อีกประเด็นที่อยากรณรงค์กับพยาบาลทุกคนค่ะอยากให้ปรับการใช้คำเพื่อสร้างความเข้าใจผิดที่ผ่านมากันหน่อยนะ เช่นคำว่า

รับคำสั่งแพทย์ ขอให้ใช้ว่า นำแผนการรักษาสู่การปฏิบัติค่ะ (เพราะการนำแผนการรักษาไปปฏิบัติหากแผนนั้นมีความไม่เหมาะสมพยาบาลต้องประเมินก่อนว่าเมื่อใช้กับผู้ป่วยแล้วเกิดความเสี่ยงอะไรบ้าง)

การตามราว  ขอให้ใช้คำว่าร่วมวางแผนการรักษา(เพราะในขระที่แพทย์ดูผู้ป่วยพยาบาลต้องให้ข้อมูลที่เฝ้าระวังและติดตามมารวมถึงปัญยาและความต้องการของผู้ป่วยร่วมกับแพทย์ค่ะ)

ที่โรงพยาบาล  nurses ไม่ได้ทำแค่ excission  แต่จะเข้าเฝือกได้เก่งมาก  สวยมาก  มิเช่นนั้นจะถูกหมอว่าเอา

การที่พยาบาลทำคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ผู้บริหารเป็นแพทย์ถ้าพยาบาลไม่ทำก็หาว่าขัดคำสั่งกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ทำไมต้องให้หารืออีกทำไมไม่คิดแก้ไขให้เวลาเกิดเรื่องพยาบาลต้องรับโทษคนเดียว แพทย์สบายไป เพราะจะตอบว่าไม่ทราบไม่ได้รับรายงาน เวลาพยาบาลขอให้ออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร ก็ไม่ยอมทำ น่าสงสารพยาบาลจริงๆ ที่เกิดมาอยู่กับแพทย์ที่เป็นอาชีพที่เห็นแก่ตัวที่สุด

ไม่ถูกต้องตั้งแต่ระดับหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว ที่สำนักการพยาบาลทำไมต้องขึ้นกับกรมการแพทย์ น่าโมโหจริง ๆ

ถ้าพยาบาลยอมทำ ทั้งที่โดยมาตรฐานวิชาชีพแล้ว มันไม่ใช่หน้าที่  แล้วเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ก็เห็นๆอยู่ ว่าแพทย์โบ้ยว่าสั่งไปอย่าง แต่พยาบาลได้ยินไปอีกอย่าง เห็นไหมว่า ถึงเวลาวิกฤตจริงๆ ใครจะยอมรับผิดไปด้วย

ทีนี้ ถ้าเป็นระบบราชการ เรารู้ว่าไม่ใช่หน้าที่เรา แต่ผู้ที่สั่งคือแพทย์ ไม่ว่าจะ ผอ เอง หรือแพทย์ทั่วไปเองก็เถอะ ถ้าลองไม่ทำ เกิดอะไรขึ้น คิดว่าพยาบาลท่านนั้นหรือเหล่านั้น จะเจริญรุ่งเรืองในระบบราชการที่โรงพยาบาลนั้นหรือ

ประเด็นตอนนี้ก็คือ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ทำก็เสี่ยงโดน ไม่ทำก็ไม่เจริญ

วิธีการก็คือ ต้องหาคนกลางมาตีความ ว่าคำสั่งแบบนั้น ชอบด้วยระเบียบและกฎหมายไหม

จึงแนะนำให้สภาการพยาบาลรวมตัวกันร่างหนังสือให้ศาลปกครองตีความ ว่าการที่แพทย์สั่งให้ท่านทำหนึ่ง สอง สาม สี่ ที่ไม่ใช่ขอบเขตหน้าที่ท่าน ชอบด้วยกฏหมายหรือไม่

เมื่อศาลปกครองตีความมาว่า ไม่ใช่ขอบข่าย ท่านก็เวียนหนังสือทราบทุก รพ ให้พวกแพทย์ถือปฏิบัติ

ทั้งนี้ แนะนำว่าให้รวมเรื่องการ order by phone ด้วย เพราะ รพช ทุกที่ อย่างที่รู้กัน แพทย์มิได้เบิกค่าเวรเป็นแบบรับคำปรึกษา 550 บาทอะไรนั่น แต่เบิกเป็นเวรหรือผลัดแปดชั่วโมง1100 บาท ซึ่งมีหลักเกณฑ์ชัดเจนว่าต้องตรวจเองทุกเคส แต่ที่ผ่านมา ไม่ใช่แบบนั้น

แล้วถ้ามีหนังสือยืนยันจากศาลปกครองแล้ว อย่างน้อยท่านก็จะมียันต์กันผีจากพวกที่เอาเปรียบพวกท่านมาชั่วนาตาปี ซึ่งถ้าเขาเลือกปฏิบัติ กลั่นแกล้งท่านจากการกระทำนั้น ท่านก็เพียงฟ้องศาลปกครองว่าถูกกลั่นแกล้งจากการปฏิเสธการกระทำที่มิใช่หน้าที่ท่าน

สภาการพยาบาลต้องเป็นแกนให้น้องๆครับ ถ้าท่านไม่อยากให้วิชาชีพท่านต้องถูกเหยียบถูกกดแบบนี้ไปอีกเป็นสิบ เป็นร้อยปี

แต่ถ้าวันนี้ท่านยอม วิชาชีพท่านก็จะเป็นเบี้ยล่างแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ

ท่านต้องกล้าที่จะเริ่มครับ อาจจะยากในช่วงแรก แต่เชื่อเถอะ ความเป็นธรรม ถ้าท่านไม่ไขว่คว้า มันไม่มีทางวิ่งมาหาท่านหรอก

มีหลักเกณฑ์ชัดเจนว่าต้องตรวจเองทุกเคส แต่ที่ผ่านมา ไม่ใช่แบบนั้น

หลักเกณฑ์อยู่นี่ครับช่วยแหกตาดูหน่อยมีคำใหนที่บอกว่าต้องตรวจทุกเคส

1.1  อัตราค่าตอบแทนแพทย์ จำแนกดังนี้

กรณีที่ปฏิบัติงานประจำอาคารผู้ป่วยนอกพร้อมที่จะให้การดูแลผู้ป่วยได้ตลอดเวลาและทันท่วงทีเมื่อมีผู้ป่วยมารับบริการ  เช่น แพทย์เวรอุบัติเหตุและฉุกเฉิน เป็นต้น  ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตรา คนละ 1100 บาท

ไม่ทราบว่าชัดเจนมั้ย

กรณีแพทย์เบิก 1100 บาท แล้วอยู่เวรแบบรับปรึกษานี่ก็เพราะ ภายในจังหวัดสามารถปรับค่าตอบแทนได้ไม่เกิน1เท่าแต่รายงานให้ปลัดทราบเท่านั้นส่วนปรับ2เท่าให้เป็นอำนาจผู้ตรวจราชการ ปรับ3 เท่าเป็นอำนาจ ปลัดกระทรวงนั่นหมายความว่าภายใต้job description เดิมคือ แบบรับคำปรึกษาแต่ค่าตอบแทนได้2เท่าของหนังสือฉบับที่ 6 ครับ

ทั้งนี้การปรับของแพทย์ที่ปรับที 1เท่า ส่วนพยาบาลปรับทีละ 20% นี่ก็สะท้อนให้เห็นชัดอยู่แล้วว่าเขาให้ความสำคัญแตกต่างกันครับ

อย่าหลงเข้าใจผิดว่า1100 คืออัตราแพทย์เวรer จริง เป็นอัตราแพทย์เวรoncall นี่หละครับ

ระเบียบข้อ 1.3.1กรณีที่ปฏิบัติงานประจำอาคารผู้ป่วยนอกพร้อมที่จะให้การดูแลผู้ป่วยได้ตลอดเวลาและทันท่วงทีเมื่อมีผู้ป่วยมารับบริการ  เช่น แพทย์เวรอุบัติเหตุและฉุกเฉิน เป็นต้น  ให้ได้รับค่าตอบแทนในอัตรา คนละ 1100 บาท

คุณเลี่ยงบาลีเก่งนะ คุณ GP คุณเห็นคำว่า เช่น ไหม เช่น เช่น เช่น

คำว่าเช่น มิใช่แปลว่า ให้คุณทำแค่สองอย่างในเช่น

แต่เขาแค่ยกตัวอย่างว่าแพทย์ที่หอผู้ป่วยนอก เช่น แพทย์เวรอุบัติเหตุและฉุกเฉินเป็นต้น ถ้าตรวจแปดชั่วโมง ให้บริการผู้ป่วยได้ตลอดเวลาและทันท่วงที รับไปเลย แปดชั่วโมงพันร้อย

มิใช่ไปตีความว่า รับ 1100 แล้วทำแค่อุบัติเหตุฉุกเฉินเท่านั้นแบบที่พวกแพทย์ทำกันตอนนี้ พอมีเคสปวดท้อง ปวดหัวมาเลยบอก ไม่ใช่หน้าที่ พยาบาลทำไปละกัน

คุณอ้างว่ารับแบบ 550 บาทต่างหาก เลยแค่รอรับคำปรึกษา  ฮ่าๆๆ คุณรู้ไหมว่าถ้าคุณจะทำแบบนี้ได้ คือตามข้อ 1.3.2 มันจะต้องมีการลงรายการว่าคนไข้มาตรวจ 1 ราย ได้กี่บาท แล้วตลอดแปดชั่วโมง เบ็ดเสร็จกี่คน แล้วได้รวมกี่บาท ถ้าเกิน 550 บาทก็รับไปเท่าจำนวนที่เกิน แต่ถ้าไม่ถึง 550 บาท ก็ให้รับ 550 บาทขั้นต่ำ

คุณลงบัญชีแบบนี้ไหมล่ะในการอยู่เวรของคุณ ถ้าไม่ใช่ ก็แสดงว่าคุณรับค่าเวรตามข้อ 1.3.1 นั่นคือ กรณีรับ 1100 บาท ซึ่งมีเงื่อนไขว่าต้องพร้อมที่จะให้การดูแลผู้ป่วยได้ตลอดเวลาและทันท่วงที  ใครพร้อม พยาบาลพร้อมเหรอ  ปล่าวววว  คนที่แสดงเจตจำนงที่จะรับเงินเวรตัวนี้ซิที่ต้องพร้อม แล้วในทางปฏิบัติใครพร้อม  เบ้อย่างนางพยาบาลครับ ฮ่าๆๆๆ

ตีความตีตรงๆดิ ผมว่าระเบียบมันตรงไปตรงมาจะตาย แต่นี่ ตีความเลี่ยงบาลี แล้วสุดท้ายใครซวย นางพยาบาล

แพทย์ได้เงินเต็มจำนวน แต่นางพยาบาล นางเบ้  ทำไป ใครรับเงิน คุณแพทย์

ขอชื่นชมคุณหมอฟัน

ที่ให้ความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาที่สุด  

คนเป็นคนดี   ขอชม

ดีจังเลย ช่วยกันสาวไส้ให้กากิน

ขอแสดงความคิดเห็นกับพี่ Knurse   คหที่1  และพี่/เพื่อน/น้องพยาบาลทุกๆท่าน

ที่พี่Knurse รณรงค์ว่า

อีกประเด็นที่อยากรณรงค์กับพยาบาลทุกคนค่ะอยากให้ปรับการใช้คำเพื่อสร้างความเข้าใจผิดที่ผ่านมากันหน่อยนะ เช่นคำว่า

รับคำสั่งแพทย์ ขอให้ใช้ว่า นำแผนการรักษาสู่การปฏิบัติค่ะ (เพราะการนำแผนการรักษาไปปฏิบัติหากแผนนั้นมีความไม่เหมาะสมพยาบาลต้องประเมินก่อนว่าเมื่อใช้กับผู้ป่วยแล้วเกิดความเสี่ยงอะไรบ้าง)

การตามราว  ขอให้ใช้คำว่าร่วมวางแผนการรักษา(เพราะในขณะที่แพทย์ดูผู้ป่วยพยาบาลต้องให้ข้อมูลที่เฝ้าระวังและติดตามมารวมถึงปัญหาและความต้องการของผู้ป่วยร่วมกับแพทย์ค่ะ)

เห็นด้วยมากๆในแนวคิดค่ะ  วันประชุมที่มิราเคิลปลายเดือนนี้....เริ่มเลยพี่..

อยากรณรงค์ร่วมด้วยอีกประเด็นค่ะพี่ 

คำว่า"รายงานแพทย์ "  ฟังแล้วเหมือนทำงานแบบสายการบังคับบัญชา  ไม่ใช่ทำงานแบบสายวิชาชีพ  

 เพราะพวกเราคือ  สหวิชาชีพค่ะ เสนอใช้คำว่า       " แจ้งอาการผู้ป่วยให้แพทย์ทราบ" ก็ได้   คงเข้าใจตรงกันได้ไม่ยากเลย

ในแผนการรักษาของแพทย์   ก็อาจจะใช้คำว่า   "ถ้า............แจ้งให้แพทย์ทราบด้วย"  ก็คงจะน่ารักไม่น้อย  

แพทย์บางท่านอาจจะใช้คำว่า"กรุณาแจ้งอาการให้แพทย์ทราบด้วย"  เพราะจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา   แพทย์หลายท่านสุภาพมากค่ะ  ใช้คำว่า "ถ้า...........กรุณาnotify แพทย์"  น่ารักที่สุดเลย

ฝากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆพยาบาลนำไปคิดด้วยกันและร่วมตัดสินใจด้วยกันอีกครั้งนะคะ   เพื่อวิชาชีพของพวกเรา

แล้วพบกันที่มิราเคิลปลายเดือนนี้

แล้วจะเอาเอกสารเรื่องความเสี่ยงที่พยาบาลถูกฟ้องร้องจากกรณีทำเกินขอบเขตหน้าที่มาแจกให้วันประชุมค่ะ

ส่วนการใช้คำที่ถูกต้องเราต้องช่วยกันนะคะจะได้เป็นการเตือนให้คนของเราใช้ความรู้ก่อนการทำอะไรกับผู้ป่วย

แล้วต้องเรียนแพทย์บางท่านที่อาจเข้าใจผิดค่ะ บทบาทหน้าที่การตรวจรักษาผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นเวรเช้า บ่าย ดึก เป็นหน้าที่ของแพทย์ตาม พรบ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ดังนั้นไม่ว่าผู้ป่วยรายไหนมาใช้บริการเป็นหน้าที่ของแพทยืต้องตรวจรักษาเองไม่เกี่ยวกับระเบียบค่าตอบแทน ไม่ว่าท่านจะรับเงินค่าตอบแทนในอัตราใดก้อต้องตรวจทุกรายค่ะเพราะเป็นบทบาทหน้าที่ของท่านตามกฏหมาย (แต่ที่ผ่านมาด้วยความเห็นใจซึ่งกันและกันว่าแพทย์ท่านทำงานทั้งเวรเช้า แล้วต้องต่อเวรนอกเวลา  พยาบาลแผนกอุบัติเหตุของทุกโรงพยาบาล จึงทำหน้าที่แทนท่านมาโดยตลอด  แต่ขระนี้มีความเสี่ยงทางกฏหมายอย่างยิ่งสำหรับพยาบาลที่ตรวจรักษาแทนแพทย์ เนื่องจากมีการฟ้องร้องมากขึ้นและหากมีการฟ้องร้องพยาบาลต้องรับผิดแน่นอน

จึงฝากแพทย์ที่ดีๆน่ารักๆทุกท่านทำหน้าที่ของท่านตามกฏหมาย

ฝากพยาบาลลุกขึ้นมาปกป้องตัวท่านเองที่ทำงานเกินขอบเขตหน้าที่ตามที่กฏหมายกำหนด

ฝากผู้บริหารโปรดใช้โอกาสนี้ทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคนค่ะ