ทำไมต้องให้เรียกร้องด้วยนะ     ไม่รู้หรืออย่างไรว่าใครทำงานอะไรหนักแค่ไหน      ถ้ายังห่วงเรื่องคนมากคนน้อย   แล้วอนุมัติให้จ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายที่ไม่ยุติธรรมอย่างที่สุดเพื่อสร้างประเด็นไปทำไม   

ทราบมาว่ากลุ่มคนของชมรมแพทย์ชนบทไปพบคุณเฉลิม  อยู่บำรุงนะ (รมต สาสุขขณะนั้น)  และที่นั่นก็มีปลัดกระทรวงนั่งอยู่ด้วย(นพ.ปราชญ์)  เพื่อให้อนุมัติการขอขึ้นค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายแก่แพทย์ทันตแพทย์และเภสัชกรในพื้นที่ปกติ    

อ่านในหลักเกณ์การจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายแพทย์ ทันตแพทย์  เภสัชกร  และพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนและพยาบาลวิชาชีพที่ปกิบัติงานในสถานีอนามัย(เดิม)เปรียบเทียบกับหลักเกณฑ์ใหม่ก็ยังกำหนดแบบที่ไม่เห็นความสำคัญของวิชาชีพพยาบาลเลยถึงแม้จะละเอียดมากกว่าเดิมก็ตาม(แจกแจงอยู่กลุ่มเดียว) นี่มันอะไรกันก็ไม่รู้      มันเป็นประเด็นการสร้างความแตกต่างและประเด็นการสร้างความแตกแยกในสังคมนะ      เพราะมันเริ่มจากจุดตั้งต้นแล้ว 

การจะจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มให้พยาบาลวิชาชีพโดยไม่นำประเด็นค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายมาพิจารณาอีก      แล้วกลุ่มแพทย์  ทันตแพทย์และเภสัชกรจะขึ้นค่าตอบแทนอีกด้วยไหมนี่     คงจะทั้งขึ้นทั้งล่องนะ

การเรียกร้องความยุติธรรม   เป็นสิทธิ์ที่พึงกระทำได้ของคนไทยทุกคน   ทุกวิชาชีพ    คุณพยาบาลจงรวมพลังกันเถิด      แต่อย่าไปด่าไปว่าใครให้เสียหาย     ไม่ดีๆ 

และในอนาคตยิ่งจะลุกลามบานปลายในทุกๆเรื่องถ้ายังวัดคุณค่าของงานวัดคุณค่าของคนด้วยเงิน     

คุณ คห1กลับไปอ่านระเบียบใหม่ละกัน ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ แต่เพราะขาดแคลนน้อยกว่า ไง

เรื่องสำคัญหรือ ไม่ มีคุณค่าหรือไม่ ไปพูดกันในเรื่อง เงิน พตส ซึ่งเป็นเหมือนค่าวิชาชีพ

อย่าหลงประเด็น

ความแตกแยกไร น่ะ ไม่มีทั้งนั้น ถ้า เข้าใจในภาพรวม ไม่แถ

น่าจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นค่าภาระงานตามราคาตลาด ก็จบคงไม่มีใครมาเถียงว่ามันต่ากันมาก ก็เพราะมันต่างกันจริงๆ  ส่วนค่าเบี้ยเลี้ยงควรให้เท่ากันหมดทั้ง รพ  ไม่เฉพาะหมอ หรือพยาบาล การเงิน คนขับรถก็ควรได้

เถียงกันก็ไม่สิ้นสุดซักที เอางี้ ยกเลิกค่าตอบแทนของแพทย์พื้นที่ปกติ หันมาเทรนพยาบาลเฉพาะทางมากขึ้น ให้ค่าตอบแทนมากขึ้นในฐานะมีความเชี่ยวชาญพิเศษและเพิ่มงาน และเป็นการกระจายอย่างเป็นธรรม และลงทุนอย่างคุ้มค่าด้วย

หรือก็เอาปริมาณผู้ป่วยมาคิดเฉลี่ย ว่าในแต่ละจังหวัดควรจะได้เท่าไร เพราะคิดตามภาระของงาน