มีความคืบหน้ามาแจ้งครับสำหรับพี่น้อง พยาบาลเทคนิค 

จากการที่ พี่ๆน้องๆ พยาบาลเทคนิค  ได้ฟ้องต่อศาลปกครอง และได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อกรรมาธิการสารณสุข กรณีไม่สามารถปรับเปลี่ยนจากพยาบาลเทคนิค ชำนาญงาน เป็นพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ได้โดยไม่ต้องลดขั้นและลดเงินเดือน นั้น สภาการได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะท่านนายกสภาการพยาบาลได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากและคอยติดตามความคืบหน้า โดยตลอด  และวันที่  5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ท่านนายกสภาการพยายาล ได้มอบหมายให้กระผมนายอาคม  มีเมล์ กรรมการสภาการพยาบาลได้เป็นตัวแทนสภาการพยาบาล เข้าร่วมการประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการสาธารณสุข เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลต่อคณะกรรมาธิการสาธาณสุข สภาผู้แทนราษฏร โดยการประชุมดังกล่าวมีผู้แทนจาก สำนักงาน  กพ. และผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมชี้แจงด้วย

จึงขอสรุปผลการประชุมดังกล่าวให้ทราบดังนี้ครับ

  1.  การขอความเป็นธรรมกณีพิจารณาปรับเปลี่ยนพยาบาลเทคนิค ชำนาญงานเป็นพยาบาล

                       วิชาชีพ ชำนาญการ                

สาเหตุ เนื่องจาก พรบ.ข้าราชการพลเรือน ปี 2551  

1.1.  สำนักงาน กพ. ได้กำหนดมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง ว่า พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ กำหนดให้

           แต่งตั้งจากผู้ดำรงตำแหน่ง ระดับปฏิบัติการ ที่มีอายุปฏิบัติการมากกว่าหรือเท่ากับ   6 ปี

1.2.  หนังสือ กพ ที่  นร 1006/ว19 ลว   11  ธค  51  กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งระดับปฏิบัติการระดับ 5

            มากว่าหรือเท่ากับ  2 ปี  หรือ ระดับ  4 มากกว่าหรือเท่ากับ  4 ปี  ให้ดำรงตำแหน่งชำนาญการได้

1.3.  หนังสือ กพ ที่  นร 1006/ว12 ลว   11  ธค  51  กำหนดให้ เทียบการดำรงตำแหน่ง ระดับ  3 – 5 

           ในสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 3 ( สายวิชาการ ) เที่ยบเท่าการดำรงตำแหน่งระดับปฏิบัติการ           

     จากเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้พยาบาลเทคนิค (ไม่ว่าจะดำรงระดับใด หรือเป็นระยะเท่าใด ) จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการได้โดยการประเมินเลื่อนไหลได้เลย  ข้าราชการดังกล่าว หากจะดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ ต้องลดระดับ เป็นระดับปฏิบัติการ และลดเงินเดือน ให้ไม่เกิน 22,220 (เงินเดือนขั้นสูงสุดของ ระดับปฏิบัติการ )

แนวทางแก้ไข

        เพื่อเป็นการเยียวยา กลุ่มข้าราชการดังกล่าว ที่ได้รับผลกระทบจาก  พรบ ข้าราชการพลเรือน ปี  2551 ให้รวดเร็วขึ้น ผู้แทนสำนักงาน  กพ. ได้เสนอแนวทางดังนี้ 

        สำนักงาน กพ. จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ  กพ. เพื่อกำหนดมาตรฐานของตำแหน่งทางวิชาการ และกำหนดคุณสมบัติของบุคคลเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการใหม่ ( ตำแหน่งทั่วไป ชำนาญงาน ที่มีวุฒิการศึกษา  มีลักษณะงานเกื้อหนุน ต่อตำแหน่งวิชาการ สามารถประเมินเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นตำแหน่งสายวิชาการ ระดับชำนาญการได้) ทำให้ข้าราชการดังกล่าว  สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการได้ โดยไม่ต้องลดขั้น และลดเงินเดือน  ซึ่งแนวทางดังกล่าว สำนักงาน กพ สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องผ่าน มติ  ครม

 กรณีดังกล่าว กระผมได้ขอให้สำนักงาน กพ ได้เร่งทบทวนเกณฑ์ดังกล่าว เนื่อง จากก่อนที่สำนักงาน กพ จะออก พรบข้าราชการพลเรือนปี 2551  ได้ยำเสมอว่า จะไม่กระทบเทือนสิทธิอันมีอยู่เดิมของข้าราชการ  แต่ปรากฏว่า กรณีความเดือดร้อนดังกล่าว เป็นผลที่เกิดจาก   พรบ โดยตรง และข้าราชการกลุ่มดังกล่าวได้เสียสิทธิมา  2  ปีกว่า ดังนั้นต้องรีบดำเนินการเพื่อคืนความเป็นธรรมให้ข้าราชการกลุ่มดังกล่าวโดยเร็วที่สุด

 2. ขอความเป็นธรรมกรณีทบทวนการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อกำหนดเป็นตำแหน่งพยาบาล

                     วิชาชีพชำนาญการพิเศษ( งานการพยาบาลห้องคลอด )

สาเหตุ    จาก หลักเกณฑ์  สำนักงาน  กพ ที่  นร 0707.9/317 ลว   25เมย 39 และ หลักเกณฑ์  สำนักงาน  กพ ที่  นร 0707.3.3/683 ลว   30  ธค  52 ทำให้พยาบาลวิชาชีพ  ชำนาญการที่ปฏิบัติงานในห้องคลอด ที่มีผู้รับบริการไม่เป็นไปตามเกณฑ์ ไม่สามารถขอประเมินเป็นพยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการพิเศษ งานห้องคลอดได้

แนวทางแก้ไข

              ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการทบทวนเกณฑ์ดังกล่าว และได้เชิญตัวแทนพยาบาลวิชาชีพ ในทุกงานในโรงพยาบาลทุกระดับ เข้าร่วมปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการอยู่ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วจะนำเสนอ อกพ กระทรวงสาธาณุสข และ สำนักงาน  กพ เป็นลำดับต่อไป  

           กรณีดังกล่าว กระผมได้ขอให้กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการทบทวนเรื่องหลักเกณฑ์ การกำหนดเกณฑ์การเข้าสู่ตำแหน่งชำนาญการพิเศษทุกตำแหน่งทางการพยาบาล ให้เน้นประเด็น คุณภาพ ความยุ่งยากซับซ้อน ความเสี่ยง ที่พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ  ต้องปฏิบัติ ตลอดจนถึงต้องนำหลักความขาดแคลนเข้ามามีส่วนด้วย โดยไม่เน้นปริมาณผู้ป่วยเป็นหลัก ซึ่งประธานอนุกรรมาธิการสาธารณสุขสภาผู้แทนราษฏร ได้ขอให้กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการต่อไป เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและขวัญกำลังใจแก่บุคลากรดังกล่าวและบุคลากรสาธารณสุขอื่นที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันด้วย

           จากประเด็นดังกล่าว ทางกรรมาธิการสาธาณสุข จะติดตามการแก้ปัญหาของทั้ง กพ และ สป และจะแจ้งผลการดำเนินให้ผู้ร้องขอความเป็นธรรมต่อไป

และจากการประชุมคณะกรรมการสภาการพยาบาลเมื่อวันที่  6  สิงหาคม ที่ประชุม ได้มอบหมายให้ ท่านอุปนายกคนที่ 2  ดร.กฤษดา แสวงดี  , อ.วารุณี( ที่ปรึกษากฏหมายสภาการพยาบาล ) และกระผม ได้ติดตามเรื่องดังกล่าว หากมีความคืบหน้าอย่างไร จะนำมาแจ้งต่อไปครับ

ท่านคะ แล้วดิฉันถูกลดเงินเดือนไปแล้วจากผู้ที่มีความสามารถใช้คำพูดให้ตัดสินใจ  ทั้งๆที่รู้ว่าเดือดร้อนและไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้ ได้ พวกเราอยากให้ท่านช่วยเหลือเรา กรุณา แนะนำให้เราได้หายเครียด ทุกวันนี้ทำงานแบบเครียดมากเครียดตั้งแต่รู้ว่าต้องถูกลดเงินเดือนจนถึงปัจจุบัน เพราะไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรเงินเดือนจะเท่าเดิมอีก  เพราะไม่อยากมีปัญหาในที่ทำงานจึงจำเป็นต้องลดเงินเดือนแต่ก็ต้องอยู่ไปกับความเครียดตลอด ถ้าเป็นไปได้อยากกลับไปอยู่เทคนิคชำนาญงานเหมือนเดิม

 พยาบาลเทคนิค อยากเรียนต่อ มสธ

 มีที่ไหนรับต่อเนื่องบ้างคะ