ReadyPlanet.com


เห็นใจผมหน่อย


ผมเป็นหมออยู่โรงพยาบาลชุมชน ทำงานบริการ บริหาร มาทำงานตั้งแต่ 08.00-17.30 น. ไม่รวมเวรนอกเวลาราชการอีกต่างหาก พยายามทำงานด้วยดีมาตลอด แต่อ่านกระทุ้แล้วหดหู่ เพราะพยาบาลที่เคารพเอาแต่ด่าหมอ อยากบอกว่าพยาบาลที่ไม่มีความรับผิดชอบก็มี เช้าชามเย็นชามก็มี  เฮ้อ ท้อใจ


ผู้ตั้งกระทู้ หมอ :: วันที่ลงประกาศ 2009-01-07 15:45:34


[1] 2 ถัดไป >>

ความคิดเห็นที่ 1 (1401688)

เห็นใจมากค่ะ หมอดีๆ ก้อมีเยอะ แต่ไม่มีพยาบาลคนไหนเดินไปด่าหมอต่อหน้าตรงๆ หรอกคะ มีแต่หมอด่า วีนพยายาบ ขว้าง  chart ใส่หน้า ต่อหน้าคนไข้ อันนี้โดนมาแล้วค่ะ เนื่องจากแค่ลืม ลอก  oderส่ง lab จาก รคส ทางโทรศัพท์ เวบบอร์ดนี้ อาจจมีเสียดสีบ้าง แต่นั่นก้ออาจเป็นแค่เปรียบเทียบลับๆ เหมือนนินทา แชร์ให้พยาบาลด้วยกันฟัง   ก้ออย่างเวบหมอที่ด่าทอพยาบาลนั่นแหล่ะคะ  ขอคุณค่ะที่แวะเข้ามาชม  นับถือคุณหมอเสมอค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปุ๋งปิ๋ง วันที่ตอบ 2009-01-07 16:15:12


ความคิดเห็นที่ 2 (1401694)
เห็นใจคะเพราะก็เคยเจอมาหลายคนที่ดีมากๆยังคิดถึงอยู่เลยบางคนก็ปานกลางและน้อยที่สุดก็มีคะแต่อยากให้ผู้ใหญ่ที่มีอำนาจคิดถึงบุคลากรอื่นบ้าง  อย่างไรก็ตามไม่ควรพาดพิง  ให้มากนักนะคะพยาบาลจ๋า  เราก็ต่อสู้ไปไม่ควรต่อว่าคนอื่น  ไม่เห็นดีเลยคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลแก่ๆ วันที่ตอบ 2009-01-07 16:45:43


ความคิดเห็นที่ 3 (1401701)

สมมตินะครับ



ไม่ได้มีเจตนาจะตอบโต้เสียๆ หายๆ นะครับ แต่ถ้าผมหรือใครก็ได้ แสดงความเห็นที่เขียนแบบข้างล่างนี้ คุณพยาบาลจะรู้สึกอย่างไร...

ย้ำนะครับ แค่สมมติ...
จากประสบการณ์ หลาย รพช.

พยาบาล

ชอบแบ่งก๊กแบ่งเหล่า ขัดแข้งขัดขากันเอง
อิจฉากันเองเป็นที่หนึ่ง
ทำงานสาย เวรบ่าย ดึก ส่งเวรทะเลาะกันประจำ
เขียนข้อร้องเรียน กล่าวหากันเองในกลุ่มงาน
หลายคนก็เช้าชามเย็นชาม
โกงวันลา
ด่าคนไข้ก็เยอะ (โดยเฉพาะซีสูงๆ และเวรบ่าย ดึก) ดีไม่ดี ด่าหมอต่อหน้าคนไข้ด้วย เหตุผลเพราะญาติตัวเอง ไม่ได้ลัดคิว ???
นินทาเก่งเป็นที่หนึ่ง
วันหยุด วันศุกร์ วันลาพักผ่อน ยาที่ ER หายทีละมากๆ เป็นประจำ และไม่มีรายการใบสั่งยาเลย
ฯลฯ

ที่พูดมานี้ี้ก็ความจริงทั้งนั้น เหมือนกัน
ความดีของพยาบาลก็มีเยอะ ของหมอก็มีไม่ดีเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่พูดหรอก เพราะไม่เห็นพยาบาลจะพูดถึงตัวเองในแง่ไม่ดีเลย เอาแต่พูดดีเข้าตัวเอง แฟร์ดีมั้ยครับ ?

ถ้าว่าคนอื่นเลวร้ายได้ขนาดนั้น ก็ยอมรับที่โดนว่ามั่งก็ไม่เสียหลายนะ

อีกครั้งนะครับ ผมไม่ได้จะมาชวนทะเลาะ แค่อยากบอกว่า ถ้าจะมองแต่ข้อเสียของคนอื่น ก็จะเห็นแต่ข้อเสีย ไม่มีสิ้นสุด เหมือนที่พยาบาลพยายามหาข้อเสียของหมอ หรือหมอหาข้อเสียของพยาบาล
แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร
ผู้แสดงความคิดเห็น Silica วันที่ตอบ 2009-01-07 17:06:32


ความคิดเห็นที่ 4 (1401707)

ถูกต้องครับหมอ  ไม่ต้องแขวะวิชาชีพอื่น  แต่ต้องให้ผู้ใหญ่ในกระทรวงทราบว่าถึงเวลาหรือยังที่จะคิดใหม่ทำใหม่  ที่เป็นอย่างนี้เพราะผู้ใหญ่ในกระทรวงก็ไม่มีสหวิชาชีพ  พยาบาลเป็นใหญ่เป็นโตไม่มี  เลยทำให้ขาดความเป็นเอกภาพในวิชาชีพทั้งๆที่จกป.เอกมาก็ปรับไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโตไม่ได้  กระทรวงต้องมีทุกวิชาชีพที่เป็นใหญ่เป็นโตได้แก่แพทย์  ทันตแพทย์  พยาบาล  เภสัช  เทคนิคการแพทย์  สาธารณสุขนี่กระทรวงโตได้แต่แพทย์ก็เลยเป็นแบบนี้หละ  เข้าใจหมอนะ.....

ผู้แสดงความคิดเห็น เข้าใจ วันที่ตอบ 2009-01-07 17:19:37


ความคิดเห็นที่ 5 (1401763)

ขอร้องนะคะไม่ว่าจะเป็นหมอหรือพยาบาลก็อย่าว่ากันเลยนะคะ ในแต่ละกลุ่มงานอาชีพ ย่อมมีคนแก่ตัวกันทั้งนั้นและชอบนินทาคนอื่นในด้านไม่ดี ชอบมองแต่ส่วนไม่ดีคนอื่น  อยากให้คุณหมอและคุณพยาบาลมองแต่ส่วนดีกัน  หนักนิเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะคะ......

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้หวังดีคะ วันที่ตอบ 2009-01-07 21:04:37


ความคิดเห็นที่ 6 (1401774)
ยุคบริโภคนิยม เพราะเงินจึงทะเลาะกัน
ผู้แสดงความคิดเห็น ข้าราชการ วันที่ตอบ 2009-01-07 21:26:24


ความคิดเห็นที่ 7 (1401803)

ผู้ใหญ่ ไม่ดูแล กัน ก้ออย่างนี้อหล่ะค่ะ เป็นอยู่อย่างนี้ แพทย์ พยาบาลทำงานร่วมกันตลอดทั้งชาติค่ะขาดกันไม่ได้ อย่าทะเลาะกันเลย นะนะ ขอร้องค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น หนูเบเบ้ พยาบาลเสียงใส วันที่ตอบ 2009-01-08 01:25:38


ความคิดเห็นที่ 8 (1401813)

อ่านแล้วเศร้าใจ

ไม่ต้องมีคณะอื่นละ

มีแต่คณะพยาบาลก็พอ หยุบ แพทย์ ทันตะ เทคนิค เภสัช ออกไปเลย

ตั้งกระทรวงพยาบาล เอานายกรัฐมนตรี ที่เป็นพยาบาล เอาแม่บ้าย ที่เป็นพยาบาล เอา คนขับคนที่เป็นพยาบาล

**************

ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยเห็นมีข่าวว่าเลยว่า กระทรวงจะไม่เห็นค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายแก่ พยาบาล มีแต่ข่าวออกมาด่าคนโน้นด่าคนนี้ ไม่เค้าใจจริงๆ ตีตนไปก่อนไปกันทั้งนั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น เบื่อ วันที่ตอบ 2009-01-08 07:59:44


ความคิดเห็นที่ 9 (1401858)

คุณหมอตั้งกระทู้ดีมาก   

บอกตรงๆ    ที่ผ่านมา   พยาบาลรู้สึกดีต่อหมอมาตลอด      หมอจบใหม่หรือหมอย้ายมาที่โรงพยาบาล   พวกเราจะรอเพื่อนร่วมงานที่สำคัญคนนี้ของทีมเสมอมา    

ทุกวันนี้มั่นใจว่าในเนื้อหัวใจแท้ๆก็ยังรักและรู้สึกดีอยู่เสมอ   เป็นเพื่อนร่วมงานที่รู้ใจ    และหนักเอาเบาสู้มาด้วยกัน     ทุกข์ยากอย่างไร   พวกเราเท่านั้นที่รู้กันและเห็นกันอยู่ตลอดมา

  แต่อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่มาทำให้ความรู้สึกของพวกเราทุกคนในทีมสุขภาพวอกแวกไปบ้าง   แต่สุดท้ายถ้าถามความรู้สึกจริงๆแล้ว    มั่นใจว่าพวกเรายังรักกัน   

 เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วค่ะ   ที่จะมาร่วมแรงใจกันอย่างเหนียวแน่นอีกครั้งและตลอดไป    อย่ารู้สึกโกรธเลยนะ

 เลือดสาธารณสุขอย่าให้จืดจางลงเลย    ขอให้บรรยากาศการทำงานที่ดีจงกลับมาหาพวกเราอีกครั้ง      และอย่าได้ท้อแท้หรือเบื่อเลย     หันหน้ามาพูดคุย   รักกัน  ร่วมใจกันเหมือนเดิมเถิด   

ขอและหวังอย่างนั้นจริงๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น พี่ วันที่ตอบ 2009-01-08 10:24:30


ความคิดเห็นที่ 10 (1401868)
เช่นกันคะ  และจะเป็นอย่างนั้น
ผู้แสดงความคิดเห็น น้อง วันที่ตอบ 2009-01-08 10:50:55


ความคิดเห็นที่ 11 (1401880)
ให้กำลังใจนะ     อยากบอกเช่นกันว่ายังรักอยู่และรู้ว่าทุกคนทำงานหนักอย่างไร      เราหนักและเหนื่อยมาด้วยกัน    อีกไม่นานคงดีขึ้น     ไม่มีก๊กมีเหล่า
ผู้แสดงความคิดเห็น พวกเดียวกัน วันที่ตอบ 2009-01-08 11:06:09


ความคิดเห็นที่ 12 (1401908)

ไม่อยากว่าเหมือนเป็นการชวนทะเลาะกัน

เมื่อหามอได้ค่าตอบแทนมากขึ้นพยาบลในฐานะที่ทำงานเป็นผุ้รับคำสั่งถึงไม่ได้ค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นด้วอยากทราบว่า หากไม่มีพยาบาลหมออจะรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพไหม?อย่าเห็นแก่ได้เพียงฝ่ายเดียว

ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลบ้านนอก วันที่ตอบ 2009-01-08 12:52:25


ความคิดเห็นที่ 13 (1401917)

ในสังคมปัจจุบัน มักเข้าข้างตัวเองเสมอว่าทำงานหนัก แต่ไม่สำนึกว่าขณะที่คุณทำงานใครอยู่เคียงข้าง คุณตลอดเวลา     ดังนั้นหมอควรเห็นใจพยาบาลบ้าง หากพยาบาลได้ค่าตอบแทนเป็นหมื่น หมอไม่ได้เลย(เหมือนพยาบาลที่ถูกกระทำ) หมอจะรู้สึกอย่างไร

ผู้แสดงความคิดเห็น คนข้างศาล (พระภูมิ) วันที่ตอบ 2009-01-08 13:18:04


ความคิดเห็นที่ 14 (1401929)

ขอบคุณค่ะ  พี่ความเห็นที่ 9    พวกเรารักกันนะ     เพราะพวกเราคือชาวสาธารณสุขที่มีอุดมการณ์ร่วมเพื่อสังคม   ขอให้ทุกคนโชคดี

ผู้แสดงความคิดเห็น น้องๆ วันที่ตอบ 2009-01-08 13:44:05


ความคิดเห็นที่ 15 (1401984)

ขอตอบความเห็นที่3ค่ะ 

ไม่ต้องสมมุติหรอกนะคะ  ว่ากันตามจริงแล้วไม่ว่าพยาบาลหรือใครก็มีนิสัยส่วนตัวหลายอย่าง    คนโบราณสอนว่า  ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา  ฉะนั้นก่อนแสดงความเห็นใดๆ     อย่าเหมารวมว่าใครจะนิสัยเหมือนที่ตัวเองคิดเสียหมด  ส่วนเรื่องการทำงานแล้วถ้าไม่มีพยาบาลขี้อิจฉา ขี้นินทาอย่างที่คุณว่า จะมีใครหน้าไหนรับภาระงานที่เกินขอบเขตหน้าที่แทนคุณหมอล่ะคะ... 

จะบอกให้เอาบุญว่า  พยาบาลไม่ได้อยากเรียกร้องเงินให้เท่าเทียมกับวิชาชีพไหน  แต่งานที่คุณโยนมาให้พยาบาลรับภาระแทน  คุณกล้ารับไปทำเองไหมล่ะคะ  และในเมื่อเราทำงานหนักเกินขอบเขตวิชาชีพ ค่าตอบแทนแค่นั้นมันเป็นแค่เศษเงินที่ไม่ควรจะทำให้ใครต้องมาทะเลาะกันหรอกค่ะ  มีพยาบาลมากมายที่ไม่ได้เห็นความสำคัญของเงินมากไปกว่า ความเป็นธรรมทางวิชาชีพค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลตัวจริง วันที่ตอบ 2009-01-08 16:34:51


ความคิดเห็นที่ 16 (1402018)
ความเห็นที่ 15 ครับ
ผมว่า ความเห็นที่ 3 เค้าเจตนาดีนะครับ คุณอ่านให้จบจนบรรทัดสุดท้ายก่อนดีมั้ย ไม่งั้นไปตอบโต้แบบนั้น จะยิ่งผิดใจกันอีก

ขอบคุณคุณหมอเจ้าของกระทู้ครับผม
ผู้แสดงความคิดเห็น Mike วันที่ตอบ 2009-01-08 18:08:51


ความคิดเห็นที่ 17 (1402042)

เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 1 ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น โปร่งใสไม่โปร่งแสง วันที่ตอบ 2009-01-08 20:55:01


ความคิดเห็นที่ 18 (1402083)
ที่หมอกล่าวมาก็ถูกและในทางเดียวกันหมดดีๆก็มีมาก แต่หมอที่นิสัยแย่ๆก็มีใช่น้อย
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลเหมือนกัน วันที่ตอบ 2009-01-09 00:06:36


ความคิดเห็นที่ 19 (1402085)
เห็นด้วยกับความเห็นท่ี่ 3 แม้แต่พยาบาลก้อไม่รักเองกันนับประสาอะไรกับวิชาชีพข้างเคียง ทุกคนทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด เงินคือคำตอบสุดท้ายหรือ อ่านในบอร์ดแล้วเศร้า ไม่ว่า จะเป็นความก้าวหน้าของพี่ๆ ถ้าไม่มีวันนี้ (หัวหน้า 8) วันหน้าน้องจะได้ รึเปล่าว ใครได้ดี หรือก้าวหน้า เราควรดีใจด้วย แล้วสักวัน จะถึงเราเอง คำว่ามุทิตา รู้จักรึเปล่าวนะ จะเรียกร้องก้อเรียก หรือ ทำไป ทำไมต้องพาดพิงพี่ หัวหน้าพยาบาล หรือวิชาชีพอื่น เพื่อความแตกแยกด้วย เหมือนคนพาล
ผู้แสดงความคิดเห็น คนร่วมวิชาชีพ วันที่ตอบ 2009-01-09 00:09:16


ความคิดเห็นที่ 20 (1402138)
ความเห็นที่ 15 บอกความเห็นที 15 ก็ยังไม่ตักน้ำใส่กระโหลก ชะโงก ดู เงาหัวตัวเองอีกอยู่ดี ส่งสารหมอจัง มาชี้ทางให้ข้อคิด กลับ อคติ มาอ่านแล้วเสียความรู้สึก ถ้าใครทำอะไรดีๆ ให้แต่ไม่รับ กลับมาว่าคนอื่นอีก คนแบบนี้.............. สอนคนนะสอนได้ แต่สอน..ค..ย.สิสอนยาก
ผู้แสดงความคิดเห็น Jx50 วันที่ตอบ 2009-01-09 10:10:03


ความคิดเห็นที่ 21 (1402156)

ผมก็เหนื่อยใจกับพยาบาลบางคน ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง ปากว่าตาขยิบ  วันนี้ผลประท้วงของพวกคุณพยาบาลจะออกมาอย่างไร กรุณายอมรับ อย่ามาพาลว่าหมออีกแล้วกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น หมอรพช. วันที่ตอบ 2009-01-09 11:07:22


ความคิดเห็นที่ 22 (1402160)

เห็นใจค่ะ  ไม่ได้ว่าหมอไม่ดีซะหมด แต่ที่หมอเขียนมา มันก็เหมือนว่าพยาบาลนะคะ  ส่วนมากก็ดี แต่หลายคนก็แย่นะคะ ชอบทำเหมือนพยาบาลเป็นใต้รองบังคับ  พวกเราเป็นเพื่อนร่วมวิชาชีพนะคะ   ถ้าหากขาดสาขาใดไป หมอคิดว่าคุณทำคนเดียวไหวไหม     ทราบว่าคุณเหนื่อย แล้วพยาบาลล่ะค่ะ ต้องอยู่กับคนไข้ตลอด ต้องรองรับอารมณ์ญาติ  ผุ้ป่วย และหมอ   คุณคิดว่าแค่ค่าเวร เงินเดือนแค่นี้มันเพียงพอไหม  ยิ่งเป็นรัฐบาล บอกได้เลยค่ะ ลงเวรเลทมากเป็น ชั่วโมงกว่า   ไม่เคยได้ค่าตอบแทน   หมอยังได้รายcase  แต่พยาบาลไม่มีนะคะ      แล้วที่หมอพูดกันว่าพยาบาลไม่เห็นจำเป็นต้องขึ้นเงินเดือนหรือค่าตอบแทนคุณคิดว่ามันถูกแล้วหรอคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ชมพู่ วันที่ตอบ 2009-01-09 11:15:51


ความคิดเห็นที่ 23 (1402169)

ใครๆต่างก็คิดว่าตนเองดีนี่คือธรรมชาติของคน หมอไม่ว่าสังคมหรืออาชีพไหนมีทั้งดีและชั่วปะปนกันไป พยาบาลยังงก็ไม่อยากมีปัญหากับหมอและหมอควรจะจำไว้ด้วยนะคะว่าพยาบาลเป็นเพื่อนร่วมงานกับคุณไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชานะคะ สงสัยต้องไปบอกอาจารย์แพทย์ว่าช่วยย้ำนศแพทย์ด้วยว่าคุณคือผู้ร่วมงานในรพ.คนหนึ่งเท่านั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น แอ่นแอ๊น วันที่ตอบ 2009-01-09 11:40:42


ความคิดเห็นที่ 24 (1402181)
ด้วยบทบาทและหน้าที่ คุณคือผู้ใต้บังคับบัญชาในระดับสายงานที่ต่างกัน คุณก็ต้องยอมรับและทำตามคำสั่งแนะนำ ถ้าคุณเป็นพยาบาลแล้วคุณมาเรียนหมอต่อ ด้วบทบาทของคุณก็คงไม่ต่างจากหมอในปัจจุบันหรอก แต่คุณก็จะเถีงว่า ไม่จริงหรอกฉันจะไม่ทำอย่างนั้น ซึ่งมันก็ไม่จริงหรอก...แต่หมอแต่ละคนจะเป็นไรอย่างมันก็คือ พื้นฐานของแต่ละบุคคลต่างกัน อย่าเหมารวมกัน พยาบาลก็เหมือนกัน มีทั้งคนอวดดี ปากเสีย บางคนก็ดี คอยให้คำแนะนำ เสนอแนะ แล้วแต่คุณจะเป็นพวกไหน ในสังคมมีคนหลายคน อย่าเอาพื้นฐานความคิดคุณคนเดียวมาเหมารวมกันว่าทุกคนต้อง ไม่ดี หรือเป็นอย่างคุณซะหมด ต้องเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา ทำงานร่วมกัน ต่างคนต่างคนต่างช่วยกัน คุณก็ไม่ต่างจากหมอหรอก ว่าแต่หมอ แต่ก็ไม่เคยหันกลับมาดูตัวเองเลย ว่าคุณสมควรที่จะถูกว่าหรือถูกดุมั๊ย คนเรามันก็มีทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่าดี หรือเลว คนเราก็ควร ถือแต่ด้านดีๆ เขาไว้ การแสดงความคิดเห็น เป็นการแลกเปลี่ยนทัศนะคติ อย่าลามปาม ไปด่า หรือว่า พ่อแม่ ครูอาจารย์ มันบาป ไม่มีอาจารย์ หมอ อาจารย์พยาบาล คนไหน อยากให้ลูกศิษญ์ตัวเอง เป็นเลว คนไม่ดี คอยว่า แดกดัน หรือไม่รับฟังคนอื่นหรอกครับ อันนี้มันเป็น พื้นฐานทางสังคมที่เค้าอบรมเลี้ยงดูมาต่างกันต่างหาก คนเรา แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือคนรักเรา และส่วนที่ 2 คือคนเกลียดเรา ส่วนที่ 3 คือคน ที่ เฉยๆ กับ เรา...อย่าคิดว่าทุกอย่างจะเลวร้าย เพราะ ในโลกนี้ มี คนแค่ ส่วนเดียวที่เกลียดเรา เพราะ 2 ส่วนที่เหลือคือ คนที่รักเรา และคนที่เฉยๆ กับเรา เค้าไม่ค่อยทำลาย เราหรอก จงมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ รอฟังข่าวดีดีว่า ว่า รัฐบาลเค้าจะให้เงินคุณตามที่ร้องขอเท่าไหร่ จะได้ค่า OT เพิ่มหรือไม่ หยุดเถอะ อย่ามองคนให้แง่ลบเลย โลกจะดีขึ้น เพียงแค่คุณหันกลับไปมองคนที่คุณเกลียดในอีกด้านหนึ่งของเค้า...................แค่คุณเปิดใจ
ผู้แสดงความคิดเห็น แวะมา วันที่ตอบ 2009-01-09 12:07:27


ความคิดเห็นที่ 25 (1402185)

อ่อเหรอออออออออออ

ผู้แสดงความคิดเห็น แวะมาเหมือนกัน วันที่ตอบ 2009-01-09 12:13:45


ความคิดเห็นที่ 26 (1402198)

คุณคหที่24 เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าค่ะ ที่บอกว่า"ด้วยบทบาทและหน้าที่พยาบาลคือผู้ใต้บังคับบัญชาของแพทย์" ดิฉันเป็นพยาบาลมา 20 กว่าปี จบป.โทบริหารฯ, กำลังเรียนนิติศาสตร์อยู่  และทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการบริหารรพ.มานานยังไม่เคยพบระเบียบ /ข้อบังคับ/ประกาศ/หรือคำสั่งใดๆเลยที่ระบุว่า"พยาบาลคือผู้ใต้บังคับบัญชาของแพทย์" ดิฉันคิดว่าคุณคหที่24 น่าจะอ้างอิงแหล่งที่มา / หลักฐาน การกล่าวอ้างด้วยมิฉะนั้นจะทำให้ผู้ที่เข้ามาอ่านเข้าใจผิดได้นะคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาล วันที่ตอบ 2009-01-09 12:49:18


ความคิดเห็นที่ 27 (1402201)

ความเห็นที่ 24 ให้ข้อคิดดีๆ  พยาบาล ยังไม่สำเหนียกอีก  นิสัยคนเรา

ผู้แสดงความคิดเห็น ... วันที่ตอบ 2009-01-09 13:08:05


ความคิดเห็นที่ 28 (1402203)
อ่อเหรอ
ผู้แสดงความคิดเห็น อ๋อเหรอ วันที่ตอบ 2009-01-09 13:09:34


ความคิดเห็นที่ 29 (1402206)
คุณคหที่27 คุณอ่านภาษาไทยเข้าใจหรือเปล่า คหที่26 เขาเขียนชัดเจนแต่คุณกลับตอบเข้ามาคนละเรื่องนะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลตัวจริง วันที่ตอบ 2009-01-09 13:28:25


ความคิดเห็นที่ 30 (1402208)

คุณพยาบาลตัวจริง  คุณลองอ่าน 3 บรรทัดสุดท้ายของคห.24  อย่ามัวแต่อคติกับวิชาชีพอื่น  คุณทำหน้าที่ของคุณให้ดีแล้วกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น bore วันที่ตอบ 2009-01-09 13:36:55


ความคิดเห็นที่ 31 (1402209)

เห็นด้วยกับคห.ที่927ค่ะ เป็นการกล่าวที่ถูกต้องแล้วจะพูดอะไรหรือทำอะไรต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์นะคะคุณ คห.ที่24

ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลรพช. วันที่ตอบ 2009-01-09 13:37:51


ความคิดเห็นที่ 32 (1402228)

ข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพ
การพยาบาลและการผดุงครรภ์ และการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพ พ.ศ. 2530

หลักทั่วไป

1) ดำรงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรม และเคารพต่อกฎหมายของบ้านเมือง
2) ประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คำนึงถึงฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคมหรือลัทธิการเมือง
3) ไม่ประพฤติหรือกระทำการใด ๆ อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

3. การปฏิบัติต่อผู้ร่วมวิชาชีพ

1) พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน
2) ต้องไม่ทับถมให้ร้ายหรือกลั่นแกล้งกัน
3) ต้องไม่ชักจูงผู้ป่วยหรือผู้รับบริการผู้อื่นมาเป็นของตน

4. การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน
1) พึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิ์ศรีของผู้ร่วมงาน
2) ต้องไม่ทับถมให้ร้าย หรือกลั่นแกล้งผู้ร่วมงาน
3) พึงส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพของผู้ร่วมงาน

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เข้าใจผิดจงอ่าน วันที่ตอบ 2009-01-09 15:08:25


ความคิดเห็นที่ 33 (1402231)

จรรยาบัญวิชาชีพ

จรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาลต่อสังคมและประเทศชาติ
1. พึงประกอบกิจแห่งวิชาชีพให้สอดคล้องกับนโยบายอันยังประโยชน์แก่สาธารณชน
2. พึงรับผิดชอบร่วมกับประชาชนในการริเริ่ม สนับสนุนกิจกรรมที่ก่อให้เกิดสันติสุข และยกระดับคุณภาพชีวิต
3. พึงอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ
4. พึงประกอบวิชาชีพโดยมุ่งส่งเสริมความมั่นคงของชาติ ศาสนา และสถาบันกษัตริย์

จรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาลต่อวิชาชีพ
1. พึงตระหนักและถือปฏิบัติในหน้าที่ความรับผิดชอบตามหลักการแห่งวิชาชีพการพยาบาล
2. พัฒนาความรู้และวิธีปฏิบัติให้ได้มาตรฐานแห่งวิชาชีพ
3. พึงศรัทธาสนับสนุนและให้ความร่วมมือในกิจกรรมแห่งวิชาชีพ
4. พึงสร้างและธำรงไว้ซึ่งสิทธิอันชอบธรรม ในการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
5. พึงเผยแพร่ชื่อเสียงและคุณค่าแห่งวิชาชีพให้เป็นที่ปรากฏแก่สังคม

จรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาลต่อผู้ร่วมวิชาชีพและผู้ประกอบวิชาชีพอื่น
1. ให้เกียรติ เคารพในสิทธิและหน้าที่ของผู้ร่วมวิชาชีพและผู้อื่น
2. เห็นคุณค่าและยกย่องผู้มีความรู้ ความสามารถในศาสตร์สาขาต่างๆ
3. พึงรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดี กับผู้ร่วมงานทั้งภายในและภายนอกวิชาชีพ
4. ยอมรับความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ และชักนำให้ประพฤติปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร
5. พึงอำนวยความสะดวกและให้ความร่วมมือแก่ผู้ร่วมงานในการปฏิบัติภารกิจอันชอบธรรม
6. ละเว้นการส่งเสริมหรือปกป้องผู้ประพฤติผิด เพื่อผลประโยชน์แห่งตนหรือผู้กระทำการนั้นๆ

จรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาลต่อตนเอง
1. ประพฤติตนและประกอบกิจแห่งวิชาชีพ โดยถูกต้องตามกฎหมาย
2. ยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
3. ประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งในด้านการประกอบกิจแห่งวิชาชีพและส่วนตัว
4. ใฝ่รู้พัฒนาแนวคิดให้กว้าง และยอมรับการเปลี่ยนแปลง
5. ประกอบกิจแห่งวิชาชีพด้วยความเต็มใจ และเต็มกำลังความสามารถ
6. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมีสติ รอบรู้ เชื่อมั่นและมีวิจารณญาณอันรอบคอบ

 

มีข้อไหนบ้างที่กำหนดให้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เข้าใจผิดจงอ่าน วันที่ตอบ 2009-01-09 15:16:27


ความคิดเห็นที่ 34 (1402244)

ขอบคุณที่อุตส่าห์คัดลอกมาให้อ่าน  งั้นคุณด็ควรเสนอสภาการพยาบาลให้มีสิทธิ์คัดเลือกเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน,โรงพยาบาลทั่วไป,ปลัดกระทรวงสาธารณสุขไปเลย  ให้พยาบาลมาบริหารกระทรวงแทน  การทำงานไม่ว่าองค์กรหรือวิชาชีพไหนก็ต้องมีผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน เช่น รพ.ชุมชน  มีผอ.รพ.เป็นผู้บังคับบัญชา  หมอ พยาบาล เภสัช nurse aid เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา  หรือว่าพวกคุณจะเถียง

ผู้แสดงความคิดเห็น หมอคนหนึ่ง วันที่ตอบ 2009-01-09 15:34:36


ความคิดเห็นที่ 35 (1402248)
โอ๊ยยยยยยยย ไปกันใหญ่แร้วววววววววว

เค้าแค่บอกว่า "ผู้ใต้บังคับบัญชาในระดับสายงานที่ต่างกัน"

มันคือบทบาทตามสายงาน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ จรรยาบรรณ รึจริยธรรมวิชาชีพล่ะคับ

"Doctor Order..." เคยเห็นมั้ยเนี่ย หมอสั่งก่อน แล้วคุณตาม โอเค้...

หมอเป็นหัวหน้ากลุ่มงาน (เช่น บริการทางการแพทย์ กลุ่มงานเวช เป็นต้น) แล้วคุณตาม โอเค้...

ถ้าคุณเป็นหัวหน้าหมอบ้าง หมอก็ตาม โอเค้...

จรรยาบรรณหมอก็ไม่ต้องบอกว่าต้องเ็ป็นผู้นำ เป็น ผอ. (เพราะมันไม่เกี่ยวกัน) แต่ต้องเป็น เพราะบทบาทมันนำพา โอเค้...

เค้าก็บอกว่า บทบาทๆๆๆๆ ต้องมีกฏหมายกำหนดอะไรด้วยเหรอ ตรูจาบ้า รึต้องให้เรียนถึง 6 ปีถึงจะรู้เรื่องรึงัยเนี่ย

กะเอาหลักการมาเต็มที่ แต่สุดท้ายก็คนละเรื่อง มั่วได้ใจจริงจิ๊งงง...

จรรยาบรรณ หรือจริยธรรมวิชาชีพที่ยกมานั่นน่ะ มีท่อนไหนบอกให้คุณรับเงินเดือนบ้าง ก็ไม่มีใช่มั้ย แล้วจะรับทำไม >>>>ก็ไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่หรอก คนละเรื่องเลย เหมือนที่คุณยกมานั่นแหละ
ผู้แสดงความคิดเห็น ไม่เข้าใจว่าเข้าใจยากตรงไหน... วันที่ตอบ 2009-01-09 15:38:07


ความคิดเห็นที่ 36 (1402257)
ผมเห็นใจทุกฝ่ายมากครับ..แต่ผมเห็นใจชาวบ้านมากกว่าที่จะต้องพึ่งท่านๆทั้งหลาย ยามเจ็บป่วยชีวิตต้องพึ่งท่าน..แต่พวกเรากำลังแตกแยกในเรื่องเงินๆทองๆแตกความสามัคคี ทั้งที่ชาวบ้านลำบากกว่าท่านมากเลยนะครับ...ถ้าท่านไม่มีความสุขในระบบราชการท่านทั้งหลายมีทางเลือกครับเช่นไปอยู่เอกชนหรือทำงานส่วนตัวที่รายได้ดีกว่า..มากกว่ารัฐบาล....เท่าที่ผมทราบปัญหาขาดแคลนแพทย์เป็นปัญหาซ้ำซากมาหลายสิบปี เพราะแพทย์ที่จบมาไม่ใช่จะมีแต่ผู้เสียสละ มีแต่น้อยครับ จบมาอยากได้เงินเดือนสูงๆก็ลาออกไปเอกชนเป็นอยู่ทุกปี เงินเดือนสูงมากก็ดึงแพทย์จากระบบราชการเข้าเอกชนเกือบหมด เงินเดือนแพทย์เท่าข้าราชการพลเรือนทั่วไป เมื่อ 20 กว่าปีก่อนได้เพิมจากเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายเดือนละ 2200 บาท ไม่มีค่าตอบแทน ค่าเวร(อยู่เวรทุกวัน ทำงานหนักมากครับ)เมือใช้ทุนหมดก็เรียนต่อจบแล้วไปเอกชนส่วนใหญ่เพรารายได้ 80000-250000 บาทต่อเดือนหรือมากกว่านั้น...การที่จะแก้ปัญหาแพทย์ในระบบของรัฐไม่ให้สมองใหลก็คงต้องใช้ยาแรงทุ่มขอแค่ขั้นตำหรือ 60 เปอรเซ้นของเอกชน อาจจะดึงแพทย์ให้อยู่ในระบบใด้ ปัญหาขาดแพทย์จะใด้จบไป น่าจะทำให้งานรักษา มีคุณภาพที่ดีขึ้นอาจจะดีกว่าเอกชนก็ใด้ครับ เท่าที่ทราบการขึ้นค่าเบี้ยเลี้ยงของแพทย์ต้องใช้เงินปีละประมาณ 1000 ล้านบาท แต่เงินที่เกี่ยวกับการรักษาในระบบปีละ 3 แสนล้านบาทเท่ากับร้อยละ 0.003 เองครับไม่มากเลยนะครับแต่สิ่งที่ใด้จะมีแพทย์อยู่ในระบบเต็มกรอบสักที ขณะนี้ขาดขาดแคนกรอบอัตรากำลังว่าเยอะครับ..ประชาชนใด้รับประโยชน์โดยตรงเวลาป่วยจะได้รับการตรวจรักษากับแพทย์ที่ดีขึ้น จะเอาคุณภาพดีอย่างไรถ้าแพทย์ 1 คนต้องตรวจคนไข้วันละเกิน 100 คนครับ เราต้องมองในแง่ดีครับ ผมเห็นใจสาขาอื่นเช่นพยาบาลก็น่าจะรอสักพักให้หมอเค้าได้ก่อนแล้วเราค่อยว่ากันทีหลัง แก้ปัญหาเฉพาะจุดก่อนครับ ถ้าต้องปรับทันทีทุกคนผมว่าอาจไม่ได้เลยก็ใด้นะครับ..เป็นห่วงและรักวิชาชีพนี้ทุกคน คอยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ผมก็อยู่ทางนี้ลำบากมากแล้วอย่าให้ต้องทุกข์ใจที่ท่านๆกำลังแตกแยกอีกเลย......
หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม
ผู้แสดงความคิดเห็น หมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม (watcharapat_w-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-09 15:52:56


ความคิดเห็นที่ 37 (1402319)

เป็นพยาบาลอยู่สอ.

ใจจริงอยากให้เจ้าหน้าที่ สาสุขที่อยู่ด้วยกันได้ด้วย

ได้น้อยก่วาก็ไม่เป็นไร เพราะหน้าที่ความยากง่าย ความขาดแคลนมันแตกต่างกัน

แต่ขออย่างเดียวอย่าให้มันต่างกันจนเกินไปนะครับแพทย์

ผู้แสดงความคิดเห็น จนท.สอ วันที่ตอบ 2009-01-09 17:51:37


ความคิดเห็นที่ 38 (1402354)

สรุปแล้วคุณเถียงกันเรื่องเงิน  ความมักมาก  ค่าตอบแทนที่ต่างกันมาก   ก่อให้เกิดความแตกแยก 

ผู้แสดงความคิดเห็น ชาวบ้าน วันที่ตอบ 2009-01-09 19:17:59


ความคิดเห็นที่ 39 (1402362)

คุณพ่อคะ    เห็นไหมว่า ลูกๆของท่านกำลังเถียงกัน เพราะว่าค่าขนม ได้ไม่เท่ากัน  ก็คงจะไม่เท่ากันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะพี่ๆ(หมอ)เค้าต้องรับผิดชอบน้องๆ(พยาบาลและคนไข้)  ต้องทำได้หมดทุกอย่างเหมือนเป็นพี่ใหญ่ คอยดูแลน้องๆและคนในครอบครัว     แต่น้องๆอย่างเรา ก็อยากได้แบบใกล้เคียงกันบ้าง  ลดหลั่นตามภาระงาน ให้เหมาะสม  เพราะน้องๆ(พยาบาล)ก็โตเป็นสาวกันหมดแล้ว  ค่าใช้จ่ายก็สูงตามตัวค่ะ  เป็นธรรมดาเวลาเกิดความไม่พอใจอะไรๆๆๆ  น้องน้อยก็ย่อมจะงอนและอาจพูดจาที่ไม่ดีออกไปบ้าง  แต่สุดท้ายพี่และน้องก็ต้องอยู่ร่วมชีวิตในครอบครัวเดียวกัน เพื่อดูแลคนไข้ของเราต่อไป 

ขอโทษด้วยน่ะค่ะที่เพื่อนร่วมอาชีพของเรา  ต่อว่าท่าน..

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น อยากให้พี่ใหญ่เข้าใจ วันที่ตอบ 2009-01-09 19:51:42


ความคิดเห็นที่ 40 (1402402)

ขอบคุณ  คุณหมอใต้ผู้ร่วมชะตากรรม (ความเห็นที่ 36)      รับรู้ค่ะว่าหมอพูดออกมาจากจิตใจที่ดีงามของหมอเอง     คุณหมอคือผู้ที่สมควรได้รับการยกย่อง     พยาบาลที่อยู่ที่ทำงานเดียวกับหมอคงรักและดูแลหมออย่างดีที่สุด

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นและมาพูดคุยกันอย่างกัลยาณมิตร     ขอให้กำลังใจหมอนะคะ     พวกเราพร้อมจะเหนื่อยยากด้วยกันและให้กำลังใจกันและกัน

ช่วงนี้คงไม่ใช่การแตกแยก    เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น    เพียงแต่บางกระทู้   บางความคิดเห็น    อาจมาจากระยะเวลาการบ่มเพาะทางด้านให้บริการด้านสาธารณสุขของผู้นั้นยังไม่มากพอ     พวกเราก็ได้แต่เสียใจด้วยกันแบบนี้

อย่างไรก็ตาม    ทุกอย่างคงจะดีขึ้นในเร็วๆนี้    ก็ได้แต่หวัง

ผู้แสดงความคิดเห็น รักหมอใต้นะ วันที่ตอบ 2009-01-09 21:03:31


ความคิดเห็นที่ 41 (1402536)

เรียนแพทย์ทุกท่าน

ที่ยกตัวอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเอาเงินของท่านมาให้พยาบาลเลยนะ แค่เป็นตัวอย่างที่ดี (วิชาชีพขาดแคลนที่สมควรได้รับเงินค่าตอบแทนเท่านั้น) ทุกคนทำงานก็เหนื่อยเหมือนกันทั้งหมอและพยาบาล แพทย์ส่วนใหญ่ทำงานก็เหนื่อย พยาบาลก็เหนื่อย พวกเราเป็นผู้ร่วมงานกันไม่ใช่เจ้านายหรือลูกน้อง ทำงานกันเป็นสหวิชาชีพ ซึ่งต้องดำเนินงานกันไปในทิศทางเดียวกันคือดูแลผู้ป่วยทั้งองค์รวม ซึ่ง บางอย่างก็ดี บางอย่างก็ไม่ดี ทั้งแพทย์และพยาบาลฏ้ร้อยพ่อพันแม่ ความคิดก็แตกต่างกันไปแล้วแต่การอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ ฉะนั้นนิสัยของแต่ละท่านก็แตกต่างกันไป จะบังคับให้ทุกคนเป็นอย่างที่เราคิดก็ไม่ได้ ฉนั้นทั้งหมอและพยาบาลก็ต้องยอมรับในความแตกต่างของกัน ทั้งสองวิชาชีพนี้ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปนกันไป

ส่วนเรื่องราวดีๆก็ควรชื่นชมกันไม่ใช่อิจฉากัน เรื่องไม่ดีก็เปลี่ยนให้เป็นวัฒนธรรมที่เราควรจะยอมรับและแก้ไขในส่วนนั้น

เรียนแพทย์ที่เคารพทุกท่าน พยาบาลก็คือคน มีความรู้สึก และการที่คุณโยนแฟ้มใส่พวกเรา เวลายกมือไหว้ด้วยความเคารพ(ว่าคุณคือแพทย์เป็นเทวดาของผู้ป่วย)กรุณาชายตามองสักนิดไม่ใช่เราไหว้ท่อนไม้ และเมื่อพยาบาลสงสัยในสิ่งที่คุณorder กรุณาชี้แจงด้วยกิริยาที่สุภาพ เพราะว่านั่นคือการที่คุณorder ไม่รู้เรื่องเอง

ถึงพวกเรา พยาบาลที่น่ารักทุกคน  อย่ารังแกกันเลย เพราะจะทำให้เราอ่อ่นแอลง ถูกโจมตีได้ง่าย และพี่ๆที่ไม่ได้ขึ้นเวรกรุณาเข้าใจน้องๆว่าเหนื่อยแค่ไหน ไม่ใช่ใครด่าว่าอะไรก็คิดว่าน้องผิดไปซะหมด ไตร่สวนให้ดีเสียก่อนที่จะมาด่ากัน และช่วยคุ้มกะลาหัวน้อยๆด้วย  พี่ๆเองอย่าพยายามยัดเยียดงานที่เกินขอบเขตของพยาบาลมาอีกเลย 

 

หลายครั้มงที่นึกน้อยใจว่าเราตั้งใจจะดูแลผู้ป่วยขึ้นเวรแสนจะเหนื่อย ไม่มีเวลาที่จะดูแลพ่อแม่ ลูก ต้องมาขึ้นเวร อยากลาออกแต่ถ้าลาออกใครจะมาดูแลผู้ป่วยและญาติของผู้อื่น เลยต้องทนอยู่อย่างนี้    พี่ๆเข้าใจน้องบ้าง อย่าทับถมกันอีกเลย

บางอย่างพูดนอกเหนือคำสั่งกลายเป็นคนหัวแข็งและโดนแบนในเวลาต่อมา

แล้วพี่ๆพยาบาลล่ะ เข้าใจบ้างไหมว่าท้อแท้กับสิ่งที่เป็นอยู่

ผู้แสดงความคิดเห็น น้อยใจพี่ๆ ที่ไม่เข้าใจ วันที่ตอบ 2009-01-10 11:58:34


ความคิดเห็นที่ 42 (1402548)

เป็นพยาบาลมานานเหมือนกัน ประสบการณ์การทำงานที่จะอยากนำมาเล่าสู่กันฟังในบางมุม

 

หมอกับพยาบาลทำงานตามหน้าที่ของตนเอง เป็นอิสระต่อกันและกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีอยู่จริงๆในโรงเรียนแพทย์ที่กรุงเทพฯนอกนั้นเหมือนกันหมด(โดยส่วนใหญ่ที่พบเจอด้วยตนเอง)

 

พยาบาลยกเว้นในรร.แพทย์ที่กล่าวมา ยกย่องเชิดชูแพทย์เหมือนเทวดา เช่นเดียวกับชาวบ้านทั่วไปและยังฝันให้ลูกของตัวเองเรียนหมอ

 

พยาบาลส่วนใหญ่ช่วยเหลือแพทย์ในการทำงานจนแพทย์คิดว่านี่คือสิ่งที่พยาบาลต้องทำ

 

พยาบาลเป็นขรก.กลุ่มที่มากที่สุดในประเทศไทย แต่มีอำนาจต่อรองน้อยกว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่มีเพียงหยิบมือ กรรมการบริหารรพ.ก็มีพยาบาลไม่ถึงครึ่ง ทั้งที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ เมื่อโหวตความเห็นที่พยาบาลต้องการให้ผ่าน มักตกม้าตายเป็นเรื่องที่ชาชิน

 

หมอยึดอำนาจบริหารทั้งหมดไว้ โดยไม่เคยได้ฝึกหรือลองให้พยาบาลได้มีโอกาสบริหารงานในระดับสูง หัวหน้าภาควิชาต่างๆในโรงเรียนแพทย์ล้วนแล้วแต่มีหมอเป็นหัวหน้า เช่น แลป กายภาพ ก็ไปยึดมาไว้หมด

 

หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคมที่เป็นพยาบาลมีคนเดียวซึ่งเกษียณไปแล้วคือ ป้าพิกุล รพ.น่าน การแต่งตั้งหัวหน้าทำให้พยาบาลหมดโอกาส เพราะหมอไม่กล้าให้สมาชิกส่วนใหญ่ซึ่งเป็นพยาบาลโหวตคัดเลือกหัวหน้า หมอยังคิดว่าหัวหน้าต้องเป็นหมอเท่านั้นเป็นใครอื่นไม่ได้ จึงเห็นหมอเด็กๆเป็นหัวหน้าทั้งที่เพิ่งจบมาในกลุ่มงานต่างๆและที่หาดูได้ง่ายคือที่ รพช.เกลื่อนประเทศไทย นี่ถ้าสถานีอนามัยมีอะไรๆที่ดีๆในอนาคต หมอก็คงลงไปเป็นหัวหน้าอีก เพราะตอนนี้ศูนย์แพทย์ cmu หรืออะไรที่ตั้งชื่อกันขึ้นมาก็ส่งหมอไปเป็นหัวหน้า บางคนไปเดินดูเดือนละ 2-3 ครั้ง แต่เป็นหัวหน้า แปลกแต่จริง

 

ในกลุ่มงานต่างๆที่หมอเป็นหัวหน้าไม่เคยกระจายอำนาจลงไป เบ็ดเสร็จที่คนๆเดียว ทั้งที่แยกออกเป็นหลายๆแผนก เช่น opd มีทั้งอารุยกรรม ศัลยกรรม เด็ก ฯลฯ แต่อำนาจสั่งการยึดเอาไว้ที่คนๆเดียว ยังงี้ในระดับกระทรวงไม่ต้องพูดถึง

 

พยาบาลหัวเก่ามีมากกว่าพยาบาลหัวใหม่(หัวเก่าไม่ได้หมายถึงแก่)การต่อสู้เรียกร้องที่มีความเสี่ยงต่อวินัยขรก.จึงขับเคลื่อนได้ช้านับสิบๆปีกว่าจะได้มา แต่พอได้ก็ได้เฉพาะคนแก่ๆ เช่น ค่าวิชาชีพเริ่มต้นที่ ซี 7(เดิม)แต่วิชาชีพแพทย์ เภสัช เริ่มต้นค่าตอบแทนไม่เปิดร้านที่วันที่เริ่มทำงาน ต่างกันมั๊ยล่ะ

 

พยาบาลทำงานเกินหน้าที่ ขอคนเพิ่ม หัวหน้าใหญ่ซึ่งเป็นหมอก็บอกว่าการเงินเราจะแย่ แต่ไม่สนใจว่าพยาบาลจะแย่ หมอตรวจ opd นอกเวลาได้รายหัว พยาบาลได้ครึ่งเวรโอที ก็ยังสงสัยอยู่ว่าพยาบาลพี่น้องเราจะบ้าไปทำทำไม มาขึ้นโอทีที่ตึกอายุรกรรมไม่ดีกว่าเหรอ ให้เค๊าทำเหมือนที่คลินิกเองไปเลย

 

โครงการพิเศษค่าตอบแทนของหมอคือรายหัว คิดกันมาเบ็ดเสร็จโดยหมออีกนั่นแหละ วิชาชีพอื่นแย้งไม่ได้

 

เมื่อไหร่จะมีนักบริหารมาอยู่ในรพ.ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ แล้วหมอก็รับจ้างรักษาไป ไม่ต้องมาห่วงเรื่องหนังสือราชการอีก

 

ดังนั้นพยาบาลหัวใหม่จงสามัคคีกันไว้ ไม่ได้รุ่นนี้ รุ่นลูก รุ่นหลานเราก็ต้องได้ รอหัวเก่าเหี่ยวแห้งตายไปให้หมด คราวนี้จะทำอะไรก็คงไม่มีใครมาคอยเบรก บางทีเบรกจนรู้สึกว่าใครไม่เดือดร้อนก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของคนที่เดือดร้อนทนไม่ได้กับการจัดสรรแบ่งปันเงิน ถามจริงๆเหอะว่าเงินสวัสดิการ รพ.แต่ละแห่ง ส่วนใหญ่ใครเป็นคนใช้ ใครเป็นคนตัดสินใจในการใช้ ทั้งที่มันคือเงินของทุกคน สมาชิกในรพ.ยังไม่มีใครทราบเลยว่า มันมีอยู่จำนวนเท่าไหร่

ผู้แสดงความคิดเห็น แล้วแต่จะคิด วันที่ตอบ 2009-01-10 12:26:56


ความคิดเห็นที่ 43 (1402556)

หมอมันจะสนใจอะไร ตราบใดที่ผู้บริหารคือหมอ มันก็ต้องสร้างนโยบายเพื่อตัวมันเอง ยิ่งพวกแก่ ๆ ในกระทรวง ยิ่งแก่ยิ่งเงินมากขึ้นทุกวัน ก็ลิดรอนเอาผลประโยชน์ของพวกเล็ก ๆ นี่แหละไปเสริมให้เงินมันเยอะขึ้น ทำงานมาหลายปี ไต่เต้าตั้งแต่พยาบาลเทคนิค จนตอนนี้พยาบาลวิชาชีพ จบโท เห็นมาหลายอย่างกับปัญหาทีเกิดขึ้นและกำลังประสบอยู่ทั้งหมอทั้งพยาบาล ทุกวันนี้ก็ภูมิใจในวิชาชีพพยาบาล ไม่เรียกร้องอะไรแต่อย่ามาเอาเปรียบกันมากเกินก็พอ เพื่อนร่วมวิชาชีพลาออกกันหมด ที่เหลือ ๆ อยู่ก็รับเวรส่งกรรมไปกับภาระงานที่หนักขึ้นทุกวัน บางครั้งก็คิดว่า เงินมาน้อยก็ทำเท่าราคาเงินนี่แหละ แต่อยู่กับคนไข้ตลอด คงรู้ว่าทั้งคิดทั้งพูดแต่จริง ๆ ทำไม่ได้หรอก ท่านผู้บริหารเอ๋ยเหนื่อยมาด้วยกัน อย่าให้มันเกิดความแตกต่างจนน่าเกียจนัก เค้าก็เหนื่อยไม่ต่างกันหรอก

 ปล ที่ออกมาเรียกร้องครั้งนี้ ผู้บริหารที่เป็นหมอทั้งหลายจงฟัง มันไม่ใช่แค่ค่าตอบแทนที่มากขึ้นหรอก แต่มันคือ ศักดิ์ศรีในวิชาชีพ ความยุติธรรม ความไม่เอาเปรียบกันระหว่างวิชาชีพกันมากกว่า ถ้ามัวแต่ด่ากันในนามของบุคคล มันก็ไม่จบหรอก ทำไมไม่มองภาพรวมล่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น บุรุษพยาบาล วันที่ตอบ 2009-01-10 12:47:54


ความคิดเห็นที่ 44 (1402679)

คุณหมอสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สู้ๆ วันที่ตอบ 2009-01-10 23:12:54


ความคิดเห็นที่ 45 (1402699)
สิ่งที่เราใฝ่ฝันคือมีผู้บริหารหรือผอ.ที่เข้าใจและบริหารเป็น ไม่ใช่หมอจบมาใหม่ก็ให้เป็นผอ.บางอย่างแค่บริหารตัวเองยังทำไม่ได้เลย มาเป็นผอ.ซะแล้ว อยากให้ทำหน้าที่รักษาอย่างเดียวก็น่าจะพอแล้ว สำหรับเราที่เป็นพยาบาลคือเพื่อนร่วมงานกันก็แค่นั้น ต่างคนต่างทำงานของตัวเองให้ดีที่สุดก็น่าจะเพียงพอ อย่ากระแหนะกระแหนหรือด่ากันไปมา ใครๆก็รักวิชาชีพของตัวเอง อย่าใช้แต่อรามณืนะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลที่รักวิชาชีพตัวเองมาก (kavisa_19-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-11 03:31:37


ความคิดเห็นที่ 46 (1402700)
 ( เขียนอารมณ์ผิดขอแก้ไขค่ะ)สิ่งที่เราใฝ่ฝันคือมีผู้บริหารหรือผอ.ที่เข้าใจและบริหารเป็น ไม่ใช่หมอจบมาใหม่ก็ให้เป็นผอ.บางอย่างแค่บริหารตัวเองยังทำไม่ได้เลย มาเป็นผอ.ซะแล้ว อยากให้ทำหน้าที่รักษาอย่างเดียวก็น่าจะพอแล้ว สำหรับเราที่เป็นพยาบาลคือเพื่อนร่วมงานกันก็แค่นั้น ต่างคนต่างทำงานของตัวเองให้ดีที่สุดก็น่าจะเพียงพอ อย่ากระแหนะกระแหนหรือด่ากันไปมา ใครๆก็รักวิชาชีพของตัวเอง อย่าใช้แต่อารมณ์นะคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลที่รักวิชาชีพตัวเองมาก (kavisa_19-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-01-11 03:32:53


ความคิดเห็นที่ 47 (1402716)

คุณพยาบาลค่ะ  เข้าใจอยู่นะว่ารับไม่ได้ที่มีหมอเด็กมาเป็น ผอ แต่ว่าก้อคงจะพิลึกถ้าจะให้คนอื่นมาเป็น ผอ เพราะว่ามันคือ รพ รึจะให้หัวหน้าบริหารมาเป็นแทนหล่ะ  ก้อมันอยู่ในสายนี้นี่นา  ต้องยอมรับว่าเค้ามีกึ๊นดีกว่านะ  เค้าฉลาด(บางคน)...อาจเพราะที่ รพ เรามี ผอ ที่สุดยอดจิงๆ  เก่งมาก ไม่ได้ยอ ผอ นะ แต่เก่งจิงแล้วเราก้อไม่ใช่หมอด้วย 

 

ในความเป็นจิงถ้าหมอไม่มีอีโก้เลย  หมายถึงความมั่นใจอ่ะนะมันก้อคงไม่ใช่หมอแล้วหล่ะ  เพราะเค้าต้องตัดสินใจกับความเป็นความตายของคน  อยู่บ่อยครั้ง  เค้าก้อเลยอาจจะออกมาเป็นแบบนี้   แต่ความจิงก้อคือเค้าไม่ควรที่จะละเลยและมองข้ามความสำคัญของวิชาชีพอื่น  เพราะมันต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม  ขาดใครไปสักคนก้อคงแย่  แน่ละขาดพยาบาลหมอคงทำเองคนเดียวหมดไม่ไหว  แต่ถ้าขาดหมอก้อยิ่งยุ่งเข้าไปอีก  รึจะไม่ต้องมีเภสัชกรเลยแล้วให้พยาบาลไปทำงานเกี่ยวกับเรื่องยาแทนเลย  ก้อคงไม่ได้   สรุปแล้วเราเป็นแขนขาของกันและกัน  ถ้าคิดจะตัดแขน  ตัดขา  ตัดหัวตัวเองทิ้ง  ก้อคงโง่ละ

 

คุณหมอก้อควรดูแลรักษาประโยชน์ของคนอื่นๆด้วย  และควรชี้แจงให้ชัดเจนมีเหตุผลว่าทำไม  ผลพิจารณาถึงเป็นเช่นนี้แล

ผู้แสดงความคิดเห็น รพช วันที่ตอบ 2009-01-11 09:34:05


ความคิดเห็นที่ 48 (1402730)
เราไม่ใช่หมอ ไม่ใช่พยาบาบาล ไมใช่เภสัช ฯลฯ แต่มองอย่างคนกลางเลยนะ

ดูคำพูด ความคิด คำกระแนะกระแหนของคุณพยาบาลแล้ว ก็ไม่อยากจะว่าเพราะเรียนน้อยกว่าหมอหรอก ความคิดมันเลยออกมาแบบนี้ แต่เท่าที่อ่านๆ มามันก็ชวนให้คิดแบบนั้นจริงๆ อ่ะแหละ ไม่ก็เพราะยังอาวุโสน้อย ความคิดยังเด็กอยู่ หมายถึงส่วนหนึ่งนะ ไม่ใช่ทุกคน

คุณหมอก็นะ ตอบโต้แรงไปหน่อย บางครั้งเราก็อึ้ง เฮ้ย นี่ความคิดหมอเหรอว้า จบหมอมาได้ไง

ก็เข้าใจนะว่า เรียกร้องผลประโยชน์ให้ตัวเอง แต่การยกนั่นยกนี่มาอ้างก็ดูมั่วซั่วไปหมด เหมือนจะรู้จริง พอโดนแย้งว่าไม่ถูก ก็หาเรื่องอื่นมาแดกดันอีกจนได้ อารมณ์เสียก็ฟาดงวงฟาดงาไปทั่ว อยากเห็นไปเก่งแบบนี้ที่ รพ. มั่งจัง เนอะๆ

ไม่ใช่คนสา" สุข แต่อยากยุ่ง มีไรป่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ไล่ก็ไม่ไปหรอก เชอะ! วันที่ตอบ 2009-01-11 10:53:21


ความคิดเห็นที่ 49 (1402783)

ขอแชร์หน่อย ดิฉันว่าไม่เห็นต้องมานั่งว่ากันให้เปลืองน้ำลาย ท่รพ. ดิฉันไม่เห็นมีพยาบาลว่าหมอเลยทุกคนก็รักกันเหมือนเดิม แต่ที่ดิฉันไปร่วมเรียกร้องความเป็นธรรม เพราะท่านที่มีอำนาจสั่งการท่านลืมว่าพยาบาลก็ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กัน หมอเหนื่อยเราก็เหนื่อย ท่านทำงานได้ทีละ 2 มือที่เหลือพยาบาลก็ทำหมดละค่าท่าน

ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลตัวน้อยๆที่ถูกลืม วันที่ตอบ 2009-01-11 15:23:17


ความคิดเห็นที่ 50 (1403293)
ไม่ได้ว่าให้ใครนะคะ ทุกคนต่างทำงานในหน้าที่ แต่มีเกินหน้าทีเยอะไปหน่อย เงินไม่ได้มีค่าสำหรับดิยั้น แต่ต้องดำรงชีวิตอยู่ ศักดิ์ศรีความเป็นคนสิคะสำคัญยิ่งกว่า  คห.ที่ 35 อ่านแล้วโอเค ค่ะ แต่ ที่บอกว่า รึต้องเรียน หกปีถึงจะเข้าใจ เนี่ย แสดงว่าหกปี คิดได้แค่นี้หรอคะ   หยุดซะทีเถอะคะ เบื่อมากๆ  ส่วนตัวดิฉัน ใครจะได้อะไร ยังไงเท่าไหร่ ไม่ใช่ประเด็น วันที่ 9 ที่ไปก็เพื่อศักดิ์ศรีพยาบาลเท่านั้นค่ะ อยากรู้ว่าความเป็นธรรมของค่าความเป็นมนุษย์อยู่ที่ใด  จิงอยูว่าค่าเงินที่ให้เพื่อป้องกันสมองไหล ไปสู่เอกชน ทำไมไม่มีนคิดกันว่าทำยังไงไม่ให้หลุดไปเอกชน เพราะทุกวันนี้แพทย์ลาออก ไปเอกชน เพราะอะไรคะ ความก้าวหน้า หรือค่าของเงิน ทีนี้เปรียบเทียบกับแพทย์ที่เมืองนอกที่จริญแล้ว วิ่งหางานเตะฝุ่นตกงานกัน แพทย์ไทยไม่อยากอยูในระบบของกระทรวงสาธารณสุข ก้อให้สมัครใจตั้งแต่แรก ผลิตแพทย์หนึ่งตำบลให้ระบบเลยคะ เมืองไทยคงเกลือ่น คนรวยรักความก้าวหน้าก้อลาออก แล้วแพทยสภากลัวอะไรกับการผลิตแพทย์มาป้อนระบบทีละมากๆ อย่ามาบอกแค่ว่าไอคิวไม่พอ งี้ดูถูกคนชัดๆ เคยได้ยินได้ฟังมาแล้วค่ะ คิดได้ไง มิน่าไม่เจริญซะที บ่นๆ ไปงั้นค่ะเบื่อแล้ว ระบบสาสุขไทย
ผู้แสดงความคิดเห็น พยาบาลพลัดถิ่นในต่างประเทศ วันที่ตอบ 2009-01-13 13:08:27



[1] 2 ถัดไป >>


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.