ปัญหาที่แท้จริง อยากให้พวกพี่ๆ...

ปัญหาที่แท้จริง อยากให้พวกพี่ๆอ่าน
เรื่องนี้ต้องขยาย เขียนได้โดนใจ....... ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โปรดฟังทางนี้ก่อน..... ผมเป็นผู้บริหาร อบต.เล็กๆแห่งหนึ่ง อ่านดูพวกคุณตลอด จนอดไม่ไหวและขอโทษที่ผม เสือก..เรื่องนี้พวกคุณไม่ต้องเถียงกัน ผมตอบฟันธงตรงๆกับพวกคุณได้ว่า เหตุผลที่แท้จริงนั้น คุณหมอ,เภสัช,พยาบาล ฯลฯ ระดับผู้ปฎิบัติงานทั้งหลายไม่ใช่คนผิดหรอก เพราะฉะนั้น พวกคุณทั้งหลายไม่ต้องเถียงกันเองให้เสียเวลาเปล่า..เพราะ.. เพราะ.. 1) ระบบสา"สุขไทย โดนครอบงำโดยองค์กรแพทย์(แพทยสภา)มาโดยตลอด ทั้งๆที่ในระบบงานของพวกคุณเป็นแบบสหวิชาชีพ ที่ต้องสอดคล้องประสานกัน ตามหลักของประชาธิปไตย คือกลุ่มคนส่วนใหนมาก กลุ่มนั้นมันก็มักอำนวยประโยชน์ให้แก่กลุ่ม องค์กรของตนเอง มีทุกระดับ เคยคิดมั้ยว่า ทำไมเราไม่ผลิตหมอเยอะๆ เพื่อลดปัญหา ไอ้คำที่ว่าหมอขาดแคลน ทั้งๆที่ มีเด็กรุ่นใหม่ที่เขาอยากเรียนกันเยอะแยะ อย่าบอกนะว่า เด็กหัวไม่ดี เพราะมันอยู่ที่ระบบคัดเลือกที่ไม่ยุติธรรมที่มาจากกลุ่มองค์กรแพทย์ที่วางระบบไว้ อย่าบอกว่าสอบเอ็นทรานส์เข้า เพราะ ใน 1 ปี หากระบบรับเด็กเรียนแพทย์ได้แค่ 1 พันคน ทำไม ระบบไม่รับเด็กเรียนหมอเพิ่ม เป็น 2 เท่าหล่ะ คุณว่ามันติดขัดที่ตรงใหน /เหตุผลที่อ้างคือ อาจารย์หมอมีน้อยใช่ไหม/ แน่ใจหรือ/ งบประมาณไม่พอต่อหัว/ ฯลฯ เหตุผลบ้าบอคอแตกแบบนี้ เพราะ องค์กรแพทย์ โดย.. 2) องค์กรที่ดูแลระบบแพทย์ มันหวงอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าใหนก็ตาม พวกเขาจะพยายามทำให้จำนวนหมอมันปริ่มๆ จะว่าขาดแคลนก็ไม่ใช่ จะว่าเหลือก็ไม่เชิง เพราะอะไร เพราะต้องการสร้างคุณค่าให้กับวงการตนเอง เพื่ออะไรรึ/ก็เงิน/ศักดินา /เกียรติยศ ขององค์กรแบบมาเฟียของตนเอง เพราะพวกนี้ตระหนักดีว่า หากเมื่อไหร่ก็ตามที่ผลิตหมอออกมาเยอะๆเหมือนพวกวิชาชีพอื่น เช่น นิติศาสตร์ ,รัฐศาสตร์ ซึ่งเมื่อก่อนขาดตลาด ดูมีเกียรติมาก แต่บัดนี้ล้นตลาด ดูไร้ค่า แต่คนที่สามารถสอบเข้าทำงานได้ มักจะเป็นคนที่มีคุณภาพ เพราะผ่านประสบการณ์มาเยอะ แต่หมอกลัวจะเป็นอย่างนี้ จึงพยายามอนุรักษ์ ควบคุมทุกทาง เพื่อให้กลุ่มขิงตนเองดูดี มีค่าต่อสังคม โดยไม่แคร์กับความต้องการของสังคมว่าจะเป้นเช่นไร / ที่บอกมาผมไม่ได้โทษคุณหมอที่รักษาคนไข้ (เป็นผู้ปฏิบัติ) แต่ผมโทษพวกหมอที่วางระบบ ไอ้ที่นั่งโต๊ะในกระทรวง หรือในแพทยสภา (พวกที่ออกแบบระบบของสา"สุข ไทย)ที่มันมีผลกระทบกับทุกคนในสังคมไทย คุณเคยสงสัยไหม/ว่าทำไม 1.หมอเด็กๆจบใหม่ๆ มาเป็นผู้บริหารโรง"บาล ผมเห็นมามาก โดยมากพวกนี้ IQ สูงแต่ EQ ต่ำไม่ได้ดูถูก เพราะเวลาทำงานร่วมกัน การกระทำมันจะออกมาเอง ไม่ได้ว่าไม่ดี แต่เคยถามว่า ทำไม หมอที่จบมาเพื่อรักษาคน คุณก็รักษาคนไป พวกใหนที่เรียนมาเพื่อบริหาร คุณก็มาบริหารไป นี่ จะให้ทั้งรักษาคน และบริหารงานไปด้วย โอ้ย/พวกวางระบบคิดได้อย่างไร และที่น่าแปลก มันเป็นมาตั้งนานแล้ว พวกที่มีอำนาจ ควรเปลี่ยนซะที 2.ไม่ได้รังเกียจหมอหรอก แต่คุณคิดดู ผอ.รพ.ชุมชน(ระดับอำเภอ)อายุไม่เกิน 25 มาบริหารงานโรงบาลขนาด 30 เตียง และบริหารคนอีกประมาณ 100 คน คุณว่าวุฒิภาวะเขาเป็นอย่างไร/ตอบจริงๆ 3.ทำไม หากคุณว่าการผลิตหมอ ไม่มีงบประมาณเพียงพอ เอาง่ายๆคุณ(รัฐบาล)หรือพวกแพทยสภา ลองออกประกาศเปิดโอกาสให้ อปท.ทุกแห่งทั่วประเทศไทย ส่งเด้กนักเรียนเข้าเรียนหมอได้แห่งละ 1 คน โดยให้ อปท.ทุกแห่งใช้เงินของตนเองส่งเข้าเรียนจนจบ 6 ปี แล้วบรรจุเขาเข้าทำงาน ที่ สอ.ในเขตพื้นที่ของตนเอง ลองดูไหมครับ ผมว่า อปท.ทุกแห่งเข้าพร้อม และอยากทำจะตาย แต่ติดที่คุณบอกว่า อาจารย์ที่สอนไม่เพียงพอ ที่พวกคุณมักกล่าวอ้าง หากคุณจริงใจ เสียเวลาเพียงแค่ 6 ปี เท่านั้น หลังจากนั้น ระบบการรักษาคนป่วยของไทย เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่ //คุณกล้าไหม ท่านผู้มีอำนาจในกระทรวง สธ./แพทยสภา/ จะได้ไม่ต้องมีเรื่องของการร้องเรียน แบ่งชั้นวรรณะเหมือนเรื่องนี้อีก และอีกหย่าง พวกคุณหมอในโรงพยาบาล น้อยนักที่จะยกมือทักทายสวัสดีคนไข้ หรือคนทั่วไป เพราะพวกนี้มักหลงตัวเองว่าเป็น บุคคลชนชั้นพิเศษ (เกิดจากอะไรคุณคงวิเคราะห์)ได้ ผู้บริหาร อบต.เล็กๆไม่ควรแก่การจดจำ (ปล.ขอบคุณคนเขียนนะครับโดนใจมากๆ)
ผู้ตั้งกระทู้ เภสัชที่มีแฟนเป็นพยาบาล :: วันที่ลงประกาศ 2009-02-02 12:20:25

[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (1410267)

กระทู้นี้ อาจโดนใจใครบางคน โดยเฉพาะพวกที่เกลียดแพทย์ (อิจฉามากกว่า) พยายามยุยงให้เกิดความแตกแยกในสายเลือดสาธารณสุข หากท่านเป็นผู้บริหารจริงๆ ควรจะมองภาพให้กว้างไกล การที่พวกเราต้องมาทำเลาะกันอยู่ทุกวันนี้ มันก็เกิดจากความคิดเห็นของท่านผู้บริหารต่างๆนั่นแหละ ตอนนี้เรากำลังจะเริ่มต้นกันใหม่ด้วยดี พูดจากันอย่างคนมีสติ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่คุณมันก็ดันโพสข้อความ ข้อคิดเห็นโน้มน้าวให้เรามาทะเลาะกันเองอีก นี่มันอะไรกัน สะใจมากหรือไง ที่เห็นเราเอาเวลาหลวงมาทะเลาะกัน ใช้มือทั้งสองที่เคยช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ มาห้ำหั่นกันเอง ขอร้องเถอะท่านผู้เจริญทั้งหลาย หยุดโพสข้อความทำนองนี้ทีเถอะ มันไม่สร้างสรรเลยนะ เดี๋ยวคนนั้นเข้ามาด่าที คนนี้เข้ามาด่าที เอาเวลามาพัฒนางาน และสร้างสรรนวตกรรมที่จรรโลงใจดีกว่าค่ะ

และหากท่านใดที่ต้องการเรียกร้องในสิ่งที่พึงได้ ขอให้ท่านกรุณาอย่าพาดพิงวิชาชีพอื่น หรือปลอมเป็นวิชาชีพอื่นอีกเลย กล้าแสดงออก อย่าใช้วิชาชีพอื่นบังหน้า หากท่านยังมีหัวใจความเป็นมนุษย์ และยังรักสายเลือดเดียวกันอยู่

ผู้แสดงความคิดเห็น รักนะ จุ๊บๆ วันที่ตอบ 2009-02-02 12:40:02

ความคิดเห็นที่ 2 (1410273)
เท่าที่คุยพวกเราพยาบาลไม่เห็นมีใครไม่พอใจขนาดนี้เลยนะคะเมื่อได้กันครบก็พอใจแต่แปลกที่ช่วงนี้มีแต่กระทู้ด่าแพทย์สงสัยที่เขาตั้งข้อสังเกตว่ามีอีกวิชาชีพมาป่วนหาแนวร่วมจะจริง
ผู้แสดงความคิดเห็น ดารณี วันที่ตอบ 2009-02-02 12:59:37

ความคิดเห็นที่ 3 (1410275)

หยุดพาดพิงถึง "อีกวิชาชีพ" ที่คุณกำลังกล่าวหาอยู่เลย

เล่นไม่เลิกนะคุณดารณี

สร้างสรร สร้างมิตร คิดกว้างไกล

ผู้แสดงความคิดเห็น รักนะ จุ๊บๆ วันที่ตอบ 2009-02-02 13:09:22

ความคิดเห็นที่ 4 (1410295)
พูดได้โดนใจสุดๆ เลยครับท่าน อบต.
ผู้แสดงความคิดเห็น คนใกล้ชิด วันที่ตอบ 2009-02-02 13:46:20

ความคิดเห็นที่ 5 (1410309)
หมอ it นี่ ดูถูกเภสัชไม่เลิก ดิฉันว่านะ ควรจะหาหลักฐานที่เเน่ชัดมายืนๆๆยัน ก่อนว่าเป็นเภสัชมาโพสจิง เพราะิดิืฉันว่าตอนนี้มันมีคนเเอบอ้างเยอะ ไม่ใช้เชื่อเเค่ตัวอักษรที่ปรากดกบนหน้าจอ เห็นเเค่นี่คุณก็สรุปผลเเล้ว นับประสาอะไรจะไปวินิจฉัยคนไข้ กลับไป เอ็น เเล้วเรียนใหม่ดีกว่ามั้ง
ผู้แสดงความคิดเห็น เภสัชเกียด คน โง่ วันที่ตอบ 2009-02-02 14:39:17

ความคิดเห็นที่ 6 (1410318)
อะไรกันโว้ย!!!!!!!!
ผู้แสดงความคิดเห็น คนสา,สุข วันที่ตอบ 2009-02-02 15:00:44

ความคิดเห็นที่ 7 (1410324)
เอาเข้าไปโพสท์ ป่วนทั้ง บอร์ดเภสัช บอร์ดพยาบาล กะจะให้เขาทะเลาะกันหรือไง คุณ เภสัชที่มีแฟนเป็นพยาบาล คุณเทวดาท่าจะบ๊องส์ สงสัยเป็นโรตจิตเภทอ่อนๆ หรือขาดความอบอุ่น
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ถูกพาดพิง วันที่ตอบ 2009-02-02 15:10:32

ความคิดเห็นที่ 8 (1410348)

ผมไม่เคยด่าเภสัชทั้งหมด

แต่ผมด่าเภสัชเจ้าของกระทู้ก็เห็นใจที่คุณเจ็บแทน รู้แล้วใช่มั้ยเจ็บกันหมด wemmaster คุณอยู่ที่ใหน ออกมาเดี๋ยวนี้เลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมอ วันที่ตอบ 2009-02-02 15:43:04

ความคิดเห็นที่ 9 (1410374)
เฮ้อ...แต่ก็มิได้นำพา
ผู้แสดงความคิดเห็น รักนะ จุ๊บๆ วันที่ตอบ 2009-02-02 16:08:52

ความคิดเห็นที่ 10 (1410395)
ส่วนตัวบอกว่าอือเข้าท่า แต่เพื่อนข้างๆบอกว่าไม่ใช่เรือ อะไรกันนี่ หยุดเถอะพี่น้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติสุขเถอะนะ
ผู้แสดงความคิดเห็น คิดแล้วเศร้า วันที่ตอบ 2009-02-02 16:52:55

ความคิดเห็นที่ 11 (1410445)
ทั้งพวกที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะพวกที่ไม่เห็นด้วยอย่างไรนั้นก็ไม่ควรแสดงออกมาอย่างแบบชั้นต่ำขาดการอบรมจากทางบ้านหรือไร้สมองที่จะยับยั้งคำพูดที่ส่อกิริยาของตนที่ไร้ซึ่งความเป็นผู้ดีออกมา
ผู้แสดงความคิดเห็น ขอปาดหน่อย วันที่ตอบ 2009-02-02 19:30:58

ความคิดเห็นที่ 12 (1410449)

เอาเถอะจ้า....ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครผิด ใครถูกหรอก มีแต่คนที่ได้เสียในแง่ธุรกิจ และมีแต่คนรอที่จะซ้ำหากทีมที่แข็งที่สุด(สาสุข)ล้ม ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่เข้มแข็ง ก็ต้องใจเย็นด้วยนะ พี่น้องค้าบ ใครมาทำไม่ดีในเวปเราก็ช่างเขา เนาะ ก็รักษากันปาย

ใจเย็นนะจ๊ะ...

ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลเบิ้มเบิ้ม วันที่ตอบ 2009-02-02 19:43:37

ความคิดเห็นที่ 13 (1410450)
แล้ว นายก อบต นี่ จ่ายเงินซื้อเสียงไปเท่าไหร่ครับ ถามสั้นๆ แล้วถ้าว่าเรียนแพทย์มันง่ายก็เชิญลาออกไปเรียน นิวแทรคได้นะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น เบื่อ วันที่ตอบ 2009-02-02 19:44:14

ความคิดเห็นที่ 14 (1410451)
ทั้งคุณหมอ คุณเภสัชและคุณพยาบาล คิดถึงตอนที่เรารักกันบ้างเถอะ อีกหน่อยปัญหาคลี่คลาย ก็คงจะดีขึ้น ทางสภาวิชาชีพคงไม่อยากให้เราทะเลาะกันอย่างนี้หรอก ทุกหนทางมีแนวทางแก้ไขแน่นอน..สาธุ
ผู้แสดงความคิดเห็น จนท. วันที่ตอบ 2009-02-02 19:46:03

ความคิดเห็นที่ 15 (1410800)
ก็แค่บทความของคนที่จบ ป สี่ แล้วมีเงินซื้อเสียงเลยได้เป็นนายก อบต ลองคิดดูถ้าคุณอยากทำงาน อบต จะต้องสอบ ภาค ก ข ส่วนใครจะสอบภาค ค ผ่าน ต้องมีเงิน สามแสนจ่ายให้ นายก อบต ก่อน
ผู้แสดงความคิดเห็น ก่อนจะเสือก กลับไปดูองค์กรตัวเองก่อนไม๊ วันที่ตอบ 2009-02-03 18:26:31

ความคิดเห็นที่ 16 (1412534)

เรื่อง บัวสี่เหล่า

            บัวสี่เหล่า คือ บัวใต้น้ำเป็นหนึ่งในระดับของสติปัญญา จากเรื่องบัวสี่เหล่า นั้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนที่เรียนรู้เรื่องต่างๆ เป็น 4 ระดับ คือ...
       1.พวกมีสติปัญญา ฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงพระอาทิตย์ก็จะเบ่งบานทันที (อุคฆฏิตัญญู) รับรู้แล้วมองเห็นปัญหา และแนวทางแก้ไข
       2.พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจราณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม ก็จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาไม่ช้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ซึ่งจะบานในวันถัดไป (วิปัจจิตัญญู) รับรู้แล้วมองเห็นปัญหา และพยายามหรือกำลังหาแนวทางแก้ไข
       3.พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่ เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธาปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือน ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆโผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง (เนยยะ) รับรู้ว่ามีปัญหา แต่ยังไม่เห็นแนวทางแก้ไข
       4.พวกที่ไร้สติปัญญาและยังเป็น มิจฉาทิฏฐิ แม้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียรเปรียบเสมือน ดอกบัวที่จมอยู่โคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลาอีกด้วย ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบานได้อีก (ปทปรมะ) รับรู้แล้วแต่มองไม่เห็นถึงปัญหา และไม่รู้แนวทางแก้ไข

ท่านผู้เจริญในชุดขาวทั้งหลาย ลองคิดดู..เอาเองเถิดครับ

........ก็แค่บทความของคนที่จบ ป สี่ แล้วมีเงินซื้อเสียงเลยได้เป็นนายก อบต ลองคิดดูถ้าคุณอยากทำงาน อบต จะต้องสอบ ภาค ก ข ส่วนใครจะสอบภาค ค ผ่าน ต้องมีเงิน สามแสนจ่ายให้ นายก อบต ก่อน…..ก่อนจะเสือก กลับไปดูองค์กรตัวเองก่อนไม๊

.....ผมคิดเสมอว่า ในโลกนี้ ไม่มีใคร องค์กร หน่วยงาน หรือ กลุ่มอะไรสักอย่าง ที่มีความสมบูรณ์แบบในตัวมันเอง (ไม่มีอะไรที่ดีบริสุทธิ์ และในขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรเลวบริสุทธิ์เช่นกัน) ดังนั้น เรื่อง อปท.ทุจริต ,,หรือครูนกเขา ,หรือหมอรักษาผิดจรรยาบรรณ ,รัฐมนตรีโกงกิน ,ตำรวจส่วย,ฯลฯ มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของโลก มันเป็นเช่นนั้นเอง แต่ที่สำคัญคือ ทำอะไรก็ตาม อย่าให้มันเกินไป จนคนอื่นเขารับไม่ได้ เขาหมั่นไส้ เขาเดือดร้อน เมื่อนั้น คุณก็จะอยู่ลำบาก ...ดังนั้น ในเรื่อง อบต.เรียกรับเงิน โกงกิน ผมขอยอมรับ แต่ไม่ใช่ อบต.หรือ อปท.ทั้งหมดทุกแห่ง ...แต่มันก็เป็นไปตามความสมัครใจของคนที่ต้องการบรรจุ ที่พวกเขาแข่งขันกันเพื่อแลกกับชีวิต อนาคตของเขา และครอบครัว หากคุณเป็นผม คุณจะปฏิเสธเขาไหม?

แล้ว นายก อบต นี่ จ่ายเงินซื้อเสียงไปเท่าไหร่ครับ ถามสั้นๆ แล้วถ้าว่าเรียนแพทย์มันง่ายก็เชิญลาออกไปเรียน นิวแทรคได้นะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็นเบื่อ วันที่ลงประกาศ 2009-02-02 19:44

.....การเลือกตั้งใน อปท.ใช้เงินต่อหัว ครัวเรือนมากกว่า การเลือกตั้ง ส.ส.,สว.มากกว่า เพราะเป็นการแข่งขันกันในหมู่เครือญาติ ขั้นต่ำโดยเฉลี่ย หากตำแหน่งนายก อบต.ใช้เงิน 1 ล้านบาทขึ้นไป (ครัวเรือนละ 1-2 พันบาท) เรื่องจริง ที่ทุกคนรู้กัน ถามว่า แล้วจะแก้ไขปัญหานี้ได้ไหม.ผมตอบได้เลยว่า ในเมืองไทยยาก..แสนยาก เพราะระดับความคิด การศึกษาของคนบ้านนอก ยังไม่ได้รับการพัฒนา ให้สามารถคิดเลือกคนจากความรู้ ความสามารถที่เหมาะสมกับงานผู้แทนฯตนเอง แต่ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านเลือกคนที่เขาคิดว่า ผู้แทนฯให้อะไรแก่เขาเท่านั้น และเป็นญาติพี่น้องเราหรือไม่ ดังนั้น ปัญหานี้จึงยากนักที่จะเปลี่ยนแปลง แม้แต่ระบบ ส.ส.ก็ไม่แตกต่างกัน

......และผมก็ไม่เคยว่า เรียนแพทย์มันง่ายเลย ผมยกย่อง ชื่นชมแพทย์ หมอรักษาคนเสมอ แต่ผมไม่ชอบความอยุติธรรมที่เกิดแก่กลุ่มพยาบาลเท่านั้น จึงแสดงความเห็นออกมา ซึ่งจริงๆแล้ว ท่านเป็นกลุ่มแพทย์ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มพยาบาล ท่านควรเป็นทัพหน้าในการแก้ไขปัญหานี้ให้กับกลุ่มพยาบาลด้วยซ้ำไป มิใช่ เพิ่มไฟแห่งความแตกแยก หรือนิ่งเฉยเสีย ดังนี้

ขอย้ำอีกครั้งว่า...ผมไม่ได้มาเพื่อสร้างความแตกแยก แก่กลุ่มแพทย์ และพยาบาล สิ่งที่ผมต้องการคือ ให้ทั้งแพทย์และพยาบาล มองให้เห็นถึงปัญหานี้ และรวมกันเรียกร้อง ส่งเสียงเสริมกันให้ผู้หลัก ผู้ใหญ่ในกระทรวง เขารู้ซักทีว่า “นี่ มันไม่ยุติธรรมนะ” แค่นั้นเอง พยาบาลโดยมากมีแต่ผู้หญิง เขาไม่เข้มแข็ง และเสียงไม่ดังเท่าแพทย์ ดังนั้น แพทย์ช่วยเขาหน่อยได้ไหม?อย่าอยู่เฉยๆ และขอโทษทุกท่านด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น นายก อบต.เล็กๆที่ไม่สำคัญ วันที่ตอบ 2009-02-07 13:24:56

ความคิดเห็นที่ 17 (1412542)
วิชาชีพแต่ละวิชาชีพก็มีแนวการทำงานกันไปคนละอย่าง เราคิดว่าแต่ละวิชาชีพควรทำงานของตนให้ครอบคุมจะดีกว่า
ผู้แสดงความคิดเห็น คนบ้านนอก วันที่ตอบ 2009-02-07 14:04:00

ความคิดเห็นที่ 18 (1412616)

ถามกลับ คุณนายกอบตเล็ก ๆ ที่ไม่สำคัญ

อะไรคือเส้นแบ่งที่คุณบอกว่ายุติธรรมหรือ ไม่ยุติธรรม

เงิน 30000 สำหรับแพทย์มันไม่ยุติธรรมตรงใหน

เงิน1500 มันไม่ยุติธรรมต่อพยาบาลอย่างไร

ทำไมครัวเรือนนี้จ่ายหัวละ 500

ทำไมครัวเรื่อนนี้จ่ายเหมาครอบครัวละ1200

ผมตอบไม่ได้

แต่นายปรีชา วัชราภัย เลขา กพ บอกไว้ว่า " การจ่ายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายใช้หลักโดยอิงกับรายได้การจ้างงานนอกภาคราชการเพื่อดึงบุคลากรให้อยู่ในระบบให้นานที่สุด"ชัดเจนมั้ยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมอ วันที่ตอบ 2009-02-07 18:11:49

ความคิดเห็นที่ 19 (1412655)
หมอเด็กๆจบใหม่ๆ มาเป็นผู้บริหารโรง"บาล ผมเห็นมามาก โดยมากพวกนี้ IQ สูงแต่ EQ ต่ำไม่ได้ดูถูก -------------ก็ยังดีกว่า จบ ป 4 IQ EQ ไม่มี แต่มีเงินซื้อเสียง เลยได้เป็น นายก อบต--------เมืองไทยมีแต่พวกซื้อเสียงมาบริหาร แล้วก้ถอนทุน เมื่อไรมันถึงจะเจริญ นโยบายพวกนี้ คนมีการศึกษาเค้าคิด....เป็นธรรมดาที่นายก ป 4 จะไม่เข้าใจ
ผู้แสดงความคิดเห็น W€๑q@๖Kaษสหัขฑ5ูะฆX?�>ํP1ตึ�ตxพ+,ญฎฅLไ=` วันที่ตอบ 2009-02-07 19:39:50

ความคิดเห็นที่ 20 (1412692)
ขออธิบายเหตุผลที่บอกว่า ทำไมไม่ผลิตแพทย์ ปริมาณ มากก จะได้แก้ไขปัญหาแพทย์ ขาดแคลน เสียที ก็เพราะ การจะได้แพทย์ที่ได้คุณภาพ ออกมารักษาผู้ป่วยนั้น ต้องอาศัยการฝึกฝน และดูแลอย่างใกล้ชิดจาก อาจารย์ และรุ่นพี่ๆ ต้องอาศัย ทรัีพยากรบุคคล และสถานที่ฝึกฝน อย่างมาก จึงเป็นเหตุผลว่าทำมัย ทุกมหาวิทยาลัย จึงไม่มีคณะแพทยศาสตร์ครบทุกมหาลัีย อีกทั้งการตั้งคณะแพทยศาสตร์ขึ้นใหม่นั้น ต้องใช้เงิน หลายร้อย หลายพัน ล้านบาท ครับ ถ้าอะไร เอะอะก็จะเพิ่มปริมาณ เพิ่มแต่่ปริมาณ สุดท้าย คนที่จบออกมา ก็ไม่ต่างกับ ให้เด็กมัธยม นั่งตรวจท่านๆ ทั้งหลาย ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น แพทย์รักพยาบาล วันที่ตอบ 2009-02-07 21:33:13

ความคิดเห็นที่ 21 (1412778)
ขอบคุณ คุณนายก อบต.เล็กๆที่ไม่สำคัญ ที่มาแสดงความคิดเห็น ขอบคุณมากๆๆๆๆ มั่นใจว่าคุณเป็นคนดีมีคุณภาพแน่นอน ให้กำลังใจนะ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนเพิ่งเข้ามา วันที่ตอบ 2009-02-08 08:28:56

ความคิดเห็นที่ 22 (1412821)

ลอกมา..

...ถามกลับ คุณนายกอบตเล็ก ๆ ที่ไม่สำคัญ

อะไรคือเส้นแบ่งที่คุณบอกว่ายุติธรรมหรือ ไม่ยุติธรรม

เงิน 30000 สำหรับแพทย์มันไม่ยุติธรรมตรงใหน

เงิน1500 มันไม่ยุติธรรมต่อพยาบาลอย่างไร?

ลองอ่านข้างล่างดู...

            กรรณิกา ปัญญาอมรวัฒน์ รองเลขาธิการสภาการพยาบาล, ที่ปรึกษาชมรมผู้บริหารการพยาบาล โรงพยาบาลชุมชน และแกนนำของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ บอกว่าที่ต้องออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจากสถานการณ์มันดำเนินมาถึงจุดที่ต้องทำอะไรบางอย่าง

       “เรื่องค่าตอบแทนที่เรียกว่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย เป็นระเบียบตั้งแต่ปี 2544 มีการกำหนดให้แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชฯ และพยาบาลอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาให้เฉพาะแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชฯ ในทุกโรงพยาบาลชุมชนและสถานีอนามัย พยาบาลให้เฉพาะในพื้นที่ทุรกันดารระดับ 1, 2 ซึ่งเราบอกว่ามันไม่เป็นธรรม ซ้ำอัตราค่าตอบแทนมันก็ห่างกันประมาณ 10 เท่า ซึ่งเราก็เรียกร้องมานานแล้ว

       “แต่พอ 28 พฤศจิกายน 2551 มีออกระเบียบมาใหม่ว่าแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชฯ ได้ทั้ง 3 พื้นที่ แต่พยาบาลได้เฉพาะพื้นที่กันดาร 1, 2 ขณะเดียวกันอัตราค่าตอบแทนมันเปลี่ยนเป็นฟ้ากับอะไรก็ไม่รู้ ปกติแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่ปกติจะได้สูงสุดที่ 2,800 บาท แต่ระเบียบใหม่ที่ออกมาพื้นที่กันดารระดับ 1 เมื่อก่อนสูงสุด 10,000 บาท ระดับ 2 ได้ 20,000 บาท ระเบียบใหม่เปลี่ยนเป็น 60,000 บาทกับ 70,000 บาท ส่วนพยาบาลได้เพียง 1,500-3,000 บาทต่อคนต่อเดือน

       “เราบอกว่าเรารับไม่ได้ ถามว่าพยาบาลที่อยู่นราธิวาสต้องส่งต่อคนไข้จากโรงพยาบาลหนึ่งไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ใครมากับคนไข้ พยาบาลนะคะ บางทีน้องเราวิ่งมา เจอเรือใบอยู่กลางทาง ไม่รู้จะเจอระเบิดเมื่อไหร่ ถามว่าค่าชีวิตคนไม่เท่ากันเหรอ?”

ผู้แสดงความคิดเห็น นายก อบต.เล็กๆที่ไม่สำคัญ วันที่ตอบ 2009-02-08 11:31:32

ความคิดเห็นที่ 23 (1412825)
นายก อบต.เล็กๆ ท่าทางจะมองโลกแคบไปหน่อย ผมไม่แย้งประเด็นที่สภาการพยาบาลเรียกร้องนะครับ จริงอยู่พยาบาล 3 จังหวัดชายแดนใต้มีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานสูงกว่าพื้นที่อื่น สมควรมีค่าตอบเิพิ่มนอกเหนือจากค่าตอบแทนในภาระงานประจำ ซึ่งตอนนี้เค้าก็มีค่าตอบแทนส่วนนี้ให้ส่วนนึ่งอยู่แล้ว (ไม่เกี่ยวกับตกเบิกหรือไม่ตกเบิกนะ) ผมเห็นด้วยนะครับ แต่นี่คุณจะเอามาเป็นข้ออ้างในการพิจารณาค่าตอบแทนให้พยาบาลทั้งประเทศเลยเหรอครับ คิดว่าเค้าควรได้มากกว่าที่คุณได้เพราะอะไร พื้นที่เสี่ยงภัยควรได้มากกว่าอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าชีวิตคุณก็สำคัญพอๆ กับเค้า หรือคงไม่ใช่เหตุผลเพราะเป็นพยาบาลเหมือนกันใช่มั้ย? ส่งต่อคนไข้ไม่ได้มีเฉพาะพยาบาลนะครับ คิดว่าใครจะโดนยิงง่ายกว่าระหว่างพยาบาลกับ พขร คนอื่นก็เสี่ยงไม่น้อยกว่าพยาบาลครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น Ge วันที่ตอบ 2009-02-08 11:51:32

ความคิดเห็นที่ 24 (1412847)

ความเห็นที่ 23 (1412825)

......./ นายก อบต.เล็กๆ ท่าทางจะมองโลกแคบไปหน่อย

ผมไม่แย้งประเด็นที่สภาการพยาบาลเรียกร้องนะครับ…..

ข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มวิชาชีพพยาบาลคือ

       1.ผลักดันให้บรรจุพยาบาลวิชาชีพที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวประมาณ 6,000 คน ให้เป็นข้าราชการ

       2.การกำหนดตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพให้สูงขึ้น โดยไม่ยุบรวมตำแหน่ง และ

       3.พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลและสถานีอนามัยในพื้นที่ปกติ ต้องได้รับค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเช่นเดียวกับวิชาชีพอื่น

รต.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมต.สธ.ได้ระเบิดเวลาลูกใหญ่ ด้วยการอนุมัติเพิ่มค่าตอบแทนให้กับแพทย์และ ทันตแพทย์ในชนบท เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ และสร้างแรงจูงใจในการทำงานในพื้นที่ห่าง ไกล

กรณีดังกล่าวแม้จะได้ใจจากแพทย์ในชนบท แต่ก็สร้างความแปลกแยกแตกต่างในโรงพยาบาล ชุมชน เพราะในขณะที่แพทย์ได้ค่าตอบแทนถึงเดือนละ 6 หมื่นบาท แต่พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ กลับได้ค่าตอบแทนเพียงไม่กี่พันบาท ทั้งๆที่ทำงานหนักและความรับผิดชอบไม่แตกต่างกัน (นี่คือมุมมองจากสังคมผ่านสื่อมวลชน ที่เขามองเรื่องนี้ คุณหมอคิดว่าอย่างไร เขาไม่ได้โทษคุณ หรือหน้าที่ของคุณ แต่เขาโทษผู้ที่เหนือไปกว่าคุณ ผู้ออกแบบระบบคุณ ใครหล่ะ..รมต.สธ.ปลัด สธ. พวกโน้น เพิ่มเงินให้คุณดี ถูกต้อง เพื่อดึงคุณอยู่ โดยเอาเงินมาล่อ มามัดคุณไว้ แต่ที่ไม่ดีคือ กลุ่มอื่นๆที่ทำงานร่วมกับคุณหมอ เขาได้น้อยเกินไป รู้มั้ย ในปัจจุบัน คุณหมอได้ 100 บาท พวกพยาบาลได้แค่ 1.66 บาท เท่านั้น คุณหมอว่ามันยุติธรรมมั้ย เดี๋ยวนี้ สังคม(ประชาชน) เขามองว่ามันไม่ยุติธรรม หากคุณหมอไม่เชื่อ เรื่องนี้ ลองทำเรื่องนี้ให้มันใหญ่โต สำรวจแบบสอบถาม จากประชาชน นอกเหนือจากพวกสาธารณสุขดีไหม รับรองได้คำตอบที่โดนใจคุณแน่ๆ)

ส่งผลให้พยาบาลในโรงพยาบาลชุมชนรวมตัวกันมาประท้วง นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ที่มีพยาบาลมาชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมกันมากที่สุด

ก็คงต้องรอวัดใจ รัฐมนตรีวิทยา ว่าจะถอดสลักระเบิดเวลาลูกนี้ด้วยวิธี ใด

แต่ในขณะที่ระเบิดเวลาลูกแรกยังไม่ได้แก้ไข รัฐมนตรีวิทยา ก็กำลังจะ วางระเบิดเวลาลูกใหม่ ด้วยการประกาศว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ( อสม.)ทั่วประเทศ เดือนละ 600 บาท โดยจะเริ่มในวัน อสม.แห่งชาติ 20 มี.ค.ปีหน้า

นอกจากนั้น การเปลี่ยนตัว รมว.สาธารณสุขบ่อยๆ ยังให้เกิดการวิ่งเต้นของข้า ราชการสายต่างๆ สร้างความระส่ำระสายและส่งผลกระทบต่องานในกระทรวงเป็นอย่างมาก บวกนโยบายที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สุดท้ายจึงไม่มีงานอะไรที่คืบหน้าเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากการหาเสียงและให้ข่าวประจำวัน ให้ รัฐมนตรีได้เสนอหน้าออกทีวีก็เท่านั้นเอง.

แหล่งที่มา หนังสือพิมพิ์ไทยรัฐ ปีที่ 60 ฉบับที่ 18619 วันจันทร์ที่ 12 มกราคม 2552

คุณบอก.....พยาบาล 3 จังหวัดชายแดนใต้มีความเสี่ยงในการปฏิบัติงานสูงกว่าพื้นที่อื่น…

ผมว่า .....ทุกวันนี้ข้าราชการทุกประเภท ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีความเสี่ยงภัยมากกว่าที่อื่น ก็ได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษอยู่แล้ว อันนี้เป็นปกติธรรมดา เห็นด้วยอย่างยิ่ง ผมไม่ได้บอกว่า ขรก.ทุกพื้นที่ประเทศไทย ควรได้เงินเหมือน 3 จ.ชายแดนใต้ อย่างที่คุณเข้าใจเอง

.คุณบอก.....คนอื่นก็เสี่ยงไม่น้อยกว่าพยาบาลครับ..

ผมว่า.....จริงด้วย ที่จริงแล้ว เงินที่จ่ายประกันความเสี่ยง ควรจ่ายเพิ่มให้กลุ่มนี้ด้วยซ้ำไป แต่นั้น คงเป็นเรื่องใหญ่ต่อไป เอาเฉพาะ ความแตกต่างของเงินค่าตอบแทนแพทย์ พยบ.ก่อนละกัน..ดูสิว่า ในสธ.ความยุติธรรมจะยังมีหลงเหลืออยู่มั้ย.

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้มองโลกแคบ อย่างที่คุณหมอบอก วันที่ตอบ 2009-02-08 13:22:31

ความคิดเห็นที่ 25 (1412868)
อ้าว เหวอเลย ผมก็บอกบอกแล้วไงครับว่า "ผมไม่ได้แย้งประเด็นที่สภาการพยาบาลเรียกร้อง" ผมจะแย้งเฉพาะที่คุณยกมา ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าใจอะไรแบบนั้นไปเอง แต่ที่ผมตอบเพราะคุณชงเรื่องมาแบบนั้น ต่างหาก เรื่อง พขร เป็นแค่ตัวอย่างตามที่คุณยกมาเอง ผมก็ไม่ได้จะบอกว่าขรก.ทุกพื้นที่ประเทศไทย ควรได้เงินเหมือน 3 จ.ชายแดนใต้ ไม่เกี่ยวกันนะครับ แล้วยกอะไรมาตั้งมากมายล่ะนั่น คุณ อบต. ครับ ถ้าจะเก่งก๊อปปี วาง นักล่ะก็ ก็น่าจะเก่งอ่านซะหน่อย คุณอุตส่าห์เอาอะไรต่อมิอะไรมาลง อยากให้คนอื่นอ่าน ก็หัดอ่านข้อความคนอื่น (ที่เค้าคิดเองและไม่ได้ก๊อปปีโอเวอร์) ให้ละเอียด ได้ความก่อนดีกว่ามั้ยครับ เพราะไม่งั้นถ้าเอาแต่ก๊อป แต่สนใจอ่าน ผมก็ไม่รู้จะแย้งต่อไปยังไง ข้อความของคุณมีหลายเรื่องที่เป็นเหตุเป็นผลดีอยู่หรอก แต่ถ้าอยากให้คนอื่นอ่าน ก็เอาแบบสั้นๆ กระชับๆ แบบนี้จะเข้าถึงผู้รับสารมากกว่า มานั่งปวดตานะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น Ge วันที่ตอบ 2009-02-08 13:56:54

ความคิดเห็นที่ 26 (1412871)
โทษทีครับ ผมใช้ firefox เลยต้องพิมพ์ HTML เอาเอง ข้อความข้างบนเลยหลงๆ ลืมๆ เอาใหม่ล่ะกัน ผมก็บอกบอกแล้วไงครับว่า "ผมไม่ได้แย้งประเด็นที่สภาการพยาบาลเรียกร้อง" ผมจะแย้งเฉพาะที่คุณยกมา ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าใจอะไรแบบนั้นไปเอง แต่ที่ผมตอบเพราะคุณชงเรื่องมาแบบนั้น ต่างหาก เรื่อง พขร เป็นแค่ตัวอย่างตามที่คุณยกมาเอง ผมก็ไม่ได้จะบอกว่าขรก.ทุกพื้นที่ประเทศไทย ควรได้เงินเหมือน 3 จ.ชายแดนใต้ ไม่เกี่ยวกันนะครับ แล้วยกอะไรมาตั้งมากมายล่ะนั่น คุณ อบต. ครับ ถ้าจะเก่งก๊อปปี วาง นักล่ะก็ ก็น่าจะเก่งอ่านซะหน่อย คุณอุตส่าห์เอาอะไรต่อมิอะไรมาลง อยากให้คนอื่นอ่าน ก็หัดอ่านข้อความคนอื่น (ที่เค้าคิดเองและไม่ได้ก๊อปปีโอเวอร์) ให้ละเอียด ได้ความก่อนดีกว่ามั้ยครับ เพราะไม่งั้นถ้าเอาแต่ก๊อป แต่ไม่สนใจอ่าน ผมก็ไม่รู้จะแย้งต่อไปยังไง ข้อความของคุณมีหลายเรื่องที่เป็นเหตุเป็นผลดีอยู่หรอก แต่ถ้าอยากให้คนอื่นอ่าน ก็เอาแบบสั้นๆ กระชับๆ แบบนี้จะเข้าถึงผู้รับสารมากกว่า มานั่งปวดตานะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น Ge วันที่ตอบ 2009-02-08 14:05:45

ความคิดเห็นที่ 27 (1412877)
งั้น..เอาสั้นๆง่ายๆนะ คุณหมอ ..คุณว่า ค่าตอบแทนฯหมอ ประมาณ ๕ หมื่น เมื่อเทียบกับค่าตอบแทนฯ พยาบาล ๑ พันกว่า คุณ ผอ.คิดว่า มันเหมาะสมหรือไม่? อย่างไร? อธิบาย พอเข้าใจ? ได้ไหมครับ.
ผู้แสดงความคิดเห็น อบต.เล็กๆที่คุณบอก วันที่ตอบ 2009-02-08 14:17:25

ความคิดเห็นที่ 28 (1412887)

ดูเหมือนคุณพยาบาลจะมองข้ามช็อตกันไปหน่อย

ก่อนจะถามว่า ทำไมค่าตอบแทนแพทย์กับพยาบาลมันห่างกันขนาดนั้น ราวฟ้ากับเหว

ไม่ถามตัวเองก่อนล่ะครับ ...

ทำไมทำคะแนนเข้าพยาบาลห่างกับแพทย์ราวฟ้ากับเหว และ...

ทำไมไม่ทำคะแนนให้ใกล้เคียงแพทย์ให้ได้ก่อน

ทำไมเรียนแพทย์ต้องแข่งขันกันสูงกว่าพยาบาลหลายเท่าตัวนัก

ทำไมมีคนอยากเรียนแพทย์มากกว่าพยาบาล

ทำไมระดับมันสมองมันต่างกันได้ขนาดนั้น

ทำไมระบบการรับเข้ามันต้องใช้คนเก่ง

ทำไมแพทย์ถึงขาดแคลนกว่าพยาบาลมากมายนัก

ทำไมเอกชนต้องจ้างแพทย์สูงกว่าพยาบาล ราวฟ้ากับเหว (เหมือนกัน)

ทำไมแพทย์ต้องรับผิดชอบหนักหนากว่าพยาบาล (ไม่ใช่ใช้แรงงาน อย่าหลงประเด็น)

ทำไมต้องเรียนหลักสูตรหนักหนาสาหัสขนาดนั้น

ทำไมคนเรียนยาก (มาก) ไม่สมควรมีรายได้มากกว่าคนที่เรียนง่ายกว่า (มาก)

ทำไมคนรับผิดชอบยาก (มาก) ไม่สมควรมีรายได้มากกว่าคนที่รับผิดชอบน้อยกว่า (มาก)

ถ้าตอบได้ คงเลิกไปจิกกัดคนอื่น แบบไม่ยอมฟังอะไร โดยไม่มองตัวเองก่อน ไม่ใช่สักแต่อ้าง ทำงานแทนคนโน้น คนนี้ ทำได้ดีไปหมดทุกอย่าง เจ้าของงานแทบไม่มีความหมาย ก็แล้วทำไมไม่เป็นแบบคนอื่นตั้งแต่ทีแรกเลยล่ะครับ

ดูเหมือนอะไรๆ ก็เป็นหน้าที่หมอไปซะหมด ไม่รู้เหมือนกันว่า 4 ปี ที่เรียนเค้าสอนอะไรบ้าง ถ้าจะแค่วัด vital signs ฉีดยาเป็น ปัดกวาดเช็ดถู ลงข้อมูล ไม่เห็นต้องลำบากสอบเอนท์ เสียเวลาตั้ง 4 ปีเลย รออบรมกับ อสม. ก็ได้มั้ง หรืองานจริงๆ คุณมีแค่นั้น

เรากำลังพูดถึงขอบเขตความรับผิดชอบ หรือปริมาณงานกันแน่ หรือว่าแยกไม่ออก อย่าลืมว่ากรรมกร คนใช้แรงงาน งานหนักกว่าเราเยอะ ขณะเดียวกันนายกก็ใช้แรงน้อยกว่าเรามาก ใช่มั้ย แต่เราไม่ได้พูดถึงปริมาณการใช้แรงงานนะครับ หากจะเปรียบเทียบแบบนั้น คุณก็เทียบกับคนใช้แรงงานไปเลยจะเข้ากันมากกว่ามั้ย

ผู้แสดงความคิดเห็น MD วันที่ตอบ 2009-02-08 15:02:29

ความคิดเห็นที่ 29 (1412890)

ถึง คุณหมอ..คุณตอบไม่ตรงคำถาม ..นะ..คุณลองอ่านคำถามข้างต้นดูใหม่ ก็ได้....คุณอาจจะเก่งรักษาคน แต่คุณเชื่อไหม/ ที่ผ่านมา ประเทศไทย ไม่เคยมีนายก ที่มาจากแพทย์เลย ..นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างหนึ่งว่า...คนหนึ่งคน มีคุณสมบัติเด่นด้านหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคุณสมบัติด้อยในอีกด้านหนึ่งเหมือนกัน ...เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่า หมอ..แน่ ที่สุด

....กลับไปดูคำถามใหม่..แล้วตอบมาใหม่อีกครั้ง...เอาให้ตรงๆ อย่าเล่นคำ หรือน้ำท่วมทุ่งฯ นะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ถึง md วันที่ตอบ 2009-02-08 15:23:21

ความคิดเห็นที่ 30 (1412891)
คุณหมอ ..คุณว่า ค่าตอบแทนฯหมอ ประมาณ ๕ หมื่น เมื่อเทียบกับค่าตอบแทนฯ พยาบาล ๑ พันกว่า คุณ ผอ.คิดว่า มันเหมาะสมหรือไม่? อย่างไร? อธิบาย พอเข้าใจ?
ผู้แสดงความคิดเห็น ดูคำถามใหม่นะ วันที่ตอบ 2009-02-08 15:25:55

ความคิดเห็นที่ 31 (1412895)
เข้ามาอีกครั้ง ผมไม่ใช่คุณ MD นะครับ คุณนายก อบต. บอกให้ตอบสั้น ไม่เล่นสำนวน โอ บอกตัวเองมั่งรึยังคับ เพราะผมเหนื่อยกับการอ่านสำบัดสำนวนที่คุณก๊อปมาเหลือเกิน ผมก็บอกไปแล้วไงครับว่า “ผมไม่ได้แย้งประเด็นที่สภาการพยาบาลเรียกร้อง” > (ย้ำอีก 10 รอบ ถ้าคุณตั้งใจอ่าน จับประเด็นซะหน่อย ผมคงไม่ต้องย้ำ) เรื่อง ค่าตอบแทนฯหมอ ประมาณ ๕ หมื่น เมื่อเทียบกับค่าตอบแทนฯ พยาบาล ๑ พันกว่า นั่นน่ะ มันก็เป็นข้อเรียกร้องของสภาการพยาบาลด้วยไม่ใช่เหรอ ซึ่งถ้าจำไม่ผิด ผมเคยแสดงความเห็นไปแล้ว ว่าผมเห็นด้วย (ย้ำอีกเหมือนกัน) ว่ามันยังน้อยไป ส่วนจะมีหมอคนอื่นมาบอกว่ามันดีแล้ว หรือได้น้อยก็ดีแล้ว อันนี้ผมไม่รู้ ไม่มีความเห็น แต่ที่ผมจะแย้งเนี่ย มันเรื่องที่พวกคุณยกตัวอย่างดังความเห็นบนๆ นั่นต่างหาก คุณลองไปอ่านดูใหม่แล้วกันว่า ความเห็นคุณ มันเป็นข้อเรียกร้องของสภาด้วยหรือไม่ เพราะเท่าที่อ่านมา มันแค่ความเห็นส่วนตัวเท่านั้น จนบางครั้งเหมือนกับด่าวิชาชีพผมอยู่กรายๆ และอย่าลืมนะครับว่า ที่รัฐเพิ่มค่าตอบแทนนั้น ประเด็นคือ ต้องการดึงแพทย์ให้อยู่ในระบบการรักษา ตามบทบาทวิชาชีพโดยตรง ไม่ใช่ระบบบริหาร และไม่เกี่ยวว่าแพทย์จบใหม่วุฒิภาวะจะเป็นยังไง เป็น ผอ. ได้หรือไม่ ฉะนั้นเรื่องที่คุณพูดถึงวุฒิภาวะตั้งเป็นหัวข้อกระทู้นั้น ผมว่ามันไม่เกี่ยวข้องกันครับ ผมก็ยังจะขอร้องเหมือนเดิม ให้คุณอยู่ในประเด็นต่อไป ต้องเข้าในว่า ที่สภาการพยาบาลเรียกร้องน่ะ คืออะไร และผมโต้แย้งคุณตรงไหน
ผู้แสดงความคิดเห็น Ge วันที่ตอบ 2009-02-08 16:33:38

ความคิดเห็นที่ 32 (1412898)
สุดท้ายนะครับ “แพทยสภา ลองออกประกาศเปิดโอกาสให้ อปท.ทุกแห่งทั่วประเทศไทย ส่งเด้กนักเรียนเข้าเรียนหมอได้แห่งละ 1 คน โดยให้ อปท.ทุกแห่งใช้เงินของตนเองส่งเข้าเรียนจนจบ 6 ปี” ... ครับ ลองอ่านดูจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว แต่ถ้าคุณได้เคยสัมผัสระบบการเรียนการสอนในสถาบันที่เปิดรับนักศึกษาแพทย์ในโครงการพิเศษต่างๆ เช่น หนึ่งแพทย์หนึ่งอำเภอ คุณจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน และต้องยอมรับตรงนี้ เด็กอาจจะเก่งที่สุดในอำเภอแต่เทียบไม่ได้กับเด็กธรรมดาๆ ในตัวเมือง การเรียน การสอบแต่ละครั้ง เด็กกลุ่มนี้ต้องพบความเครียดมากมายแค่ไหน แม้จะปรับตัวแล้วก็ยังมีปัญหาเรื่องตามเพื่อนไม่ทันเมื่อเทียบกับเด็กที่เข้าเรียนในระบบปกติ เนื้อหารายวิชาที่เรียนทั้งมีมาก ทั้งยาก และเหมาะกับเด็กบางกลุ่มมากกว่า เปอร์เซ็นต์เรียนซ้ำรายวิชาเดิม หรือสอบซ่อมของเด็กกลุ่มนี้ก็สูงมาก (ไม่ใช่ทุกคนครับ บางคนก็เก่งเทพเหมือนกัน) คณาจารย์ต้องสนใจกลุ่มนี้เป็นพิเศษ แล้วกว่าจะเคี่ยวเข็ญให้ผ่านแต่ละรายวิชามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่จะปล่อยผ่านไปได้เฉยๆ เพราะต้องคำนึงถึงคุณภาพของแพทย์และชื่อเสียงสถาบันด้วย ลองคิดดูแล้วกันว่า ถึงจะมีทุนสนับสนุนให้เรียนจนจบ subboard แม้จะมีตึกรองรับจำนวนเด็ก แม้เด็กจะมีความสำนึกรักบ้านเกิดสักแค่ไหน แต่ถ้าเด็กตัวไม่พร้อมหรือไม่เหมาะกับหลักสูตร ก็สูญเปล่าครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น Ge วันที่ตอบ 2009-02-08 16:41:45

ความคิดเห็นที่ 33 (1412920)

ตอบความเห็นที่29 30 ครับ

หมอไม่แน่ หรอกครับถ้าพวกเราแน่ พวกเราก็ก่อม็อบ ปิดกระทรวงไปตั้งนานแล้วเพื่อเรียกร้องเงินเพิ่มให้ใกล้เคียงเอกชนบ้างพวกเราเลือกที่จะยอมแพ้ต่อระบบที่กระทรวงให้มา(หมายถึง งาน+ค่าตอบแทน)โดยการเดินออกจากระบบราชการที่ละน้อย ๆ จน เขาหันมาเพิ่มเงินให้หละครับ

คุณพี่พยาบาลทั้งหลายลองอย่าเอาตัวเงินที่ได้มาเทียบกับหมอ แต่คุณลองไปเทียบกับ พยาบาลที่ทำงานภาคเอกชนบ้างซิครับ แล้วจะรูว่ามันเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมอย่างไร ก็แล้วทำไมพยาบาลภาคเอกชนไม่มาเรียกร้องเพิ่มรายได้ตัวเองให้เท่าเทียมหมอเอกชนบ้างหละครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น หมอ วันที่ตอบ 2009-02-08 17:54:39

ความคิดเห็นที่ 34 (1412929)
ตอบคุณ อบต. อีกรอบ ความเห็น 29, 30 ของคุณก็ทำท่าจะเข้าป่าอีกแล้วล่ะคับ อ่านให้เข้าใจแล้วค่อยตอบดีมั้ย “คุณอาจจะเก่งรักษาคน แต่คุณเชื่อไหม/ ที่ผ่านมา ประเทศไทย ไม่เคยมีนายก ที่มาจากแพทย์เลย.. นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างหนึ่งว่า...คนหนึ่งคน มีคุณสมบัติเด่นด้านหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคุณสมบัติด้อยในอีกด้านหนึ่งเหมือนกัน ...เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่า หมอ..แน่ ที่สุด” ผมก็เชื่ออ่ะคับ? ผมรู้ แล้วไงอ่ะ หมอไม่ได้เป็นนายก พิสูจน์ว่าหมอไม่เก่ง ? งงมาก ความเป็นเหตุเป็นผลมันอยู่ตรงไหน ใครไปบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ ว่าหมอแน่ที่สุด จะมามั่วๆ เอาปริมาณ เอาคำพูดคมๆ เข้าว่าอีกแล้วใช่มั้ย สุดท้ายก็ไม่เกี่ยวกันอีก ผมรู้ว่าคุณจะสื่ออะไร แต่ช่วยกรุณายกตัวอย่างให้มันเข้าท่ากว่านี้หน่อย แล้วยังมีหน้ามาบอกให้ผมกลับไปดูคำถามใหม่อีก ตรูจาบ้าาาาาาา
ผู้แสดงความคิดเห็น Ge วันที่ตอบ 2009-02-08 18:22:50

ความคิดเห็นที่ 35 (1412965)

คำถามของผม

.....ค่าตอบแทนฯหมอ ประมาณ ๕ หมื่น เมื่อเทียบกับค่าตอบแทนฯ พยาบาล ๑ พันกว่า คุณ ผอ.คิดว่า มันเหมาะสมหรือไม่?

คำตอบของคุณหมอ

......ผมเห็นด้วย (ย้ำอีกเหมือนกัน) ว่ามันยังน้อยไป

คำถามของผม

....อย่างไร?

คำตอบของคุณหมอ

.......ไม่มีคำตอบจากคุณหมอ

คุณหมอ สิ่งที่ผมนำมากล่าวอ้างนั้น มิใช่เกิดขึ้นมาลอยๆ ที่ผมก๊อปคำพูดในบางคำของหมอที่ออกมานั้น เพื่อให้คนอื่นเขารู้ว่า คุณพูดออกมาอย่างไร? แล้วผมแสดงความเห็นต่อเรื่องนั้น อย่างไร? คุณลองบอกสิว่า ท่อนใหน

ประโยคไหน ที่ผมตั้งขึ้นมา ผมเพียงมาอ่าน รับฟัง ความคิดของคุณหมอที่เขียนมา ซึ่งบางอย่างที่ผมเห็นว่า มันถูก ก็นิ่งรับฟัง แต่บางอย่างบางความคิดเห็นของคุณหมอ ผมเห็นว่ามันผิด ผมก็แสดงความคิดเห็น โต้แย้ง ตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย ผมผิดตรงไหน? ลองยกบางตอนที่ผมโต้แย้งมาพูดสิ มันผิดตรงใหน? คุณหมอ อย่าพยายามทำตัวเป็นคุณพ่อแสนรู้นักเลย ...รู้ดีไปหมด

ปัญหาทั้งหมด มันเป็นเรื่องของการจ่ายค่าตอบแทนพยาบาล ที่มันไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่ที่จ่าย หรือเรื่องช่องว่าง ความห่าง ของเงินค่าตอบแทน มันห่างกันเหลือเกิน ราวฟ้ากับเหว ซึ่งคุณหมอ (เฉพาะคนนี้) ก็เห็นด้วย..และนั่นคือความคิดเห็นของเราตรงกัน ทีนี้..กลับปรากฏว่ากับมีกลุ่มคนบางคน เห็นว่า มันไม่จริง มันไม่ถูกต้อง เงินที่จ่ายให้แพทย์ พยาบาล นี้มันเหมาะสมแล้ว พาลเอะอะอาละวาด ว่ากลุ่มพวกพยาบาลประท้วงทำไม? หมอเรียนเก่ง หัวดี เรียนหนัก ความรับผิดชอบสูง มันต้องได้เงินเยอะกว่าอยู่แล้ว...พูดอย่างนี้มันก็ถูก (แบบไร้มนุษยธรรม หรือเห็นแก่ตัว) แต่กลุ่มคนพวกนี้ ลืมคิดไปอย่างหนึ่งว่า นี่ มันเป็นประเทศประชาธิปไตย ตามระบบประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิ แสดงความคิดเห็นโดยเสรีได้ โดยไม่ไปรบกวนสิทธิของคนอื่น ที่ผ่านมา พยาบาลแทบจะเป็นทาสหมออยู่แล้ว หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ อะไรก็ตามที่โดนกดขี่ ข่มเหง มามาก มันก็ระเบิดออกมาได้ในวันหนึ่ง ดังเช่นพยาบาลประท้วงในวันนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเห็นใจพวกเขา ช่วยพวกเขาหน่อยสิ ถ้าคุณหมอยังเห็นพยาบาลเป็นลูกน้อง ปัจจุบัน มีคุณหมอหน้าใหนบ้าง ที่ต่อสู้เพื่อลูกน้องพยาบาลกลุ่มนี้ ...ดีแต่ ต้องการเงินมากๆ โดยไม่แคร์ต่อความรู้สึกของคนอื่น ผมไม่ใช่กลุ่มคนในอาชีพของคุณหมอ ผมจึงกล้าพูดตรงๆ และแรงๆ หวังว่าจะเปิดความคิดของคุณหมอ ให้มองคนอื่น เป็นคนบ้าง ให้เคารพในความมีคุณค่าของมนุษย์บ้าง เท่านั้น หรือคุณต้องการให้สังคมพิพากษาคุณ ...หรือถ้าคุณแน่จริง คุณหมอที่เห็นแก่ตัวเหล่านี้ ลาออกจากภาคราชการให้หมดเลย ล้างบางมันไปเลย...ให้มันรู้ไป ว่าถ้าประเทศไทยถ้าหมดหมอที่มีความคิดเห็นแก่ตัวอย่างนี้แล้ว ประเทศไทยมันจะตาย...เอาให้มันรู้ไปเลย ...ว่าลูกหลานไทย รุ่นหลังจะมีคนที่มีความสามารถเป็นหมอที่ไม่จ้องแต่จะเอาเงินเยอะๆโดยเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ประเทศชาติ ก็ให้มันรู้ไป...

ผู้แสดงความคิดเห็น อบต.อีกรอบ วันที่ตอบ 2009-02-08 20:07:33

ความคิดเห็นที่ 36 (1412975)

ลอกมา

...ถามกลับ คุณนายกอบตเล็ก ๆ ที่ไม่สำคัญ

อะไรคือเส้นแบ่งที่คุณบอกว่ายุติธรรมหรือ ไม่ยุติธรรม

เงิน 30000 สำหรับแพทย์มันไม่ยุติธรรมตรงใหน

เงิน1500 มันไม่ยุติธรรมต่อพยาบาลอย่างไร..

แสดงความคิดเห็นหมอ วันที่ลงประกาศ 2009-02-07 18:11:49 IP : 125.26.133.152

ความเห็น

..แล้วนี่มันความเห็นของใคร ที่ปากหมอบอกว่า เข้าใจ เห็นใจ มันไม่เหมาะสม แล้วความเห็นข้างบนจากหมอ มันคืออะไร? มันเหมาะสมในความเห็นของหมอ แต่ไม่เหมาะสมในความเห็นของพยาบาลใช่หรือไม่? เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หมอคิดว่าพยาบาลควรจะหุบปากอยู่ใช่ไหม? จึงจะถูกต้อง.

ซึ่งเราบอกว่ามันไม่เป็นธรรม ซ้ำอัตราค่าตอบแทนมันก็ห่างกันประมาณ 10 เท่า เอาหูเอาตาไปใหน เขาบอกว่ามันไม่ยุติธรรม

และนี่

ขออธิบายเหตุผลที่บอกว่า ทำไมไม่ผลิตแพทย์ ปริมาณ มากก จะได้แก้ไขปัญหาแพทย์ ขาดแคลน เสียที ก็เพราะ การจะได้แพทย์ที่ได้คุณภาพ ออกมารักษาผู้ป่วยนั้น ต้องอาศัยการฝึกฝน และดูแลอย่างใกล้ชิดจาก อาจารย์ และรุ่นพี่ๆ ต้องอาศัย ทรัีพยากรบุคคล และสถานที่ฝึกฝน อย่างมาก จึงเป็นเหตุผลว่าทำมัย ทุกมหาวิทยาลัย จึงไม่มีคณะแพทยศาสตร์ครบทุกมหาลัีย อีกทั้งการตั้งคณะแพทยศาสตร์ขึ้นใหม่นั้น ต้องใช้เงิน หลายร้อย หลายพัน ล้านบาท ครับ ถ้าอะไร เอะอะก็จะเพิ่มปริมาณ เพิ่มแต่่ปริมาณ สุดท้าย คนที่จบออกมา ก็ไม่ต่างกับ ให้เด็กมัธยม นั่งตรวจท่านๆ ทั้งหลาย ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็นแพทย์รักพยาบาล วันที่ลงประกาศ 2009-02-07 21:33:13 IP : 125.26.189.121

ความเห็น

เอาเด็กมัธยมที่เรียนจบจากโรงเรียนแพทย์ห่วยๆอย่างที่คุณว่า(ไม่ต้องมีคุณภาพมาก) มารักษาคนป่วยบ้านนอกครบจำนวน อย่างสะดวกสบาย ผมว่า มันดีกว่าปัจจุบันที่จะเข้าโรงหมอที่มีคุณภาพอย่างที่คุณว่า รอคิวยาวเป็นวัน เพื่อคุยอาการไม่ถึง 1 นาที แล้วจ่ายยากลับบ้านดีกว่า เพราะผมมั่นใจว่า อย่างไรเสีย ในสภาพปัจจุบัน คนป่วยมันเยอะ มันจะตายก่อนจะได้รักษา

ผู้แสดงความคิดเห็น กรู วันที่ตอบ 2009-02-08 20:31:36

ความคิดเห็นที่ 37 (1412985)
แล้วทำไมหมอต้องอยากเป็นนายก อบต ครับ ถ้าจะเป็นก็ต้อง สส รึไม่ก็รัฐมนตรีเลยครับ ---นายก อตบ เฮอะ ไม่อยากเป็นหรอก เพราะไม่มีเงินซื้อเสียง
ผู้แสดงความคิดเห็น ขำ วันที่ตอบ 2009-02-08 21:28:19

ความคิดเห็นที่ 38 (1412993)

สรุป

หมอมีรายได้น้อย หมอลาออกไปอยู่เอกชน รัฐแก้เกม โดยการเพิ่มเงินหมอให้มาก หมออยู่ในระบบมากขึ้น

บางวิชาชีพ(บางคน)เห็นหมอได้มากกว่า ทนไม่ได้ แต่ไม่ยอมเลือกไปอยู่ในสถานที่ที่ตัวเองพอใจ มาพาลหมอ ด่าหมอ ตบเท้า ยึดกระทรวง

อบต รอยหยักน้อย จะให้ลดดีกรีแพทย์ เอาปริมาณเข้าว่าไว้ก่อน ขอท้าให้เอาสำนักงานอบต เป็นที่เล่าเรียนหมอไปเลย อยากได้หมอปริมาณมาก ให้เรียนสัก 3 วัน เลยดีมั้ย นายก อบตเป็นผู้ออกใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมเอง ให้อบตคัดเฉพาะเด็กมัธยมที่เรียนจบจากโรงเรียนอบตห่วยๆอย่างที่คุณว่า(ไม่ต้องมีคุณภาพมาก) มารักษาคนป่วยบ้านนอกครบจำนวน อย่างสะดวกสบาย

ผู้แสดงความคิดเห็น หมอ วันที่ตอบ 2009-02-08 21:55:51

ความคิดเห็นที่ 39 (1413013)

เรียน ท่านผู้อ่านกระทู้ที่เคารพทุกท่าน

ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกระทู้นี้ตลอดมา ทั้งหมดทั้งมวลที่ปรากฏในสายตาของท่าน คงพอจะทำให้ท่านได้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในปัญหาที่เรากำลังถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ ผมคงไม่สามารถบอกท่านได้ว่าอะไรผิด หรือถูก อะไรจริง อะไรเท็จ ฯลฯ หรือจริงคือเท็จ เท็จคือจริง จริงๆเท็จๆ หรือซาตานในคราบนักบุญ หรือนักบุญในคราบซาตาน

จากกระทู้ ความเห็นที่ 38 (1412993) ผู้แสดงความคิดเห็นหมอ วันที่ลงประกาศ 2009-02-08 21:55:51 IP : 61.19.124.108

ได้ทำให้ผมคิดขึ้นมาได้ว่า เปล่าประโยชน์ มันย่อมเป็นเช่นนั้นเอง ดังคำพระท่านว่า สัพเพ ธรรมา นารัง อภิหารันตุ (สิ่งทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น) ต้องขอขอบคุณความคิดเห็นที่มีประโยชน์มากจากทุกท่าน นับจากนี้ ผมจะไม่แสดงความคิดเห็นใดๆต่อเรื่องดังกล่าวนี้อีก เพราะมันเปล่าประโยชน์เสียแล้ว

ผมมั่นใจว่า อนาคตส่วนหนึ่งของประเทศไทย ยังคงต้องฝากไว้กับ สมองของแพทย์/หมอ ผู้อัจฉริยะเหล่านี้ ผมขอโทษทุกท่าน ทุกส่วนที่พาดพิงถึง ... ขอแสดงความนับถือ

ผู้แสดงความคิดเห็น นายก อบต.เล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่น่าสนใจ วันที่ตอบ 2009-02-08 23:06:08

ความคิดเห็นที่ 40 (1413014)

เรียน ท่านผู้อ่านกระทู้ที่เคารพทุกท่าน

ขอแก้คำผิดครับ... ดังคำพระท่านว่า สัพเพ ธรรมา นารัง อภินิเวสายะ (สิ่งทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น) ต้องขออภัย ขอบคุณครับ.

ผู้แสดงความคิดเห็น นายก อบต.เล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่น่าสนใจ วันที่ตอบ 2009-02-08 23:15:00

ความคิดเห็นที่ 41 (1413019)

ก่อนเข้านอน ผมอยากฝาก บทกลอนไว้ว่า

จงทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง

ยกผลงานให้ความว่างทุกอย่างสิ้น

กินอาหารของความว่างทุกอย่างกิน

ตายเสร็จสิ้นแล้วในตัวแต่หัวที

ท่านผู้ใดว่างได้ดังว่ามา

ไม่มีทางทุกข์ทนหม่นหมองศรี

ศิลปะในชีวิตชนิดนี้

เป็นเคล็ดที่ใครทำได้สบายเอย

เฮ้ยเหนื่อยเหมือนกันที่ต้องมาตอบโต้ หรือว่าผมบ้าไปแล้วนี่

ผู้แสดงความคิดเห็น หมอ วันที่ตอบ 2009-02-08 23:28:26

ความคิดเห็นที่ 42 (1413321)
แสบตามากๆๆๆๆกับไอ้ตัวหนังสือสีแดง คิดถึงใจคนอื่นหน่อยสิ คนที่ใช้ชื่อว่าหมอ
ผู้แสดงความคิดเห็น ซาร่า วันที่ตอบ 2009-02-10 01:30:31

ความคิดเห็นที่ 43 (1414270)
ก้อ อ่านง่ายดีนี่ ไม่เห็นแสบตาเลย
ผู้แสดงความคิดเห็น ว่าที่ นศพ วันที่ตอบ 2009-02-12 00:09:19

ความคิดเห็นที่ 44 (1414763)
ใช่ซิ...ซิ เรามันโง่ ไม่ฉลาดขนาดเรียนหมอ ถูกโขกซับไม่เว้นแต่ละวัน เอาใจทั้งแพทย์ เอาใจทั้งคนไข้ อีกทั้งผู้มีอิทธิพลจริง และไม่จริง ไม่พอใจแม่....ง จะร้องเรียน ทำดีไม่มีใครเห็น มองข้ามกันไปมองข้ามกันมา ก็OK. รับสภาพเรามันไม่เก่ง IQ ไม่ดี แต่ EQ ขั้นเทพ ถ้าEQ ไม่ดีจริงเข้าโรงพบยาบาลจิตรเวชแล้วนะจ๊ะ ยังไงก็ยิ้มไว้ก่อน ไม่ยิ้มแม่..งเรียกพยามาร กรรมของพวกเราเองจ้ะเพื่อนๆ พยาบาลที่รักทั้งหลายเรานัดพักสมองซัก 8 ชม. ไหมแอบไปร้องไห้กัน ฮือ ๆ เพื่อพวกIQดี เขาจะเห็นความสำคัญเราบ้าง อ่านกระทู้ไปน้ำตาจะไหล ( แค่ 8 ชม.OK.)
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลจ้า พยาบาลจริงๆ วันที่ตอบ 2009-02-12 22:01:25

ความคิดเห็นที่ 45 (1418470)
แพทย์ได้ค่าตอบแทน6หมื่นนอนอยู่ที่บ้านคอยฟังโทรศัพท์ ง่วงหน่อยก็อารมณ์เสีย หงุดหงิด คำพูดไม่น่ารับประทาน เพราะคิดว่าตัวเองเป็นเทวดา ส่วนพยาบาลทำงานไม่ได้หลับไม่ได้นอน เหนื่อยก็เหนื่อย แถมรายงายCase ยังต้องมาถูกเทวดาตะคอกอีก รับหน้าคนไข้อีก ถูกคนไข้ว่าแต่ได้ค่าตอบแทนพันห้าแล้วท่านคิดว่ามันยุติธรรมกับพยาบาลแล้วหรือ
ผู้แสดงความคิดเห็น คนที่เฝ้าสังเกตุการณ์ วันที่ตอบ 2009-02-21 23:56:14

ความคิดเห็นที่ 46 (2957366)

ใช่สิ เรามันโง่ เรามันไม่เก่ง เท่า ...

ไม่งั้นก็ได้เรียนเป็น... แย้วหล่ะ..ตังเอ้ง....

ทนเอาเถอะ...พยบ.ตั๋วน๋อยๆ...ทนไม่ได้ก็.....ไล่มันออกไปซะ......

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องบาลER วันที่ตอบ 2009-03-08 19:52:04

ความคิดเห็นที่ 47 (2957398)
เพิ่งเปิดอ่านกระทู้ ที่โต้ตอบกันนาน 12ชม. ทั้ง2ท่านไม่ไช่พยาบาลแต่พยาบาลได้อ่านก็ได้แง่คิดทั้ง2ท่าน ขอขอบคุณท่านอบต. ที่ช่วยเราแต่คุณกลับต้องเจ็บ ข้าพเจ้าทำงานเป็นพยาบาลรพช.งานอุบัติเหตุฉุกเฉินมา27ปี ผ่านแพทย์ที่เป็น ผอ.มามากกว่า10คน ได้พบทุกรูปทั้งที่เป็นต้นแบบที่ทำงานด้วยจิตวิญญาณของอย่างแท้จริงทำงานหนักจนเราเคารพนับถือ และก็พบทั้งแพทย์ ที่ไม่สนใจคนไข้ทำธุรกิจขายตรง หมอฝังเข็มที่ไม่เคยบอกคนไข้ก่อนว่าจะฝังเข็มจนคนไข้เป็นลมแล้วเอาขนมยัดปากบอกว่า คนไข้ไม่ได้กินข้าวมา หรือคนไข้ ปวดหัวมาก ฝังเข็มเอาไฟฟ้าช๊อตชักแง๊กๆตายคามือ หรือแพทย์ ที่ตรวจคนไข้ใกล้ตายต้องถามญาติให้ได้ก่อนว่าบ้านอยู่ไหนทำไมเพิ่งมาโดยไม่สนใจภาวะวิกฤตของคนไข้ที่อยู่ต่อหน้าหรือแพทย์อยู่เวร9โมงเช้าเพิ่งขับรถออกจากบ้านมาทำงานถึงรพ. 9.30น. ก็ไม่เป็นไรแพทย์ได้รับการยกเว้นเสมอ เพราะแพทย์เป็นคนสำคัญท่สุดของรพ. ไม่ใช่คนไข้ถ้าเข้มงวดมากเดี๋ยวท่านลาออก เรายอมรับว่ารพ. ต้องมีแพทย์ เพราะสิทธิ์และอำนาจทุกอย่างอยู่ที่แพทย์ โรงพยาบาลไหนโชคดี มีแพทย์ ที่ใจเป็นแพทย์จริงๆ พยาบาลก็ทำงานอย่างมีความสุขเพราะเราทำงานเป็นทีมช่วยเหลือเกื้อกูลกันเงินข้าตอบแทนท่านแพทย์เห็นว่าเหมาะสมกับความรู้ความยากที่ท่านเรียนมาหรือเป็นการจูงใจไม่ให้ออกนอกระบบโดยใช้เงินเป็นเครื่องจูงใจเราก็เห็นด้วยแต่ถ้าจะช่วยให้ความต่างที่ห่างกันอย่างเหมาะสมเราก็ขอบคุณ เพราะท่านทำให้เราได้ แต่เราทำให้ตัวเราเองไม่ได้ เพราะเราคิดไม่ออกถึงต้องเป็นพยาบาลและไม่อยากคิดด้วยเพราะเหนื่อยจริงๆ ..ขอบคุณ...
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลชานพระนคร วันที่ตอบ 2009-03-08 21:13:29

ความคิดเห็นที่ 48 (3054793)
เหนื่อยจริงๆ
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาล วันที่ตอบ 2009-07-31 09:33:04

ความคิดเห็นที่ 49 (3242032)
ugg shoes ugg boots for sale ugg boot for sale no surprise to those living in south louisiana that the tracks tendency is to revert to its original form of mudhole buy ugg ultra short boots riders will find
ผู้แสดงความคิดเห็น omega watches วันที่ตอบ 2010-08-25 18:22:07

ความคิดเห็นที่ 50 (3242045)
many potholes and ruts lying in wait that said ugg shoes ugg the local riders expertly maintain the trail most of trail is a beginner trail but includes black ugg boot ugg boots for sale
ผู้แสดงความคิดเห็น tag heuer วันที่ตอบ 2010-08-25 18:24:28

[1] 2 ถัดไป >>

แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *

ผู้แสดงความคิดเห็น *
อีเมล
	ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล