผิดชอบประชากร5000คนรับงานทุกอย่างรักษา ส่งเสริมวิชาการ เหนื่อยนะ แต่ไม่เคยได้รับการเหลียวแล | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลสถานีอนามัย วันที่ตอบ 2008-12-31 11:58:23 |
ความคิดเห็นที่ 13 (1400249) | |
คิดว่าทุกที่ ทุกวิชาชีพมีการหย่อนคุณภาพ จะทำยังไงดีนะจึงจะมีค่าตอบแทนที่เหมาะสม กับคุณภาพที่คนๆนั้นปฏิบัติจริงๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น www วันที่ตอบ 2008-12-31 16:39:15 |
ความคิดเห็นที่ 14 (1400262) | |
เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่10 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนจาก รพช. วันที่ตอบ 2008-12-31 18:59:31 |
ความคิดเห็นที่ 15 (1400266) | |
ผมเห็นว่าทุกวิชาชีพ ต้องได้ค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย มากบ้างน้อยบ้างตามลักษณะงาน แบ่งเป็นพื้นที่ปกติ/พื้นที่กันดาร ไม่ควรแบ่งตามอายุงานครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เภสัชกรแจ้ห่ม วันที่ตอบ 2008-12-31 19:31:40 |
ความคิดเห็นที่ 16 (1400352) | |
ความเห็นที่ 15 โอเคเลยค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่ง เป็นกลางดีมากๆ แต่ส่วนของพยาบาลอาจละเอียดขึ้นอีกนิดหนึ่ง เพราะนอกเวลาพี่เขาทำงานตรวจรักษาแทนแพทย์จริงๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น โอเคเลย วันที่ตอบ 2009-01-01 13:05:45 |
ความคิดเห็นที่ 17 (1400499) | |
เห็นด้วยกับคุณเภสัชกรแจ้ห่ม เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายควรได้ทุกวิชาชีพ มากน้อยลดหลั่นกันไป เป็นไปไม่ได้ที่จะได้เท่ากันอยู่แล้ว และไม่ควรเอาเหตุผลความขาดแคลนมาประกอบอย่างเดียว อยากแสดงความคิดเห็นนอกประเด็นนิดนึง ให้ไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ว่า รัฐเป็นผู้ผลิตแพทย์ แต่สุดท้ายก็ผลิตให้กับเอกชน(เพราะยอมให้ลาออกไปอยู่กับเอกชน) ให้สถานศึกษาของเอกชนผลิตแพทย์ พยาบาล เภสัชกรเองและให้รับเข้าทำงานของเอกชนเลย โรงพยาบาลเอกชนจะได้เลิกชุบมือเปิบหรือเอาเงินมาตีค่าของคนซะที ให้เขาผลิตเองเลย อยากได้แบบไหน เกิดอะไรขึ้นให้เขารับผิดชอบเอง คนที่มาเรียนกับสถานศึกษาของรัฐ ควรทำงานกับโรงพยาบาลของรัฐให้คุ้มกับความตั้งใจที่อยากเป็นวิชาชีพนั้น และคุ้มกับต้นทุนการผลิตที่บอกว่าค่อนข้างสูง และคุ้มกับการเกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีหน้าที่ดูแลรักษาคนเจ็บป่วยที่มาหาเราให้สมกับที่เขาเป็นมนุษย์เช่นกัน อย่าให้ค่าของความเป็นมนุษย์ต้องแลกมันมาด้วยค่าของเงินเลย มันเศร้าใจมากนะ รักษาที่โรงพยาบาลของรัฐหรือรักษาที่โรงพยาบาลของเอกชนอย่าให้ค่าของความเป็นมนุษยย์แตกต่างกันเหมือนทุกวันนี้เลย ระบบของเอกชนเขาอยากเริ่ดก็ให้เขาเริ่ดไป หน้าที่เราจะทำอย่างไรให้ชาวบ้าน(ที่ใครบางคนจัดระดับไว้ว่าเขาเป็นคนจน)ให้เขาอยู่อย่างไม่มีโรคและมีสุขภาพที่แข็งแรง เลิกให้เขาเห่อเหิมไปกับสังคมที่เขาบอกว่าสมัยใหม่(แต่ทำให้สุขภาพแย่) คนรวยๆมีเงินมากๆเห่อเหิมไปกับสิ่งแวดล้อมสมัยใหม่ เมื่อเจ็บป่วยเขาก็มีเงินไปจ้างให้คนในระบบเอกชนรักษาเขาได้ เราอยู่ในระบบรัฐมาร่วมใจผนึกกำลังกันสร้างสุขภาพที่ดีร่วมกับชาวบ้าน(คนที่ใครๆบอกว่าเขาเป็นคนจน) กันไม่ดีกว่าหรือ ทุกคนที่อยู่ในระบบของรัฐ พวกเรามีปณิธานร่วมกันแล้วจะทำคุณความดีตอบแทนแผ่นดินเกิด และบอกให้ชาวบ้านหรือคนที่สมัครใจมาใช้บริการของพวกเรา รับรู้ว่าเรา(ทุกคนทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและชาวบ้าน)เป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว มาร่วมแรงร่วมใจกันทำงานดีกว่า มีอะไรบอกกล่าวกันได้ คุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เรามีเท่ากันแล้ว ปัญหาการฟ้องร้องน่าจะหมดไป เพราะพวกเราดำเนินชีวิตด้วยหัวใจดวงเดียวกันแล้ว เพราะเหลียวมองรอบข้าง มีอะไรบ้างนะที่ไม่ตีค่าด้วยเงินที่ค่อนข้างสูง พวกเราถูกสังคมหรือระบบทุนนิยมซ้ำเติมมามากแล้ว พวกเรามาร่วมใจกันต่อต้านระบบทุนนิยมเถิด อย่ายอมให้เงินมาตีคุณค่าของความเป็นมนุษย์ของพวกเราอยู่เลย ขอบคุณมาก | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนกำลังเศร้าใจ วันที่ตอบ 2009-01-02 18:23:44 |
ความคิดเห็นที่ 18 (1400579) | |
เห็นด้วยกับความเห็นที่17 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น กำ วันที่ตอบ 2009-01-03 08:58:41 |
ความคิดเห็นที่ 19 (1400616) | |
ดีนะที่เรายังไม่มีวิชาชีพ จึงไม้ต้องแย่ง..เบี้ย..กับเขา สงสัยจังจริยธรรม คุณธรรม จรรยาวิชาชีพ... ทุกอย่าง..เงิน..ทำลายได้หมดเลยหรือนี้..แย่จัง.. ยิ่งได้ยิ่งโลภ ขอบคุณมากๆๆๆ ที่ได้เรียนรู้พฤติกรรม | |
ผู้แสดงความคิดเห็น จชต. วันที่ตอบ 2009-01-03 12:36:18 |
ความคิดเห็นที่ 20 (1400618) | |
เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 17 เราให้ความสำคัญกับระบบเอกชนมากเกินไปแล้ว เพราะเป็นระบบทุนนิยมที่เงินสามารถจ้างคนให้ทำทุกอย่างให้ แม้กระทั่งคนที่บอกว่ามีความรู้สูงๆเขาก็เอาเงินจ้างได้ และเป็นระบบที่ดูแคลนคน(จน)ที่สุด ค่าของคนอยู่ที่ว่ามีเงินหรือไม่ และทำให้ภาคประชาชนดูแคลนศักยภาพภาครัฐจากคนของรัฐกระทำเองอย่างตั้งใจ ระดับปัญญาชนกำลังจะตกเป็นทาสของระบบทุนนิยมอย่างเต็มใจและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะมันได้แทรกซึมไปทุกอณูแล้ว การแก้ไขด้วยการเพิ่มเงินให้มากๆ คนที่ได้ก็บอกว่าดีแน่นอน แต่เรามองว่ารัฐกำลังแข่งขันกับเอกชนแบบไม่มีทางชนะ มีทางสู้แต่ไม่มีทางชนะ เพราะมันเหมือนอึ่งอ่างพองตัวแข่งกับวัว จะไหวหรือ? ระบบเอกชนเขาบริหารในส่วนน้อยที่เป็นส่วนของเขารับผิดชอบ เขาจะขึ้นให้มากกว่าภาครัฐก็ทำได้ทุกเมื่อ แต่ภาครัฐรับผิดชอบทั้งประเทศจะขึ้นราคา (ของคน) แข่งกับเขาไหวจริงหรือ ระวังท้องแตกตายเหมือนอึ่งอ่างนะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนกลับมาจากทำสวนผักปลอดสารพิษหน้าบ้าน วันที่ตอบ 2009-01-03 12:52:01 |
ความคิดเห็นที่ 21 (1400625) | |
คิดได้แล้ว ให้รัฐบาลจัดหลักสูตร "ทรีอินวัน " โดยเป็นหลักสูตรผลิตแพทย์ เภสัชกรและพยาบาลอยู่ในคนเดียวกัน จบออกมาเรียกว่า " แพทยบาลกร " อ่านว่า แพด-ทะ-ยะ-บาน-ละ-กอน หรือถ้าไม่เอาชื่อนี้ก็เปลี่ยนเป็น " แพทยกรบาล" อ่านว่า แพด-ทะ-ยะ-กอน- ละ- บาน ดีมั๊ยครับทั่นเพราะทำได้ทุกอย่างเลย ความคิดสร้างสรรนะ ฟังไว้ก็ดี เผื่อทำได้ แล้วอีกไม่นานอาจจะถามหาคนเสนอแนะทีหลังก็ได้นะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่อนคลาย วันที่ตอบ 2009-01-03 13:17:59 |
ความคิดเห็นที่ 22 (1400726) | |
ก็เคยเป็นแพทยกรบาล มาแล้วก็ดีแต่มาแยกส่วนตอนไหนไม่ทันรู้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น แจมๆเอา วันที่ตอบ 2009-01-04 09:23:05 |
ความคิดเห็นที่ 23 (1400871) | |
คห.ที่ 21 ที่ว่าปจจุบันมีอยู่จีงค่ะ พยาบาลไงคะ ทำแทนหมอ แทนเภสัชได้ (แต่ไม่ทุกอย่าง) แต่จะให้หมอมาทำงานแทนพยาบาลได้มั้ยคะ ให้เภสัชมาทำแทนได้มั้ยคะ เภสัชไม่อยู่เปิดห้องยา(ผอ.สั่ง)อยู่ ให้พยาบาลจ่ายยาให้ค่ะ(ทำได้) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น หนูเบเบ้ วันที่ตอบ 2009-01-04 21:59:41 |
ความคิดเห็นที่ 24 (1402235) | |
เห็นด้วยกับความเห็นที่ 15, 17, 20 ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อย่าทะเลาะกันเลย วันที่ตอบ 2009-01-09 15:19:31 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 565613 |