ถ้าเป็นไปได้ ควรนัดหยุดงานพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อแสดงความสำคัญของพยาบาล ปัจจุบันพยาบาลถูกเอาเปรียบจากแพทย์เป็นอย่างมาก

เห็นด้วยทั้งหมดเลย

เห็นด้วยอย่างยิ่ง  ความยุติธรรมอยู่ไหน

พยาบาลทำงานอยู่กับคนไข้ตลอด..ไม่ใช่แค่ตามแผนการรักษา..แต่ช่วยทุกอย่างทั้งกินอยู่ขับถ่าย..แต่ค่าตอบแทนน้อยมาก..แพทย์สบายเขียนorder ทิ้งแล้วก็ไป..บางทีไม่มาดูคนไข้ด้วยซ้ำ

สมควรที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่วิชาชีพเรา..ทุกวันนี้ทำงานหนัก..ค่ตอบแทนน้อยเมื่อเทียบกับวิชาชีพอื่นอย่าแพทย์เภสัช..ทั้งที่เราทำงานเหนื่อยมากกว่าหลายร้อยเท่า..ทำไมมีความเป็นธรรมแก่เรา

เห็นด้วยค่ะยิ่งแพทย์ รพ. รพช นะ สั่งorder by phone โดยไม่มาดูคนไข้เลย อยู่เวรนอกเวลาก็ไม่เคยมาอยู่stand by ที่ ER เลย แล้วยังได้ค่าตอบแทนพิเศษเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ยุติธรรมที่สุด น่าจะทำเรื่องมาเป็นการประขุมวิชาการหรือสัมมนาก่อนนะ สมาพันธ์ลูกจ้างที่เค้าไปประท้วงกันก็ทำแบบนี้จะได้ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเองมาก

เห็นด้วยอย่างยิ่งในความไม่เป็นธรรมครั้งนี้ พยาบาลทุกวันนี้ทำงานอย่างบ้าคลั่ง นอกเวลาไม่เคยขึ้นมาตรวจเองเลยทั้งที่ได้เงินค่าเวรตลอด พอเวลามีปัญหาก็ป้ายสีมาให้พยาบาลตลอดเพื่อให้ตนเองพ้นผิด รายงาน case ไม่เคยขึ้นมาดูบอกว่าให้ obs.ไปก่อน อาการหนักแล้วค่อยมา อยากถามว่าได้เงินกันเยอะเอาไปทำอะไรกันค่ะ ขับรถป้ายแดงราคาแพง แต่ทำงานไม่คุ้มค่าเงินที่ได้เลย อยากถามว่า แพทย์ทั้งหลายรู้สึกดีหรืออย่างไรค่ะ ความยุติธรรมอยู่แห่งหนใด รพ.ชุมชนแพทย์ไม่อยู่เวรบนตึก นอนรออยู่ที่บ้าน consult บ่อย ๆ ก็โมโห ทำเสียงดังใส่ ขึ้นมาแสดงสีหน้าไม่พอใจ กล่าวว่าพยาบาลไม่ยอมเจรจาให้คนไข้กลับบ้าน พยาบาลที่อ่านกระทู้นี้ "คิดว่าจริงไหมค่ะ เห็นด้วยหรือปล่าว" สุดท้ายอยากบอกว่าโมโหจริงๆ ที่โดนดูถูกในวิชาชีพของเรา

อยากให้พยาบาลออกมารวมตัวกันให้มากๆ พวกเราถูกข่มเหงมานานแล้ว แพทย์ที่อยู่เวรนอกเวลาราชการ consult ให้มาดูผป. ก็ไม่ยอมขึ้นมา คนที่รับหน้าแทนคือพยาบาล  แต่ค่าตอบแทนของแพทย์กลับเรียกร้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  แพทย์ทำอะไรก็ไม่ผิด พวกเราต้องลุกขึ้นมาต่อสู้บ้างแล้วล่ะ อย่าให้กระทรวงนี้เป็นเฉพาะพวกอภิสิทธิ์ชนเลยค่ะ

 ช่วงนอกเวลา แพทย์ควรจะอยู่เวรคู่กับพยาบาล ER เลยเพื่อจะได้ไม่ต้องโทรไป consult แล้วหัตการบางอย่างที่เกินขอบข่ายของพยาบาล ให้แพทย์เป็นคนทำเพื่อให้เกิดความคุ้มกับเงินที่ได้

พยาบาลทำงานหนักมากกกกกกกกกกก

เทียบกับวิชาชีพอื่นๆที่ทำงานสบาย ด้วยการนอนหลับอยู่ที่บ้าน แต่ก็ได้เงินค่าโอที

ไม่มาตรวจคนไข้  นอกเวลาราชการ ให้พยาบาลตรวจแทน ฉีดยาแทน ทำหัตถการต่างๆที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของแพทย์   พยาบาลก็ทำแทนให้ทั้งหมด แต่ค่าตอบแทนกลับไปตกอยู่ที่หมอๆๆทั้งหลาย

ทีพยาบาลมีกฎหมายที่ไม่ทำหัตถการที่อันตรายเช่นการฉีดสารทึบแสง ให้แพทย์ทำเอง

กลับมีเสียงเรียกร้องจากแพทย์ ว่าทำไม่ได้ๆๆๆๆๆๆ

ทั้งๆทีเป็นหน้าที่รับผิดชอบของแพทย์ 

งานไม่ทำดีแต่เรียกร้องเอาค่าตอบแทนอย่างเดียว

แบบนี้เรียกว่า อะไรดี แพทย์พานิชย์ - แพทย์เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวอย่างแรง

สภาการพยาบาลทำอะไรอยู่

ทุกวันนี้ท่านได้ทำอะไรให้แก่ชาวพยาบาลบ้าง

ดีแต่เก็บเงินทุก 5 ปี ค่าต่อใบประกอบวิชาชีพ

แล้วนำเงินไปดูงานที่ต่างประเทศ

เคยคิดจะช่วยเหลือพยาบาลด้วยกันบ้างรึเปล่า

เหลือบตา มองดู ครู บ้างรึป่าวว่าตอนนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว

ตอนนี้ค่าตอบแทนของครูได้มากกว่าของพยาบาลอีก

ทั้งๆที่ทำงานสบาย ไม่มีความเสี่ยงอะไร

การเลื่อนขั้นก็ง่าย มีการช่วยเหลือกันเองในหมู่คณะในการเลื่อนขั้น การเรียกร้องเงินค่าตอบแทน

อยากรู้จริงๆๆ

สภาพยาบาลเคยทำแบบนี้บ้างรึป่าว

หรือว่าไม่เคยแม้แต่  จะคิด

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความเห็นที่ 13

พยาบาลทำงานหนักconsult case ก็ไม่ยอมมาดูผู้ป่วยแถมยังเรียกไปต่อว่าอีกพอมีปัญหารีบแก้ตัว

ค่าตอบแทนของพยาบาลน้อยเกินไป ทั้งที่ทำงานหนักตลอด 24 ชม.และต้องทำงานให้ถึงชาวบ้านด้วย  เห็นควรเรียกร้องสิทธิอันพึงได้รับ อย่างเสมอภาคและเป็นธรรม   รวมพลังสีขาวครับ

พยาบาลสู้ๆๆ

เห็นด้วยกับความคิดที่15

เรามีสภาการพยาบาล  ก้อต้องมีไว้เพื่อพิทักษ์สิทธิ์พยาบาล  ไม่ใช่เก็บเงินอย่างเดียว    ทุกวันนี้พยาบาลเสี่ยงทุกอย่างเงินได้นิดเดียว   ไม่ผลิตเพิ่ม    คนที่เหลือทำงานแทบตาย  บ้างก้อมีปัญหาครอบครัว  ปัญหาทางจิต  ปัญหาสุขภาพกาย   ไม่มีเวลาพักผ่อน     เห็นใจกันบ้าง   คิดบ้างถ้าไม่มีพยาบาลจะอยู่กันยังงัย   วันครู เขาได้หยุด   วันพยาบาลไม่เคยได้หยุด   เรานึกถึงประชาชน   เป็นหลัก    แต่ไม่มีคนคิดถึงเราเลย

ถึงเวลาแล้วที่เต้องร่วมกันรวมพลังต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของเรา

เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ชาวน้องพี่พยาบาลทั่วประเทศ ควรลกขึ้นสู้กับความอยุติธรรมได้แล้วทำงานแทนพวกแพทย์มานานกลับไม่ได้รับความเป็นธรรมเภสัชวันๆเอาแต่อยู่ในห้องจ่ายยากลับได้มากกว่าพวกเราที่ทำงานต้องยืนตลอด16 ชม.

ถึงเวลาแล้วที่พวกเราชาวพยาบาลจะแสดงศักยภาพของเรา  อยากขอร้องให้เพี่อน ๆ บางคนที่ยังทำเฉย ไม่สนใจ  ให้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ในจังหวัดของข้าพเจ้า ได้โทรคุยกันว่าจะไปรวมพลที่กระทรวงจะมีตัวแทนของโรงพยาบาลไปหรือไม่ คำตอบที่ได้มาแทบจะเป็นลม คือ "ไม่ไป"  ดู้ ดู ดูซิเธอ ทำไมถึงทำกับฉันได้ แอบน้ำตาตกในนิดหน่อย

เจอกันวันรวมพล 9 มกราคม 2552ชาวรพ.ป่าตองพร้อมสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สู้ตายค่ะ

จาก nurse ER รพ.ป่าตอง

ไปอยู่แล้ว สู้ตาย

ตอนนี้ล่ารายชื่อแล้วเตรียมรถแล้วค่ะ

เจอกันวันที่ 9 มกราคม 52

เห็นด้วยกับความเห็นที่ 19 คะ ตอนนี้เราเองก็ 45 ปีแล้ว  ยังต้องขึ้นเวร บ่าย - ดึก เพราะไม่ผลิตพยาบาลรุ่นใหม่  สงสัยคงต้องขึ้นเวรจนตายในหน้าที่   เจ็บป่วยก็ลาไม่ได้ถ้าไม่มีคนอยู่เวรแทน  ต้องลากสังขารที่เจ็บป่วยมาดูแลคนไข้  เลยไม่รู้ใครป่วยมากกว่ากัน

เห็นด้วยกับความคิด ที่ 15

สภาการพยาบาลต้องทบทวนบทบาทแล้วละ หู ตาจะอยู่กับนากับไร่ ไม่ได้แล้ว

สภาการพยาบาลดูแลพยาบาลชุมชนน้อยมากภาระงานก็มากแต่ค่าตอบแทนน้อยมากซ้ำยังมีความเสี่ยงสูง

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

เห็นด้วยกับทุกความเห็นค่ะ

อยากถามใครก็ได้ว่า ... ใครเป็นคนสร้างวัฒนธรรมนี้ที่ให้พยาบาลคอยรับใช้แพทย์เกือบทุกอย่าง   ทำแทนเกือบทุกอย่าง ( ไม่ใช่แฟนน่ะ )  หรือกฎหมายกำหนดไว้   ความจริงการรวมพลังไม่น่าจะแค่เรื่องค่าตอบแทนที่ไม่ยุติธรรม     แต่น่าจะรวมถึงการเรียกร้องให้แพทย์ทบทวนบทบาทของตนเองด้วยโดยเฉพาะ รพช.  เช่น  หัดดูแลจิตใจทีมสหวิชาชีพของคุณมั่ง  ไม่ใช่แต่สั่งๆๆๆๆๆๆ   เรามันก็คนหมือนกัน

ประเทศไทยด้อยพัฒนา   เศรษกิจตกต่ำ   ยากจนมากๆๆๆๆ    มากกว่า บางประเทศในแถบเอเชียเลยหรือค่ะ     พยาบาลไทยถึงได้ทำงานลำบากมากขนาดนี้    เมืองนอก  แค่ดูแลผู้สูงอายุเงินเขายังมากกว่าเราเลย    แล้วเราล่ะ  ทุกอย่าง  ต้องทำแบบองค์รวม  แล้วผู้ป่วยในประเทศไทยน่ะจำนวนเท่าไหร่   ปัญหาการเจ็บป่วยก็ซับซ้อน   ( บอกอะไรก็ไม่เอา  ทำตามไม่ได้  หวังพึ่งเราอย่างเดียว   

ดิฉันเชื่อว่าผู้บริหารระดับสูงคงผ่านเมืองนอก  เมืองนามาบ้าง  คงรู้ว่าต่างประเทศความเป็นอยู่ของพยาบาลเป็นอย่างไร   ต่างกับของเราอย่างไร   ช่วยทำให้เราเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับเค้าหน่อยได้ไหม

เห็นด้วยกับทุกความคิดเห็นเจอกัน9ม.คพยาบาลสู้ๆๆๆๆๆๆ

เห็นด้วยกับ ความเห็นที่ 10 ค่ะ

เคยรู้บ้างใหมพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนทำงานแทนแพทย์ทั้งที่ไม่อยากทำแต่ก็สงสารคนไข้ ตรวจรักษา ทำหัตถการ ทั้งๆที่มีแพทย์อยู่แต่ไม่ยอมทำ  นอนอยู่บ้านทั้งที่เป็นเวลาราชการ คนไข้บางคนนอนโรงพยาบาลจนกลับบ้านไม่เคยเห็นหน้าหมอ มีแต่พยาบาลคอยดูแล  แล้วเป็นไงค่าตอบแทนมากมาย  ความยุติธรรมอยู่ที่ใหน ต่อไปก็หน้าที่ใครหน้าที่มันแล้วกัน

เห็นด้วยครับ ว่าคุณควรเรียกร้องสิทธิ์ตัวเอง แต่ไม่ควรนำวิชาชีพอื่นมาเปรียบเทียบกัน เพราะมันเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะเนื้องานไม่เหมือนกัน

เพราะถ้าไม่มีพยาบาลหมอก็ทำงานไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันถ้าไม่มีหมอพยาบาลก็ทำงานไม่ได้ เพราะเราเรียนมาไม่เหมือนกัน

เห็นด้วยอย่างยิ่ง นัดหยุดงานทั่วประเทสไปเลยค่ะ

ไม่ได้เปรียบเทียบแต่เรียกร้องเอาศักดิ์ศรีคืนมา  ศักดิ์ศรีพยาบาล

พวกเราถูกครอบงำสร้างวัฒนธรรมตั้งแต่รุ่นโบราณ  ตั้งแต่สายการบังคับบัญชาระดับกระทรวง  ควรเข้าชื่อขอแก้สายการบังคับบัญชาการบริหาร  ล่ารายชื่อแก้ไขได้แล้วเพราะผู้ใหญ่ในกระทรวงมีแต่แพทย์  แต่ไม่ดูแลเราซึ่งมีจำนวนมากกว่า  ถึงเวลาพิจารณาเรื่องอะไร  ไม่ว่าเรื่องการบรรจุ  เรื่องค่าตอบแทนพยาบาลหลุดทุกที

   ทำไมไม่ยุติธรรมกับเราอย่างนี้ 

  1.เงินแตกต่างบกันมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

  2.คิดอายุราชการก็ไม่เหมือนกัน  พยาบาลย้ายมาจากรพ.ทั่วไป ตัด  เวลาออก  ไปเรียนโท  ตัดเวลาออก  แพทย์คิดหมดรพท.  รพศ 

  3.แพทย์  เภสัช รพ.ชุมชนมีพื้นที่ปกติ  คุณพยาบาลทั้งหลายมีแต่พื้นที่ทุรกันดาล ระดับ 1 ,2เท่านั้น

  แพทย์รพ.ชุมชน  เบิกค่าเวร เวร900 บาท  บ่าย/ดึก 1800 บาท แต่นอนอยู่บนบ้าน  บางครั้งก้อ Order by Phone  มาตรวจ 10 โมง Case เยอะก้อหน้าหงิกหน้างอ

 วันที่9/1/52  เชิญพี่น้อง  มาร่วมแสดงสปิริตกันเยอะๆนะค่ะ 

  เจอกันวันที่ 9/01/52 ค่ะ

ก็เห็นใจนะคะเรื่องค่าตอบแทนของพยาบาลก้อคิดว่าน้อยจริงๆ  แต่อย่าเอาพยาบาลไปเปรียบเทียบกับแพทย์ทันตะเภสัชเลยเพราะมันไม่เหมือนกัน  ตั้งแต่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยคะแนนสอบเข้าของแพทย์ทันตะเภสัชจะเกาะกลุ่มกันซึ่งเป็น3คณะที่คะแนนสูงสุด3อันดับแรกของผู้สอบสายวิทยาศาสตร์   ซึ่งถ้าเทียบคะแนนกันพยาบาลคะแนนห่างจากเภสัชตั้งเกือบ100คะแนนหรืออาจมากกว่านี้  และถ้าต่างจากหมอยิ่งไม่ต้องพูดถึงและพยาบาลไม่จำเป็นต้องจบมหาวิทยาลัย  เรียนที่วิทยาลัยพยาบาลก็ได้(สำหรับคนเอนทรานซ์ไม่ติด)   แต่แพทย์ทันตะเภสัชต้องเรียนและจบจากมหาวิทยาลัยเท่านั้นซึ่งก็ต้องเป็นคนเก่งถึงจะจบแพทย์ทันตะเภสัชได้   และเนื้อหาความยากง่ายของวิชาเรียนแพทย์ทันตะเภสัชย่อมเรียนยากและเรียนหนักกว่าพยาบาล   จำนวนแพทย์ทันตะเภสัชรวมกันทั้งกระทรวงสธ.ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของพยาบาลทั้งหมดด้วยซ้ำ   และลักษณะเนื้องานของแพทย์ทันตะเภสัชก็คนละอย่างกับพยาบาลซึ่งก็เป็นspeciallistด้านนั้นๆ  อย่างแพทย์ก็มีความรู้เรื่องโรคเรื่องการทำหัตถการต่างๆ  ทันตะก็รู้ลึกเรื่องฟัน  การอุดฟัน  รักษาคลองรากฟัน การผ่าฟันคุด  ส่วนเภสัชก็มีความรู้ลึกเรื่องยาสามารถประเมินวินิจฉัยผื่นแพ้ยาและประเมินADRจากยาได้ ซึ่งคิดว่าค่าตอบแทนที่ให้เหมาะสมตามความยากง่ายของการเรียนและเนื้องานตลอดจนอัตรากำลังของบุคลากรแล้วค่ะ   และขอบอกไว้ตรงนี้อีกนิดนะคะแพทย์ทันตะเภสัชทุกคนคงไม่มีใครคิดดูถูกพยาบาล   เพราะพยาบาลเป็นเพื่อนร่วมงานเป็นหนึ่งในทีมสหวิชาชีพซึ่งทุกวิชาชีพไม่ว่าจะเป็นแพทย์ทันตะเภสัช พยาบาล  เทคนิคการแพทย์หรือผู้ช่วยเหลือคนไข้ล้วนทำงานเกื้อกูลกันในการดูแลรักษาผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยหายแ ละได้รับประโยชน์สูงสุดจากการรักษาพยาบาลและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งนั้น   เราชาวสาธารณสุขทั้งหลายล้วนเป็นพี่น้องกันอย่าได้ให้เงินค่าตอบแทนมาสร้างความแตกร้าวให้พวกเราชาวสาธาณสุขด้วยกันเลยค่ะ   เอาเวลาที่จะไปประท้วงมานั่งทำงานทำประโยชน์เพื่อคนไข้ดีกว่าค่ะ  คนไข้ทุกคนยังรอคุณพยาบาลมาช่วยเหลืออยู่นะคะ   ได้โปรดเห็นใจคนไข้ตาดำๆด้วยเถอะค่ะ

ถึงคุรความเห็นที่ 45

ถ้าคุณใช้สมอง(ที่คุณคิดว่ามันเก่งล้ำเลิศมากๆ) ไตร่ตรองดู จะเห็นได้ว่า 4-5 บรรทัดที่คุณเขียนมาที่คุณเขียนมาทั้งหมดนั้น สรุปแล้วก็คือ การดูถูก"วิชาชีพพยาบาล" คิดกันง่ายๆนะคะ สมมุติว่า มีโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน 1 อาทิตย์ เภสัชทั้งหมดหยุดงาน กับพยาบาลทั้งหมดไม่มาทำงาน คุณคิดว่าอย่างไหนประชาชนเดือนร้อนที่สุด.............นี่คือคำตอบของทุกอย่างค่ะ  ถ้าจิตใจของคุณกว้างพอๆกับมันสมอง(ที่คุณคิดว่าดีเลิศกว่าคนอื่นๆ) คุณก็จะทราบว่าปัญหามันอยู่ที่เนื้องานที่พยาบาลทำต่างหาก ไม่ใช่ระดับของความเก่งที่ทำให้ได้เรียนในมหาวิทยาลัย เรื่องแค่นี้คนไม่ได้เรียนหนังสือก็คิดออกค่ะ

ทุกวิชาชีพต่างมีความสำคัญในบริบทของตัวเองเพราะฉะนั้นค่าตอบแทนที่ได้รับก็ควรจะมีความเท่าเทียมกันไม่ควรจะแตกต่างกันมากมายขนาดนี้และที่สำคัญแต่ละวิชาชีพควรจะมีเจ้าของวิชาชีพเป็นเจ้ากระทรวงของตัวเองจะได้มีการเสนอแนะและการแสดงความคิดเห็นที่เป็นตัวตนของตัวเอง

เห็นด้วยกับความคิดที่48 เพราะเก่งอย่างเดียวอยู่ไม่ได้หรอก และเราเข้าใจว่าควมยากง่ายมันต่างกัน แต่มันไม่ควรห่างกันขนาดนี้ เหมือนกับไม่เห็นความสำคัญของพยาบาลเลย เกลียดกระทรวง และผู้บริหารกระทรวงจริงๆ