เห็นใจทุกวิชาชีพ      เพราะสำคัญเหมือนกัน   

ทำไมต้องวัดค่าด้วยเงินก็ไม่รู้นะ     จริงไหม      ใครกันนะอยากรู้จัง     ที่นำระบบทุนนิยมเข้ามาแทรกซึมในสายเลือดของคนไทยและคนในกระทรวงสาธารณสุขของเรา     

ขอพูดอีกครั้งว่าแต่ก่อนคนในกระทรวงเราสามัคคีกันมากนะ    แล้วอะไรมันเข้ามาเปลี่ยนความรู้สึกเราได้นะ     น่าเสียใจจริงๆ 

   เราเกลียดคนที่นำเอาระบบนี้เข้ามาวัดคุณค่าคนไทยที่เคยอยู่อย่างสงบสุขมาตลอด       เกลียดมาก      เฮ้อ...จะหายเกลียดได้อย่างไรเนี่ย

ไม่จริง เราเป็นเภสัชรัฐบาล ต่อเดือนได้แค่ 18,000  บาท เพื่อนเราทำงานบริษัทยาได้เดือนละ 90,000 บาทแล้วการที่เภสัชรพ.รัฐบาลได้เงินมากเอกชนมันมีข้อเสียอะไรไม่ดีตรงไหน ดีซะอีกเภสัชเก่ง ๆจะได้อยากอยู่รพ.รัฐ ระบบยาประเทศไทยจะได้พัฒนาขึ้น

คุณความเห็นที่หนึ่งคุณรู้ไม๊ว่าพตส.มันไม่ได้ 3000  บาทเท่ากันทุกคนถ้าไม่ได้รับผิดชอบคลินิก AIDs หรือ TB(จะทำเรื่องเบิกก็ยาก) ก็ได้แค่ 1500  บาท  และโรงพยาบาลแต่ละระดับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายก็ไม่ได้เท่ากันอยู่แล้วตามระดับความกันดาร ฉันอยู่เอกชนมาก่อนทำไมจะไม่รู้เภสัชเอกชนได้เท่าไหร่ได้มากกว่ามากกว่า  25000  บาทแน่นอน บางคนระดับอายุงานนานๆก็ได้เป็นแสนเหมือนกัน ช่วยเข้าใจกันด้วยคุณได้ในสิ่งที่ต้องการคนอื่นไม่ว่าอะไรหรอกแต่ขอแค่วิชาชีพอื่นช่วยทำให้เสมอภาคด้วยเรียนมาก็ 5-6 ปีเหมือนกันทำงานเหนื่อยเหมือยกันคุณตรวจเท่าไหร่เราก็จ่ายเท่านั่นแถมยังต้องมารับผิดชอบงานต่างๆนาๆที่นอกเหนือจากการจ่ายยาอีกมากมายซึ่งคุณอาจจะไม่เข้าใจในเนื้องานของพวกเรา  โปรดเห็นใจกันด้วยเพราะทุกวิชาชีพก็สำคัญเหมือนกัน

ผอ.โรงพยาบาลของเรายังเข้าใจพวกเราเลยคุณต้องลองเปิดใจให้กว้างกว่านี้

ลูกป้าเป็นแพทย์และเป็นเภสัชฯ ป้าไม่อยากได้อะไรหรอก ขอให้รักกันมาก ๆๆ รำคาญกับเสื้อเหลือง+เสื้อแดงก็มากแล้ว เฮ้อเหนื่อย โตๆๆ กันแล้ว หยุดทะเลาะกันได้แล้ว ด่ากันไปก็ไม่มีประโยชน์

ทีมสหสาขาวิชาชีพประกอบด้วยหลายสาขา ตามแต่ ที่เรียนมา แต่มุ่งปะโยชน์สูงสุด คือ การดูแลผู้ป่วยเราควรมองว่า คน ข้าราชการ แพทย์ เภสัช ทันตแพทย์ พยาบาล อื่นๆๆ เค้าทำงาน แบบอัตคัตทรัพยากรมากกว่าเรา แต่เค้าได้ค่าตอบแทนน้อยกว่าเรา เพระเอะไรหรือ อุดมการณ์ อาจจะบอกว่ากินไม่ได้ แต่ไม่อยากให้เอาเงิน นำหน้า ว่า ตอบแทนสังคม เราควรมองว่าเราตอบแทนสังคมมากพอที่สังคมให้ค่าตอบแทนเราหรือยัง ปล. สำหรับ ความเห้นที่ว่รัฐบาลจัดสรร นั้น ขอแย้งตรับ ข้อเสนอนนั้น เสนอโดย ชมรมแพทย์ชนบท ฝ่ายเดียว....โดยการนำเสนอข้อมูลเบื้องต้น มีการเปรียบเทียบข้อมุลพยาบาลด้วย แต่ข้อมูลไม่อัพเดท สิ้นสุด ปี 2542 นี่ 2551  ตราต่างๆเปลี่ยนไปหมดแล้ว ที่เห้นไม่ได้คัดค้านย หรือ ไม่เห็นความสำคัญของวิชาชีพใด ทุกวิชาชีพสำคัญ ตามบทบาทและหน้าที่ของตัวเอง แต่ บังเอิญ ประเทศไทย เราทำงาน ข้ามกันมานาน จนลืมนึกถึงความปลอดภัย ของผู้ผ่วย จากความเสี่ยงของตนเงอที่ไปทำงาน ที่ไม่ชำนา*ของแต่ละวิชชีพเอง บ้านผม มีทั้ง แพทย์ พยาบาล เภสัช คุยกันเรื่อยๆ เลยเข้าใจกันว่า งาน และคุณค่างานที่แท้จริงของแต่ละวิชาชีพ คืออะไร ปล. เลิกโจมตีนไปมา สามคัคีกันเถิด ภาพกระทรวงสาธารณสุข ควรเดินหน้าเป้นกลุ่มเดียวกันได้แล้ว ไม่ต้องแยก ว่า เรา เธอ เค้า ท้ายที่สุดทุกคนต้องทำงานที่เดียวกัน ดูคนไข้คนเดียวกัน .... กินข้าวด้วยกัน เป้นเพ่อนกัน อีกตะห่าง บางคน เป็นสามีภรรยา กันด้วย อิอิอิอิ....สามัคคีกันไว้เถิดจะเกิดผลในระยะยาว .... ปล. ชมรมแพทยืเค้าคิดได้ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดในสถานกรณ์นั้นๆแล้ว ซีง ไม่มีกฏหมานยใดๆๆในโลกบัญญัติไว้ ว่า ไม่ให้ทบทวน เพือ่ความเหมาะสมนะครับผม

ประกาศๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ผู้ประกอบอาชีพข้าราชการทุกท่าน

ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ต่างๆใน กพ. เป็นที่ต้องการในตลาดของกลุ่มข้าราชการหรือไม่    ถ้าไม่เป็นที่ต้องการเลย    พวกเรากรุณาแยกตัวออกมาจาก  กพ.โดยด่วน  (ดีไหม....ฮา)   ทุกคนถูกคิดและตีราคาแบบสินค้าเลย     ฮ่วยยยยย.....คนเด้อ...คนเด้อ....

เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 11  ที่บอกว่า   ไม่มีกฏหมายใดๆในโลกที่บัญญัติไว้ว่าไม่ให้ทบทวนเพื่อความเหมาะสม      (อย่าเลยตามเลย     มันสมองยังใช้การได้ดีอยู่นะ )   และเห็นด้วยที่สุดกับคุณความเห็นที่ 4,5 และ7  ปรบมือให้เลย

เห็นด้วยที่สุดกับความเห็นที่ 14    ให้ทำได้จริงเถอะน่า    แจ่มเลย

ผมงงกับความเห็นของคุณผอ ในความเห็นที่หนึ่งครับ

ใอ้เงินค่าเบี้ยเลี้ยงเหมา คุณเอามาจากใหนครับได้1,900 บาทครับ  ไม่ทราบว่ามีการเพิ่มให้เป็น 13,000 บาทแล้วตอนไหนครับ  กรุณายืนยันข้อมูลว่าจริงหรือเปล่า  จะได้ขอเพิ่มบ้าง 

ถ้าไม่พอใจก็เชิญลาออกครับ     ไม่อยากเชื่อว่านี่คือความเห็นของเพื่อนร่วมงานของวิชาชีพที่ทำงานรับใช้สังคมมาด้วยกัน      

ที่โรงพยาบาลที่เราอยู่    ทุกคนทำงานด้วยกันอย่างมีความสุข    สนุกกับงานมากทีเดียว      ยิ่งทำงานคุณภาพด้วยกันยิ่งรู้ว่าขาดวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่งไม่ได้      ทุกวิชาชีพสำคัญเหมือนกัน      

แพทย์+ เภสัชกร +พยาบาล  คือคู่หูในการทำงานทีดีและลงตัวที่สุด     เป็นทีมทำงานที่ขาดกันไม่ได้เลยจริงๆ

จริงด้วย    คำว่า "สหวิชาชีพ"  เป็นตัวเชื่อมที่ดีระหว่างวิชาชีพ     เหมือนเราไม่ได้ทำงานอยู่คนเดียว     เรามีทีมมีเพื่อนร่วมสายอาชีพที่ล้วนแต่สำคัญเช่นกัน    พี่ที่ออกหนังสือราชการเขาทำหน้าที่ตัวแทนวิชาชีพที่ดีที่สุดแล้ว     

มันเป็นดีมานซัพพลาย  เภสัชผลิตปีละเป็นหมื่นคน  หางานทำให้ได้เดือนละหมื่นก็พอแล้ว  คนไม่ทำลาออกไปก็มีคนอื่นมาทำงานแทนคุณได้ทันที  คิดทีจุดนี้บ้าง อย่าทนงตัวเองมากนัก

เภสัชผลิตปีละหมื่นคนไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องครับคุณ pk ช่วยยืนยัน Reference ด้วยนะครับ คนเราต้องมองที่คุณธรรมและความมีประโยชน์ต่อสังคมมากกว่ามองที่ Demandและ Supply แต่เพียงส่วนเดียวครับ

ข้อมูลใหม่มากนะคะปีละหมื่น เอามาจากไหนคะ ขอแหล่งที่มาหน่อยค่ะ

เขาเชิญอยู่ค่ะ เชิญวันที่ 9 มกราคม 52 นี้แหละค่ะ เจอกันที่หน้าอำเภอ อุ๊ยขอโทษทีหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงค่ะ เจอกันอย่าให้ใครมาย่ำยีศักดิ์ศรีพวกเรา ทีมสหวิชาชีพ

ม่ายเชิญเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่สถานีอนามัยบ้างล่ะครับ ผมก็เป็นทีมสหวิชาชีพ ทำหน้าตั้งแต่ผู้อำนวยการ  หมอ พยาบาล  คนสวน ภารโรง  ในคนเดียวกันเลยครับ 

อาชีพอื่นในกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่เห็นได้เลย  เหลื่อมล้ำกันมากงั้นทำงานกันเถอะพวกได้เงินเยอะๆ

ถ้าจะยุยงกันเองให้ฮึกเหิม ก็ไม่ว่าอะไรนะ แต่อย่าดึงเอาวิชาชีพอื่นไปพ่วงท้ายด้วย มันแสดงถึงความอันธพาลในตนเอง อย่างนี้ไงล่ะ ถึงไม่มีใครคิดช่วยเหลือ ก็เล่นชักศึกรอบด้าน พาลพะโลโกเก

คห.21  เภสัชผลิตปีละเป็นหมื่นจริงหรือจ๊ะ  ที่ผลิตปีละเป็นหมื่นๆไม่ใช่เภสัชกรแน่นอน ส่วนจะเป็นอาชีพไหนนั้นไม่ทราบนะจ๊ะ(ฮา)

ทำไมเภสัช พยาบาล เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด         และสาธารณสุขไม่ร่วมมือกัน เรียกร้องความเป็นธรรมจากแพทย์ และทันตะแพทย์ละ  คนทำงานเหมือนกัน เหนื่อยเหมือนกัน ไม่ใช่คนกับควาย ที่ทำนาด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่มีแต่คนที่ได้กินข้าวหอมมะลิอยู่ฝ่ายเดียว

ดูทันตแพทย์ซิครับหนักกว่าแพทย์อีกนัดคนไข้ทำฟันวันนั้นวันนี้ แต่คนที่ทำงานหนักทั่งวันคือทันตาภิบาล แต่จะมาได้เงินเหมาจ่ายต่อเดือนจาก 2200 เป็น 40,000บาทต่อเดือน ยังเป็น........อยู่หรือเปล่า เห็นใจกันบ้างไหม

ใช่แล้ว    ทันตแพทย์ไม่เหมาะสมกับการได้เงินเหมาจ่ายมากขนาดนั้นเลยจริงๆ      ยิ่งถ้าอยู่โรงพยาบาลใกล้ๆเมืองจะให้อยู่จนเกษียณก็ยังไม่เกี่ยงเลย      ยิ่งไม่สมควรได้มากขนาดนั้น     ไม่สมควรจริงๆ   ไปทบทวนดูใหม่ได้นะท่าน      และทันตแพทย์ที่ได้ควรมีจิตใจที่นึกถึงเพื่อนร่วมงานในหน่วยงานเดียวกันด้วย      ขอให้มีความยุติธรรมๆ

ขอบคุณคุณ Narnia มากๆที่เข้าใจในเรื่องเรียกร้องค่าตอบแทนของพยาบาล     

ไม่จริงเลย  ที่จริงทันตแพทย์ต้องได้เยอะสุดเพราะขาดแคลนกว่าแพทย์อีก  โรงบาลเรามีคนเดียวทุกที  บางปีก็ไม่มี  มีแต่ทันตาภิบาลทำงาน  ทันตแพทย์ขาดแคลนมากกว่าแพทย์  ฟันธง  ....  แต่ทำไมแพทย์ใหญ่ตีความว่าขาดแคลนเท่ากับท่านเอ้ยแพทย์หล่ะ  โปรดทบทวน

เลือดสาธารณสุขอย่าให้จืดจาง

เภสัชกรคงผลิตไม่เกิน 2 พันคนต่อปีอ่ะนะไม่เยอะหรอกออกจะขาดแคลนด้วยซ้ำ  เพราะจริงๆแล้วเรามีหน้าที่มากกว่าการจ่ายยาอย่างเดียว ถ้าจะทำให้เต็มที่  บทบาทหน้าที่ของเภสัชก้อต้องใช้เวลาในการทำ counseling คนไข้ที่ใช้ยาเฉพาะยาพิเศษค่อนข้างนาน  บางอย่างมันยากที่จะเข้าใจได้  ส่วนที่บอกว่าค่าตอบแทนของเภสัชกร ภาคเอกชนไม่ต่างจากรัฐนี่มันเป็นไปไม่ได้เลย  เพราะเงินเดือน details ยามันมากโขเลยแหละ ประมาณ8หมื่น-1 แสนบาทเลยนะ

ก้อแค่อยากให้เข้าใจ

เวลาจะโพสว่าอะไรกันก้ออย่าลืมนึกถึงตอนทำงานคุณภาพHA บ้างนะ  อย่าลืมว่าไม่ว่าใครก้อไม่สามารถทำได้คนเดียวนะ  สนับสนุนให้รักกันและร่วมกันประท้วงเพื่อความยุติธรรม  แต่อย่าตีกันมาก  ร่วมมือกันเรียกร้องดีกว่ามาเอามาเปรียบเทียบกันว่าใครได้มากกว่าใคร  จิงๆแล้วแพทย์ได้เยอะมากๆเกินไปมันก้อน่าเกลียดอยู่หรอก  แต่ก้อต้องรับว่ามันไม่เท่ากันอยู่แล้ว  เพราะเรียนมาจำนวนปีที่เรียนมันไม่เท่ากันอยู่แล้ว 

คนโพสเนี่ยะกวนทีนนนนนะ

ทำไมต้องจบว่าไม่พอใจก้อลาออก

แค่นำเสนอข้อมูลให้ทราบก้อน่าจะโอแล้ว

ถ้าแพทย์บอกว่าพยาบาลไม่พอใจกับค่าตอบแทนที่ได้ก้อให้ลาออกไปซะ  เป็นคุณๆจะรู้สึกยังไง

ทำไมเอาเภสัชรพ.ไปเทียบดีเทลครับ ทำไมไม่เทียบเภสัชรพ.เอกชนล่ะ???

ทำมัยต้องตั้งกระทู้....ไม่สิ  ข้อความท้ายสุด 

ที่มันทำให้คนอ่านรู้สึกไม่โอเค

นี่ขนาดคนนอกมาอ่านนะเนี่ย

ยังรู้สึกว่า  พยาบาลไม่ชอบเภสัชเลยรึไง

แล้วทำไมไม่ชอบ

เพราะมียายป่วยเป็นโรคหอบ เภสัชก้อสอนพ่นยาได้ดี  อดทนมาก  ยายเข้าใจยาก  และ  พี่พยาบาลก้อสอนเราอีกเรื่องทั่วๆไป  ทำให้เราเข้าใจดีขึ้นอีก

สรุปแล้วเดินออกมาจาก รพ  ก้อยังรู้สึกดีๆอยู่เลยอ่ะ

น่าจะให้เกียรติเภสัชกรกันบ้างอ่ะนะ

การที่โลกเราจะมียาออกมารักษาตัวนึง  มันใช้เวลาเท่าไหร่ 

การผลิต วิจัยยา  ก้อต้องใช้อาชีพนี้  ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะไม่มีบทบาทตรงนี้ชัดเจน 

แต่ก้อถือว่ายังดีที่มีคนที่รู้เรื่องยาอยู่ใน รพ. รึไอ้ตรงนี้คิดว่าพยาบาลทำแทนเราได้ทุกเรื่อง   เราทำงานคนละหน้าที่ แล้วเอามาเปรียบเทียบกัน  มันถูกแล้วเหรอ  

ถ้าคิดว่าไม่โอเคแล้วจะมีเภสัชกรทำไม  ทำไมไม่มีแค่แพทย์  พยาบาล ก้อพอหล่ะ  ในอดีตทั้ง 2 อาชีพก้อรวมอยู่ในคนๆเดียวกันอยู่แล้วนิ   ไม่น่าสร้างประเด็นเปรียบเทียบกันเลย

กะว่าจะลาออกไปเปิดร้านขายยา  น่าจะดีกว่า

ให้คนที่เค้าเก่งๆ  ฉลาดๆ ทำแทนดีกว่า

ไปล่ะ

ผมเห็นด้วยครับ เพิ่มเงินเดือน เพิ่มขวัญกำลังใจ ทุกฝ่ายเลยครับ

ต้องขอบคุณพี่อาภรณ์มากๆคะที่ลุกขึ้นมาขอความยุติธรรมให้วิชาชีพเราเภสัชกรที่ดูเหมือนเป็นลูกเมียน้อย ทั้งๆที่เราก็ทำงานหนักไม่ได้แค่จ่ายยาอย่างเดียว มีงานอื่นๆอีกมากมาย ทั้งงาน คบส. งานบริหารเวชภัฯฑ์ งานให้คำปรึกษาด้านยา งานผลิตสมุนไพร ซึ่งโรงพยาบาลชุมชนมีเภสัชน้อยแต่ต้องทำให้ได้ ถ้าพี่อาภรณ์ ต้องการให้ช่วยเหลืออะไรบอกได้เลยคะ หนูช่วยเต็มที่ค่ะ และคิดว่าพี่ น้องเภสัชกรคนอื่นส่วนใหญ่รู้สึกไม่ต่างกันหรอกคะ