ความเห็นที่3 (คนชุมชน)

การคัดเลือกควรให้คนที่มีคุณสมบัติคือ ควรดำรงตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มการพยาบาลของโรงพยาบาลนั้นๆมาก่อนอย่างน้อย  2 ปีขึ้นไปและกพ.ก็กำหนดชัดเจนแล้วว่าหัวหน้าพยาบาลเป็นตำแหน่งชำนาญการพิเศษชัดเจน     ทำไมไปคิดให้ยุ่งยากอีกเนื่องจากถ้าให้เสนอมา  3 คนขึ้นไปเพื่อคัดเลือกจะมีปัญหาขัดแย้งในองค์กรพยาบาลมากขึ้นอีก  หรือกรณีผู้อำนวยการชอบค่าแป๊ะเจื้ยะแล้วมีการใช้เงินวิ่งเต้นตำแหน่งจะยุ่งกันไปใหญ่อีกจะไม่จบสิ้นเวลาคิดเกณฑ์อะไรให้คิดให้รอบคอบ  น้องๆที่ยังเป็นหัวหน้างานก็ให้อดใจรอไปหน่อย   หรือไม่ก็ช่วยกันผลักดันให้ขึ้นชำนาญการพิเศษให้ได้ทุกตำแหน่งเหมือนครูจะดีที่สุดเมื่อมีคุณสมบัติครบก็ขึ้นได้เลยทุกคน  อย่าพยายามคิดให้พยาบาลในรพ.ชุมชน ทะเลาะกันเองเลยค่ะเราเป็นผู้ใหญ่ควรคิดว่าทำยังไงน้องจะจะได้กับเราด้วย    ช่วยกันทำงานมองไปข้างหน้าและหาทางช่วยกันผลักดันให้ทุกคนมีความก้าวหน้าแต่ต้องรอหน่อยนะคะให้พี่ๆเขาได้เราค่อยได้ตามกันไป

เสนอว่ารอบนี้เสนอว่าให้เป็น1.หัวหน้ากลุ่มการพยาบาล  2.ผู้ช่วยหัวหน้ากลุ่มการ 3.  หัวหน้างานทุกตำแหน่งไปก่อนเรียงตามลำดับค่ะอาจจะให้ปีละตำแหน่งค่อยๆทะยอยไปโดยโรงพยาบาลไปกำหนดเช่นอายุราชการ   อายุการทำงานในตำแหน่งนั้นๆ  คุณสมบัติอื่นๆที่เหมาะสม

            จากที่ชมรมผู้บริหารการพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนจะดำเนินการร่างหลักเกณฑ์การสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งหัวหน้าพยาบาล (พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการพิเศษ) ในโรงพยาบาลชุมชน เพื่อเสนอต่อกระทรวงสาธารณสุขเนื่องจากยังไม่ปรากฏว่ามีหลักเกณฑ์การสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งหัวหน้าพยาบาลนั้น ไม่ทราบว่า หัวหน้าพยาบาลที่ได้รับแต่งตั้งจากกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว และยังไม่ได้ ชำนาญการพิเศษ ต้องพิจารณาใหม่หรือไม่ เช่นมีคุณสมบัติครบ  จบป.โท ด้านบริหารการพยาบาล และเป็นหัวหน้าพยาบาลอยู่แล้ว ขอเสนอให้ผลักดันให้หัวหน้าพยาบาลที่ยังไม่ได้ชำนาญการพิเศษ ได้ก่อนเถอะค่ะ   และสำหรับคุณสมบัติของผู้ที่ขึ้นตำแหน่งหัวหน้าพยาบาลคนใหม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่5ค่ะ

เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ที่ 1

      เนื่องจากหัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนที่ทาง กระทรวงกำหนดให้ได้แหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ นั้นจะได้อำเภอละ 1 แห่ง แกระทรวงได้กำหนดให้แค่ 25 % ทำให้ได้ไม่ครบ ดังนั้นคนที่ได้รอบนี้ คุณสมบัและหลักเกณฑ์ไม่ควรแก่งกันมาก และอีกอย่างดิฉันเคยทำงานกับคนที่จบปริญญาโทมากับคนที่จบปริญญารีมา คนที่จบปริญญาโทส่วนใหญ่ ทำงานแทบไม่เป็น ไม่ร่วมในการทำงานแบบกลุ่ม งานคุณภาพที่ทำบางครั้งไม่รู้เลย จงคิดว่าปแริญญารีข้นไน่าจหลักเกสณะเหมาะในการค

ร่าง 1 ที่เสนอน่าจะเป็นModel มาจากหลักเกณฑ์การสรรหา ฯ หัวหน้าพยาบาลของ รพศ./รพท.  ถ้าจะใช้ร่างนี้ขอเพิ่มตรง

    ข้อ 1 (7 ) ว่า  ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานในบทบาทหัวหน้าพยาบาลมาไม่น้อยกว่า 5 ปี

    ข้อ 2 ปรับจากคณะกรรมการบริหาร รพ.เป็นคณะกรรมการบริหารกลุ่มการฯ เพราะหัวหน้าพยาบาลน่าจะได้รับการคัดเลือกจากวิชาชีพพยาบาล ในขณะที่คณะกก.บริหาร รพ.จะเป็นวิชาชีพอื่นบา รพ.อาจมีพยาบาลเป็นคณะกก.บริหารรพ.เพียงหัวหน้าพยาบาลคนเดียว

ส่วนตัวเห็นด้วยกับร่าง 2  แต่

     ข้อ 2.1.1  วรรคท้ายที่ระบุว่าจะต้องปฏิบัติราชการเกี่ยวกับงานการพยาบาลวิชาชีพ หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้อง น่าต้องระบุคำว่างานอื่นให้ชัดเจน

     ข้อ 2.2.2 การศึกษาปริญญาโทสาขาอื่นน่าจะระบุเปนสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพหรือสาขาบริหารการพยาบาล/การสาธารณสุข/โรงพยาบาล

     ขอเป็นกำลังใจให้คณะทำงานนะคะ  ท่านเป็นผู้เสียสละเพื่อวิชาชีพอย่างมาก คนเคยทำรู้ว่าเหนื่อยแต่ Feed back บางครั้งก็ทำให้ท้อ

ขอบคุณมาก ผกค.  ถูกต้องแล้วค่ะ  เราต้องการข้อคิดเห็นในการคัดสรรหัวหน้าพยาบาลคนใหม่  คนเดิมก็คงอยู่ในตำแหน่งต่อจนหมดวาระ หรือเกษียณราชการ  เกณฑ์นี้จะเป็นเกณฑ์สำหรับคนใหม่ทดแทนคนเดืมที่หมดวาระหรือเกษียณไป  ถ้าอยากเห็นหัวหน้าพยาบาลในฝันที่ Smart  ก็ช่วยกันกำหนดเกณฑ์นะคะ  ทาง รพท. รพศ. กำลังหาอาสาสมัครมาปรับปรุงเกณฑ์ใหม่เหมือนกันค่ะ 

ขอบคุณทุกข้อคิดเห็น  ที่เป็นกระจกส่องให้  เพราะการคิดคนเดียวอาจจะไม่ครอบคลุม  จะรวบรวมถึงวันที่ 15 กันยายน 2553 นะคะ  จากนั้นจะรวบรวม  แต่งเติม  เป็นร่างใหม่  เสนอปลัดกระทรวงพิจารณา  และลงนามกำหนดเป็นเกณฑ์กลางค่ะ

ก็มีหลักเกณฑ์ของพยาบาลในโรงพยาบาลหละคะ ว่าผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งบริหารทางการพยาบาลไม่ว่าหัวหน้างาน  หัวหน้าพยาบาล  เป็นไปตามคุณสมบัติของกพ.และธรรมนูญองค์กรแหละคะ  ใครต้องการสมัครก็ให้ดูคุณสมบัติ อะไรยุ่งยากจัง จะตีกรอบตัวเองทำไม คิดว่าหัวหน้าพยาบาลคนไหนไม่มีประสิทธิภาพก็พัฒนาเขาสิคะ เดิมเขาเป็นหัวหน้าแล้วจะให้เขาไปทำอะไร  คนที่จบป.โทก็อย่าโอ่นัก คนจบป.ตรีเก่งๆมีถมไป  ใครอยู่ฝ่ายอื่นอยากเป็นหัวหน้าพยาบาลก็มาสิคะ  มาเป็นลูกหม้อก่อนได้ใจคนทำงานการพยาบาลก่อนสิ

ดิฉันเป็นหัวหน้าพยาบาลตั้งแต่อายุ 33 ปี ปัจจุบันยังไม่ถึง 45 ทำไมคุณผกค.โหดร้ายจังเลยคะ  ครูรุ่นน้องเขาอายุ33 ปีเขาได้ c 8 แล้วไม่ทราบว่าคุณจะกีดกันวิชาชีพกันเองทำไม  เป็นหัวหน้าอยู่ดีๆก็มีเกณฑ์มาทีหลังว่าต้อง 45 จึงจะได้ c8 ไม่เห็นด้วยและไม่ยุติธรรมเลย

ดิฉันเป็นหัวหน้าพยาบาลโดยได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดคะ  และเป็นตำแหน่งที่ติดตัว

คุณผกค.คิดอะไรอยู่ไปทำให้คนที่รอ8ได้ดีกว่ามั้งคะ

 ขอโทษนะ  ขอแสดงความคิดเห็นหน่อย  ไม่มีส่วนรู้ส่วนเห็นด้วยหรอก  ไม่เข้าใจเลยทำไมเหน็บกันไป  เหน็บกันมา  พยาบาลไม่อยากเห็นเกณฑ์กำหนดตำแหน่งหรืออย่างไร  การที่มีคนอื่นแต่ก็อยู่ในวงในของสหวิชาชีพของเราเองร่วมพิจารณา  ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่เลย  ถ้าพยาบาลคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมตามเกณฑ์จะได้รับการพิจารณา  ถ้าเราเหนือคนอื่นๆด้วยคุณวุฒิ  วัยวุฒิ จะกลัวไปทำไม   ไม่รู้ว่าเห็นนโยบาย  3  S ไหม  คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการจะมาจากบุคคลภายนอกโรงพยาบาล  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะเป็นเลขา ฯ เท่านั้น    มุมมองที่ก้าวไกลต้องมาจากหลากหลายความคิด  หลากหลายสายตา  เข้าใจ bird  eye  หรือเปล่า   ก็บอกแล้วว่าเป็นเกณฑ์ที่กำหนดใหม่  สำหรับคนใหม่  คน ณ ปัจจุบัน ไม่กระทบอยู่แล้ว  ก็ไหนว่าพยาบาลมีศักยภาพ  แล้วทำไม กลัวเกณฑ์กลาง    ป.โทที่กร่าง  ทีมร่วมพิจารณา ก็คงไม่เลือกหรอก   ถ้า ป.ตรีดีจริงๆก็ต้องได้รับการพิจารณาอยู่แล้ว  แต่ขอร้อง ป.ตรี พัฒนาความรู้หน่อย  เข้ารับการอบรมเฉพาะทางด้านบริหาร ก็ผ่านฉลุยแล้ว จะกังวลไปใย

......อืม.......อืม....

สรุปว่า หน.พยาบาลคนเก่า(ที่ได้รับแต่งตั้งแล้ว) ก็ดำรงตำแหน่งไปเรื่อยๆ จนเกษียณอายุราชการ หรือลาออก แต่เกณฑ์การกำหนดตำแหน่งใหม่ที่ช่วยกันพิจารณาตอนนี้คือสำหรับผู้ที่จะขึ้นตำแหน่งหน.พยาบาลคนใหม่..?

อายุงานในการเป็นหัวหน้าพยาบาล  การศึกษา ป.โท  ระยะเวลาการปฏิบัติงานในแห่งที่แต่งตั้ง

เห็นด้วยกับคนที่ 1 และอีกหลายๆ กระทู้

   ควรเปิดกว้างในเรื่องของตำแหน่ง ไม่ควรระบุว่าชำนาญการพิเศษ ต้องเป็นหัวหน้าพยาบาลเท่านั้น หัวหน้าฝ่ายต่างๆ ที่เป็นพยาบาลที่มีความสามารถมีผลงานมากกว่าหัวหน้าพยาบาลมีถมไป ฉะนั้นถ้าอยากให้วงการพยาบาลเจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป ก็ควรสร้างคน สร้างขวัญกำลังใจให้พยาบาลที่มีความสามารถ มีพลังที่จะทำงาน ให้มีผลงานดีดีต่อไป เพราะจะได้ส่งผลถึงผู้รับบริการด้วย พยาบาลอย่าทะเลาะกันให้มาก ถ้าเรามีผลจริงจะกลัวอะไร (ยกเว้นคนที่มีตำแหน่งแต่ไม่เคยทำงานอย่างเป็นชิ้นเป็นอันเลย ปล่อยให้ลูกน้องทำหมด รอผลงานจากน้องแล้วค่อยเขมือบเอา) ยังไงก็ตามฝากเพลงนี้ไว้หน่อยน่ะค่ะ ให้ร้องเป็นทำนองเพลงรักกันไว้เถิด

         รักกันไว้เถิด....            เราเกิดมาเป็นพยาบาลด้วยกัน...

         จะอยู่จุดไหน ไหน..    ก็พยาบาลด้วยกัน

         เรื่องความก้าวหน้า...   ไม่ควรกีดกั้น

        ควรให้โตเท่าเทียมกัน   เพราะเราคือ "พยาบาล"...

เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 1 ค่ะ โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดอายุไม่ควรกำหนด สมัยนี้ขึ้นกับความสามารถแล้วค่ะ

  และอยากให้รักกันไว้มากๆ ค่ะ

   สนับสนุนให้มีการพัฒนากันด้วยนะ 

      บางครั้งความรู้ไม่พัฒนาทำให้ถูกวิชาชีพอื่นกดขี่ทั้งการทำงานและด้านความคิดค่ะ

        ขอให้รวมใจก้าวไปข้าหน้านะคะ

เห็นด้วยกับร่างฉบับที่ 2  แต่ไม่ควรกำหนดอายุว่าต้อง  45  ปีขึ้นไป  เพราะบางทีอายุไม่ได้บ่งบอกถึงว่าคนนั้นจะสามารถควบคุมอารมณ์  หรือบริหารคนได้ดีหรือไม่  คุณวุฒิ  ป.โท ก็ไม่ควรกำหนดว่าต้องเป็น  ป.โท บริหารเท่านั้น  ควรเปิดโอกาศให้ทุกสาขาที่เกี่ยวกับด้านสุขภาพด้วย

  เห็นด้วยกับความเห็นที่ 1. และการแต่งตั้งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ  ที่เหลือนั้น  ควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกับคราวแรกที่แต่งตั้ง เนื่องจากการทำงานเหมือนกัน  อีกอย่าง  คนที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งแรกใช่ว่าจะทำงานดีกันทุกคน  บางคนได้เพราะอายุในจังหวัดเท่านั้น แต่งานไม่เคยทำ  หรือไม่เคยได้ช่วยคนอื่นเลย  และ อีกเมื่อไหร่คนที่เหลือจะได้ซักที  และในหลักเกณฑ์ที่ 1  การกำหนดอายุก็เห็นด้วยแต่ ควรจะเริ่มที่ อายุ ประมาณ 40  ปี ขึ้นไป ค่ะ

เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานโครงสร้างการบริหารการพยาบาลตามมาตรฐานการประเมินของสภาการพยาบาลเห็นสมควรให้กำหนดเกณฑ์ดังนี้

1.คุณสมบัติ

-คุณวุฒิไม่น้อยกว่าปริญญาโท(ถ้าไม่ถึงต้องรักษาการก่อน)

-วัยวุฒิ

-ประสบการณ์การทำงานทั้งด้านบริหารและบริการพยาบาล

-สมรรถนะและความสามารถส่วนบุคคล  (การครองตน ครองคน ครองงาน)

-ผลงาน (บริหาร/บริการ/วิชาการ)

2.วิธีการเลือก โดยการสมัคร แสดงคุณสมบัติ สัมภาษณ์โดยผูอำนวยการโรงพยาบาล ตัวแทนกรรมการบริหารโรงพยาบาลร่วมกับกรรมการภายนอกระดับจังหวัด  มีผลการอกเสียงลับของบุคลากรทางการพยาบาลเป็นข้อมูลความนิยมชองคนในองค์กร

อยากจะบอกน้องๆว่าความเป็นพี่น้องเป็นสิ่งสำคัญ ความเป็นคนเก่งเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้องค์กรพยาบาลมีความสงบสุขได้คะ เราอยากมีหัวหน้าพยาบาลที่เก่งคน เก่งงาน และมีการครองตนที่เหมาะสม

         อยากเสนอให้ชมรมผู้บริหารทางการพยาบาลรพช.นัดประชุมหัวหน้าพยาบาลรพช เพื่อร่วมกันคิดพิจารณาในการหาทางพาวิชาชีพเราก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม มอบหมายผู้รับผิดชอบดำเนินการในแต่ละประเด็น และไม่ควรจะใช้เวลาเนิ่นนาน(ช้ากว่าวิชาชีพอื่นไปหลายก้าว)

พัฒนาวิชาชีพให้ก้านเดินไปพร้อมกัน ทุกคนสามารถขึ้นชำนาญการพิเศษได้เหมือนกับวิชาชีพครู ไม่ต้องมากำหนดเกณฑ์ให้ยุ่งยาก ตั้งเกณฑ์เพื่อให้ตัวเองติดหล่ม เข้าล็อคของ กพ.พอดีเลย ทำไมไม่คิดที่จะให้มีความทัดเทียมกับวิชาชีพอื่น ทั้งๆที่มีพรบ.วิชาชีพเหมือนๆกัน

เห็นด้วยกับร่างที่ 1 ค่ะอยากได้หัวหน้าพยาบาลชำนาญการพิเศษจังพี่ๆที่ได้แล้วช่วยติดตามให้น้องด้วยสำหรับเรื่องหลักเกณฑ์เห็นช่วยกับร่างที่ 1ค่ะ

ปิดหน้าต่างไปเถอะ เพราะยังไงคำตอบที่คุณต้องการก็ไม่ได้ คำตอบเดียวที่ได้คือ ฉันได้ให้ทุกคนแสดงความคิดเห้นแล้ว อนาคตจะเกิดอะไรฉันไมสนเพราะฉันได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว ไม่มีใครว่าได้เพราะถ้าตอบผู้บริหารก้จะบอกว่า..ฉันยกระดับวิชาชีพแล้วนะ..และถามความคิดเห็นมาแล้ว ถ้าจะยังยืนยันตามร่างเดิม....ก็ขอให้กลุ่มที่ได้แล้วทบทวนตัวเองว่า ได้ครึ่งของคุณสมบัติที่ตั้งใหม่หรือไม่ ถ้ายังไม่ได้มีแผนพัฒนาตนเองอย่างไร ท่าจะดี ไม่ได้อิจฉา แต่เราก็ยืนยันถึงความสง่างามของวิชาชีพเหมือนกัน คุณกรรณิการ์ เคยบอกว่าพี่ ๆ ที่ได้แล้วต้องแสดงความสามารถและทุ่มเทหน่อย ก็อยากเห็นคนกลุ่มนี้ลุกขึ้นมาพัฒนาวิชาชีพบ้าง อย่าวางเฉย ธุระไม่ใช่ ให้เห้นความแตกต่างบ้างว่าชำนาญการพิเศษ พิเศษอย่างไร ไม่ใช่พิเศษที่อาวุโสอย่างเดียว ควมเห็นที่ 37 เยี่ยมมาก มีหลายคนที่พอเติบใหญ่ก็ลืมว่าตัวเองมีหน้าที่ต้องทดแทนบุญคุณองค์กรอย่างไร การประกาศว่าตนเองเก่งนอกจอ แต่ในจอโดนยี้ ก็ต้องพิจารณาตนเองแล้วค่ะ น้อง ๆ รอให้มาช่วยกันทำงานอย่าเอาแต่เพลิดเลินไป ..สุดท้ายก้ต้องบอกว่า คนคิดเก่ง สวยหรู บอกระดับมาตรฐานวิชาชีพ ไม่ให้คนอื่นดูถูกวิชาชีพ ก็ไม่เป็นไรค่ะ พัฒนากันอีกสักร้อยปีก็ได้ ให้วิชาชีพอื่นเขาไปก่อนเถอะค่ะ เพราะตอนนี้พยาบาลเขากำลังพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป ขวัญกำลังใจไม่ต้องพูดถึง เพราะห่วงแต่หน้าตาวิชาชีพ

เห็นด้วยกับร่าง1ขอให้สบับสนุนคนที่ทำหน้าที่หัวหน้าพยาบาลอยู่แต่ยังไม่ได้ชำนาญการพิเศษ

หลักเกณฑ์

1. อาวุโส

2.,มีความรู้ ความสามารถ ในตำแหน่ง

3.จบ ป.ตรี/เทียบเท่าและผ่านการอบรมด้านบริหาร/ป.โท

ผู้ที่มีสิทธิในการสรรหา

1. ผอก.

2.ผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก

3. บุคลากรพยาบาลในรพ.แห่งนั้น

ทำไมไม่เอาคนที่ทำหน้าที่อยู่แล้วละคะ  แต่ถ้าหัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลใดเกษียณแล้ว แต่ละโรงพยาบาลเขาก็มีเกณฑ์การสรรหาของเขาไว้แล้วไม่น่ายุ่งยากต้องทำเกณฑ์ใหม่  หรือว่ามีที่ไหนมีปัญหา  ถ้ามีปัญหาการไม่ยอมรับจากผู้บริการหรือจากบุคลากรแสดงว่าผู้ที่ทำหน้าที่อยู้แล้วนั้นไม่มีศักยภาพหรือไม่ทำให้ต้องสรรหาคนใหม่  ถ้าเป็นแบบนั้นน่าจะให้เครดิตโรงพยาบาลนั้นๆนะคะ

เสนอตัดหลักเกณฑ์ข้อต่อไปนี้ออกค่ะ

1. เกณฑ์ภาระงาน (ขนาดจำนวนเตียง)  เพราะไม่ว่าจะโรงพยาบาลขนาดเล็กหรือขนาดใหญ๋ ในฐานะหัวหน้าพยาบาลต้องรับผิดชอบงาน

ในเชิงบริหาร  บริการ วิชาการเหมือนกัน  มองให้ดีบางครั้งโรงพยาบาลเกอาจมีปัญหาให้บริหารจัดการมากกว่า เพราะอัตรากำลัง งบประมาณมี

จำกัด  อีกอย่างโรงพยาบาลเล็กๆมักอยู่ห่างไกล บางที่ทรุกันดาร  ....เสนอควรตัดเกณฑ์ข้อนี้ออก

2. ผลงานพัฒนาคุณภาพ  เหตุผลใกล้เคียงกับข้อ 1  บางโรงพยาบาลพยายามจนสุดกำลังแต่ผู้บริหารรพ.ระดับสูงไม่ให้ความสำคัญ

หรืออัตรากำลังมีจำกัด แค่ขึ้นเวร 8  ปกติก็เหนื่อยมากแล้ว   ได้หยุด 2-3 วันต่อเดือน จะมีแรงที่ไหนไปพัฒนาคุณภาพ 

บางครั้งส่งประเมิน แต่สำนักหรือสภาไม่มีได้ออกมาประเมิน ล่าช้าไปเป็นปี..ปี ก็มี  ...เสนอควรตัดเกณฑ์ข้อนี้ออก

3.  เกณฑ์ที่ควรเป็นอันดับหนึ่งเลย คือ  ปฏิบัติงานในตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล  มาก่อน 

บางจังหวัดเข้าคิวเรียงลำดับไว้  น้องหัวหน้าพยาบาลใหม่ อายุน้อยได้อันดับท้ายๆ  (เพราะเกณฑ์อื่นคิดอายุ ประสบการณ์ ฯลฯ) OK แรกๆพอรับได้

  แต่พอมีพี่หัวหน้าพยาบาลเกษียณออกไป  มีพี่พยาบาลมาเป็นหัวหน้าพยาบาลแทน  ก็เอาไปเรียงใหม่  ทำให้น้องพยาบาลที่อันดับท้ายๆ ก็ต่อคิวยาวไปอีก

 ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้  เสนอว่า  ให้หัวหน้าพยาบาลที่ปฏิบัติงานก่อน ได้ C8  ก่อน  คนที่มาเป็นหัวหน้าพยาบาลทีหลังก็ต่อคิวทีหลัง

4. สุดท้าย  ถ้าจะให้ดีที่สุด ขอให้พยาบาลวิชาชีพทุกคนขึ้นได้ ถึง  C8-9-10....  เหมือนวิชาชีพอื่น  เราจะได้ไม่ต้องมามาเป็น "ไก่จิกตีกันในเข่ง"  ...อีก

ขอบคุณที่ให้โอกาสแสดงความคิดเห็นค่ะ

เรื่องที่อยากให้ชมรมฯดำเนินการด่วนที่สุดตอนนี้ คือ เร่งรัดการแต่งตั้งหัวหน้าพยาบาลที่ปฏิบัติงานอยู่แล้วให้ได้รับการดำรงตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษก่อน เพราะสำนักงานปลัดไม่เห็นความสำคัญของพยาบาลเลย จากที่มีหนังสือเร่งรัดการใช้ตำแหน่งว่าไม่มี ตำแหน่งของพยาบาลวิชาชีพ